หลังจากที่ Google Glass วางขายในสหราชอาณาจักร ไม่นาน ก็ถูกบริษัทสตาร์ทอัพแห่งหนึ่งของอังกฤษแฮกเข้าแล้ว โดยการแฮกนี้ ทำให้ Glass สามารถรับคำสั่งจากคลื่นสมองได้ ผ่านแอพพลิเคชัน MindRDR และอุปกรณ์ตรวจจับคลื่นสมองหรือ electroencephalography (EEG) ที่ต้องติดตั้งเพิ่มเข้าไปกับตัวแว่นนั่นเอง
เมื่อติดตั้งแล้ว ผู้ใช้สามารถสั่งให้ Glass ถ่ายรูปแล้วโพสต์ขึ้นโซเชียลมีเดียได้ด้วยการคิดเท่านั้น ทั้งนี้เกิดจากการที่ตัวแอพสามารถตรวจจับคลื่นสมองที่เปลี่ยนแปลง เมื่อผู้ใช้เพ่งสมาธิมากขึ้น
อย่างไรก็ดีทางกูเกิลไม่ยอมรับการใช้งาน Google Glass แบบนี้ พร้อมทั้งกล่าวว่าแอพ MindRDR จะไม่ได้รับอนุญาตให้ขึ้นบน Glass app store
ที่มา - BBC
Comments
eeg มันทำใด้ขนาดนั้นแล้วเหรอ
samsung ใหญ่แค่ใหน ?https://youtu.be/6Afpey7Eldo
เฮ้ย อะไรมันจะขนาดนั้น
..: เรื่อยไป
แปลกๆ นะครับ ทำไมกูเกิลทำตัวไม่เหมือนกูเกิลเลย -_-
แค่ปกคิก็โดนห้ามใส่ glass เข้าสถานที่หลาย ๆ แห่งแล้วยิ่งถ้าหากสามารถสั่งการได้โดยแค่คิด (ไม่ส่อการกระทำให้เห็นชัดเจนว่ากำลังทำ เช่นถ่ายรูป) แบบนี้ยิ่งทำให้ glass ยิ่งโดนห้ามใช้งานเข้าไปใหญ่ ผมว่า google เลยตัดไฟแต่ต้นลมซะ
แต่ผมคิดว่าเค้าคุยกันหลังไมค์ไปแล้ว ดีไม่ดีเดี๋ยวกูเกิลซื้อ บ. นี้ด้วย
+1 Google คงสนใจเป็นพิเศษด้วยซ้ำแต่ที่ block ก่อนคงเพราะกลัวปัญหาที่ชนอยู่ตอนนี้ เช่น ผลกระทบต่อสุขภาพ
ข่าวต่อมา google เข้าซื้อบริษัทสตาร์ทอัพแห่งหนึ่งในอังกฤษ
อยากได้แหะ แต่ทำเป็นเกมส์ ช่วยฝึกสมาธิได้
ข่าวถัดไป MindRDR ถูกซื้อโดยกูเกิล
อุปกรณ์เสริมถ้าสวมตามภาพมันดูประเจิดประเจ้อไปหรือเปล่า
อีกหน่อยจะควบคุมความคิดได้เลยไหมเนี้ย
เทพ!!
นึกถึง accel world เลย o
ข้ามหน้าข้ามตารึเปล่า 555+ไม่ยอมรับนี่น่าจะให้เหตุผลซักหน่อยนะ
สวด ยอด แค่คิดก็สั่งงานได้
โห!!! เดี๋ยวนี้มันทำได้ขนาดนี้เลยหรอเนี่ย แอบตกใจนิดนึง
ข่าวต่อไป เพื่อให้แอพขึ้นสโตร์ได้ ทีมงานจึงเปลี่ยนชื่อแอพเป็น "มโน"
ข่าวต่อไป Apple เข้าเทคโอเวอร์ MindRDR ห๊ะ!!
//กราบ
บล็อกส่วนตัวที่อัพเดตตามอารมณ์และความขยัน :P
ละครรึป่าว
นึกถึงสภาพเวลามีคนใส่เจ้านี้เข้าห้องน้ำชาย แล้วมายืนข้างๆ =*=)
ทั้งสุดยอดและน่ากลัวในเวลาเดียวกัน..
โพส => โพสต์
กรี๊ดเลย ถ้าสำเร็จจะรู้สึกว่า google glass สำเร็จจริงๆ เพราะลำพัง ไอ้ที่ต้องสั่งด้วยเสียง เนี่ยไม่ชอบเลย ไม่ส่วนตัวเลย เหมือนจะต้องพูดคนเดียวว่าจะทำอะไร ตลกพิกล
ตอนแรกก็นึกว่าต้องสวมหมวก EEG ใครมันจะไปใส่ฟระhttps://www.sacklerinstitute.org/cornell/about_the_institute/tour/images/14_EEG.jpg
Frontal Lobe (สมองส่วนหน้า) จุดเดียวพอ เพราะเป็นส่วนของประสาทสั่งการครับ
ดีไม่ดีอาจจะมีการแฮ็กเข้าไปในสมองเพื่อขโมยความคิดได้แน่ๆ แบบ Inception น่ะครับ หุหุ
ต้องพูดในใจว่า "OK Glass" ด้วยไหมนะ ?
ไปถึงขั้นที่พิมพ์ตามความคิดได้รึยังนะ หลังๆเบื่อพิมพ์ด้วยนิ้วมาก จะเอาแมวมาพิมพ์แทนก็ไม่ได้...
ทำไมผมเห็นคนอื่นให้แมวพิมพ์แทนกันเยอะแยะเลยล่ะครับ ลองปรึกษาคนเหล่านั้นดู /เผ่น
ถ้าต้องการแบบแม่นและเร็ว คุณต้องเปิดกระโหลกแล้วฝังแผ่น sensor ครับ (ไม่ได้พูดเล่นนะ)
ซื้่อชัวร์ Google บอกไม่ต้องขึ้นไม่ให้ขึ้น เพราะมันจะเป็นฟีเจอร์ยุคต่อไปของ Google Glass 55
เห็นเทคโนโลยีนี้แล้วรู้สึกกลัวจัง
Educational Technician
สงสัยจะกลัวเหมือนกรณีในการ์ตูนเรื่อง Sword Art Online มั้ง
ผมว่ากูเกิลรู้ดีว่าอันไหนเกิดได้หรือไม่ได้นะครับ
เกี่ยวข้องกับทางทหารหรือเปล่านะ...
คือมันไม่ได้ใช้ของใหม่อะไรนะครับอย่าเพิ่งคิดว่า EEG มันไปไกลมากแล้ว ถ้าอ่านในเว็บบริษัทจะเห็นว่าเค้าใช้ตัวอ่าน EEG ของ Neurosky (เจ้าเดียวกับที่ทำหูแมวกระดิกตามคลื่นสมอง Nekomimi) ซึ่งตัว Neurosky เนี่ยถ้าใครเคยซื้อมาลองเล่นจะรู้ว่ามันจำทำการวิเคราะห์ค่า Attention, Mediation ได้แบบคร่าวๆอยู่แล้ว
ตัว MindMDR เท่าที่ดูคือใช้หลักการเดียวกับเกมส์ฟรีที่แถมมากับตัวอ่าน EEG ของ Neurosky เลยครับ คือพอค่า Attention เราสูงถึงจุดนึงมันก็จะทำการถ่ายรูป(แต่ในเกมส์ฟรีจะเป็นระเบิดหัวซอมบี้) แล้วเค้าก็เขียนให้หลังจากถ่ายภาพแล้วแชร์เข้า Social Network ครับ
ส่วนตัวก็ชอบนะดูเป็นของเล่นที่น่ารักดี แต่ปัญหาคือหลังจากที่ผมเคยเล่นตัวอ่าน EEG ของ NeuroSky มาพักนึงผมก็พบว่าตัวแผ่น Electrode มันไม่ค่อยเสถียร(ส่วนนึงเพราะมันเป็น dry electrode แล้วก็วัสดุที่ใช้มันค่อนข้างแย่ แต่อย่างว่าครับราคาไม่ถึง 200$ ทำได้ขนาดนี้ก็ว่าเค้าไม่ได้อ่ะนะ) ยิ่งผมเป็นคนหน้ามันนี่เล่นได้ไม่เกิน 10-20 นาทีก็อ่านค่ามั่วละฮะ
จริงๆแล้วพี่แกกำลังพัฒนาอยู่เงียบๆ รึเปล่า พอมีบริษัทนี้ประกาศออกมาเลยเบรคไว้ก่อน เพราะตัวเองทำอยู่