เอกสารงานวิจัยที่เพิ่งได้รับการเผยแพร่ใหม่ระบุว่า ภาพถ่ายดิจิทัลแต่ละภาพมีลักษณะเฉพาะซึ่งรวมถึงรูปแบบของ noise ที่เกิดในภาพแตกต่างกันออกไป ซึ่งอาจทำให้ระบุได้ว่าภาพถ่ายนั้นถูกถ่ายโดยใคร และงานวิจัยนี้อาจเป็นประโยชน์ต่องานสืบสวนหาผู้กระทำผิด (เช่น ถ่ายภาพอนาจารเด็ก, ขโมยสมาร์ทโฟนแล้วมาใช้งานถ่ายภาพ) ในอนาคต
งานวิจัยนี้เป็นผลงานของ Riccardo Satta และ Pasquale Stirparo ซึ่งเป็นนักวิจัยจากสถาบันเพื่อการป้องกันและความปลอดภัยพลเมืองของคณะกรรมการยุโรป มีเนื้อหาเกี่ยวกับการศึกษาลักษณะเฉพาะของภาพถ่ายดิจิทัล โดยระบุว่าภาพที่ถูกถ่ายมาจากอุปกรณ์ตัวเดียวกัน จะมีลักษณะเฉพาะซึ่งรวมถึงรูปแบบของ noise เกิดขึ้นในรูปแบบเดียวกันในทุกภาพ ทว่าภาพที่ถ่ายมาจากอุปกรณ์ต่างชิ้นกันจะมีลักษณะดังกล่าวแตกต่างกัน
ทีมวิจัยได้ทดลองรวบรวมข้อมูลภาพถ่ายจากเครือข่ายสังคมออนไลน์อย่าง Facebook, Google+, Tumblr, Flickr รวมถึงบล็อกต่างๆ และทำการจับคู่ภาพถ่ายที่มีลักษณะเฉพาะแบบเดียวกันเพื่อระบุตัวผู้ถ่ายภาพ ผลการทดสอบมีความถูกต้องราว 56%
แม้ว่าผลการทดสอบที่ออกมายังถือว่าการระบุผู้ถ่ายภาพจากภาพถ่ายยังไม่แม่นยำนัก แต่ผู้วิจัยก็มองว่าอย่างน้อยเทคนิคนี้ก็ยังคงเป็นประโยชน์สำหรับงานสืบสวนหาผู้กระทำผิดบนอินเทอร์เน็ตได้โดยการจำกัดวงผู้ต้องสงสัยให้แคบลง ซึ่งก็ถือว่ายังดีกว่าการสุ่มไล่ตรวจสอบรายละเอียดข้อมูลของทุกคนบนอินเทอร์เน็ต
ที่มา - The Verge , เอกสารงานวิจัย
Comments
มันอาจพิสูจน์ว่าถ่ายโดยอุปกรณ์รุ่นไหน แต่ต้องพิสูจน์ให้ได้ด้วยว่าใครเป็นคนถ่าย ;)
my blog
ผมว่าเค้าพยายามทำให้มัน unique จนถึงขั้น "กล้องตัวนี้" เลยนะครับถ้าอ่านจากข่าว
ทีนี้ก็อาจจะเอามาใช้เป็นหลักฐานได้เหมือนกับเวลาเราตรวจว่ากระสุนถูกยิงจากปืนกระบอกไหนได้ล่ะมั้ง
งานวิจัยหัวข้อแนวนี้ผมเคยอ่านเจอมาหลายปีแล้วครับ
ว่าสามารถระบุว่าใช้กล้องตัวไหนถ่ายได้
แต่ข้อจำกัดเมื่อก่อนคือ ถ้ารูปถูกย่อหรือขยาย ก็ตรวจสอบไม่ได้แล้ว
ถ้าภาพนั้นถูกดัดแปลงตัดแต่งก่อนทำการเผยแพร่ เทคนิคนี้จะยังได้ผลอีกหรือไม่ครับ ?
น่าจะคล้ายๆ รอยนิ้วมือนะครับ คือมีลักษณะร่วมบางอย่างที่ทำให้สามารถพิสูจน์บุคคลได้ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะตรง 100% ในกรณีนี้ก็คงต้องมีหลักฐานอื่นประกอบด้วย
"ผลการทดสอบมีความถูกต้องราว 56%"
ถ้ายังทำได้แค่นี้เอารูปสองใบมาวางแล้วโยนหัวก้อยทายเอาก็ได้รึเปล่านะ?
คงใช้หา lead มากกว่าจะเอามามัดตัวนะ
เพราะถ้าแม่นยำแค่นี้ ผมสุ่มเอารูปสองใบจากคนสองคนใดๆ ทุกๆสองคู่ ระบบจะบอกว่ามาจากกล้องเดียวกัน ?!?
ก่อนโพส เอาเข้า photoshop สั่ง reduce noice แล้ว add noice เข้าไปเพิ่ม ซัก 2-3 รอบ, ขยายภาพแบบ resample ซัก 4 เท่า แล้วลดขนาดมาเท่าเดิม..
iPAtS
+1 คิดแบบเดียวกันเลย แล้วก็ลบ exif ทิ้งด้วย
Jusci - Google Plus - Twitter
แค่ noise reduction ในกล้องก็น่าจะพอแล้วมั้งครับ
samsung ใหญ่แค่ใหน ?https://youtu.be/6Afpey7Eldo
ผมว่าไม่น่าจะพอนะครับ จากที่คิดๆ ดูน่าจะเป็นการหาลักษณะเฉพาะของ defect ที่เป็นรูปแบบเฉพาะตัวของแต่ละกล้องถึงจะใช้กล้องตัวนั้นมาทำ noise reduction ก็อาจจะยังหลงเหลืออัตลักษณ์เฉพาะตัวจากอัลกอริทึ่มที่เอามาทำ noise reduction เข้าไปอีก
Noise Pattern มีอยู่ในกล้องทุกตัวนะครับ แต่สงสัยว่าหากมีการปรับเปลี่ยน Firmware ที่มีการเปลี่ยน Noise Pattern ไปแล้ว การตามรอยคงจะยากขึ้นมากครับ แต่สัญลักษณ์ Noise Pattern แต่ละกล้องก็น่าจะมีลักษณะเฉพาะตัวอยู่แล้วครับ แค่รู้สึกว่ามันจะไม่นิ่งหากเจอสภาพการใช้งานแตกต่างกัน ทั้งความร้อน จำนวนแสงที่เข้ามา การปรับ ISO ที่ค่าสูงมากๆ หรือถ่ายในสภาพที่ทำให้เซ็นเซอร์เสียศูนย์ (ถ่ายเลเซอร์ในผับ)
การจับหา % ความเหมือนจาก Pattern Noise ที่คงเหลืออยู่จึงไม่ค่อยแน่นอนและแม่นยำครับ .... ผมว่าคงเอาไว้ได้แค่อ้างอิงพื้นฐานเท่านั้นครับ
คงใช้เป็นหลักฐานหลักมัดตัวยากอยู่นะครับ : )
ขอบคุณครับ สวัสดีครับ