Eric Jackson ผู้ถือหุ้น Yahoo! และคอลัมนิสต์นิตยสาร Forbes ซึ่งเคยเป็นผู้สนับสนุนซีอีโอ Marissa Mayer ในช่วงที่เธอเข้ามารับตำแหน่งใหม่ๆ เริ่มเปลี่ยนท่าที โดยมองว่าผลงานของเธอตลอด 2 ปีที่ผ่านมาไม่มีอะไรคืบหน้า และตัดสินใจผิดหลายเรื่อง เขาจึงเขียนบทความตีแผ่ผลงานของ Mayer เป็นซีรีส์ ซึ่งมีประเด็นสำคัญดังนี้
- พื้นเพของ Mayer เป็นวิศวกร ไม่มีพื้นฐานด้านธุรกิจและงานขาย เธอใช้วิธีดึงตัว Henrique De Castro จากกูเกิลมานั่งเป็นซีโอโอ แต่ ปลดออกในอีก 15 เดือนให้หลัง แถมยังต้องเสียเงินค่าชดเชยให้ De Castro สูงถึง 58 ล้านดอลลาร์
- Yahoo! เป็นบริษัทที่มีคนเยอะมาก (ประมาณ 12,000 คน) เทียบกับบริษัทออนไลน์ที่มีรายได้ใกล้เคียงกันอย่าง IAC กลับใช้คนเพียง 4,000 คนเท่านั้น แต่หลังจาก Mayer มาเป็นซีอีโอได้สองปี เธอไม่ปลดคนเลย แถมเพิ่มคนด้วยซ้ำจากการซื้อกิจการจำนวนมาก ผลกระทบจึงเกิดกับบริษัททั้งในแง่ค่าใช้จ่ายและความคล่องตัวในการทำงาน
- Mayer ทุ่มเงินซื้อ Tumblr ที่ยังไม่เกิดประโยชน์กับธุรกิจ และใช้เงินเยอะมากไปกับซื้อกิจการเล็กๆ เพื่อดึงคนมาทำงาน ซึ่งไม่คุ้มค่าเลย (เช่น ซื้อ 30 ล้านดอลลาร์ ได้พนักงานเพิ่มมา 3 คน) แถม Yahoo! ยังจะได้เงินก้อนใหญ่จากการขายหุ้นที่ถือใน Alibaba เมื่อ Alibaba เข้าตลาดหลักทรัพย์ และ Mayer ประกาศว่าจะนำเงินบางส่วนไปใช้ซื้อกิจการเพิ่มอีก
- Mayer ไปสนใจกิจการใหม่ๆ เช่น mobile (ที่ควรจะทำได้ดีกว่านี้มาก) แต่กลับไม่สนใจธุรกิจหลักของตัวเองอย่างการโฆษณาและคอนเทนต์ บริการของบริษัทที่คนเข้าเยอะมากๆ อย่าง Yahoo! Sports และ Finance กลับถูกทอดทิ้ง
Eric Jackson เสนอว่าทางออกของ Yahoo! ควรเป็นการขายกิจการให้ยักษ์ใหญ่ฝั่งเอเชียอย่าง Alibaba หรือ SoftBank แต่ก็ไม่ง่ายนักเพราะพื้นฐานธุรกิจของ Yahoo! ตอนนี้ไม่ค่อยดี (ถ้าคิดมูลค่าบริษัทของ Yahoo! โดยหักมูลค่าหุ้นที่ Yahoo! ไปถือไว้ใน Alibaba และ Yahoo Japan แล้ว ธุรกิจของ Yahoo! มีมูลค่าติดลบ 400 ล้านดอลลาร์)
ย้ำอีกรอบว่านี่เป็นมุมมองของ "นักลงทุน" ที่ถือหุ้นอยู่ใน Yahoo! นะครับ
Comments
ใครมันจะตัดสินใจถูกไปซะทุกเรื่อง ไม่ใช่พระเจ้า จะได้รู้อนาคต
ผมก็สงสัยเดี๋ยวนี้yahooทำธุรกิจอะไรบ้าง อะไรที่yahooทำก็โดน googleกินเรียบ
คู่ต่อสู้แข็งเกิน
yahoo finance ผมว่าแข็งมาก แต่กลับโดน mayer เมิน กลายเป็นโดนคู่แข่งไล่จี้ตูด
+1 จริงครับ ปัญหาของ Yahoo ตอนนี้คือเรื่องคู่แข่ง สืบเนื่องมากจากการที่พยายามจะทำทุกอย่าง ทำให้คู่แข่งมีมากกว่าบริษัททั่วไปเว็บที่วาง Position ตัวเองเป็นเว็บ Portal อย่าง Yahoo เคยรุ่งเรืองมาก่อนเพราะ 1.เป็นเจ้าตลาดด้านEmail เลยได้อานิสงส์เป็น Traffic 2.ตอนนั้นคู่แข่งจากโลก Offline ยังตามเข้ามาไม่ทัน
ความรู้สึกของผมเมื่อเข้าเว็บ Yahoo คือ ผมไม่รู้ว่าเว็บนี้ เค้าทำอะไรกันแน่ เค้าจะทำเป็น Search หรือว่า Mail หรือว่า Finance หรือว่าอะไรหว่าาาาา สมัยนี้มันต้อง Focus แล้วมั้งครับ ไม่ใช่เหมือนยุคก่อน ที่ใครยัดเยอะกว่ากัน คนนั้นชนะ
จริงๆ google นี่แหละตัวดี ทำทุกอย่างเลย
search - google
browse - chrome
mail - gmail
cloud - g drive
mobile - android
etc...
เรื่องYahoo เป็นที่กึ๋นคนบริหารจริงๆแหละที่จะเชื่อมบริการต่างๆของตัวเอง ให้ออกมาดีได้อย่างไร
ทำทุกอย่างของ Google นี่มีเหตุผลนะครับ ซึ่งแน่นอนว่าคนละเหตุผลกับ Yahoo,Microsoft ครับ
google ทำทุกอย่างก็จริงแต่ก็แสดงตัวตนชัดเจนทุกโปรดักซ์นะครับ
ไม่มีใครเรียก chrome ว่าเป็น google briowser ,Gmail ว่า Google mail ,android ว่า google mobile เลยนะครับ สื่อถึงคนใช้ก็เข้าใจง่าย แต่ yahoo ไม่มีที่จัดเจนเลย
การเชื่อมต่อผลิตภัณฑ์ก็ไม่ค่อยได้เรื่อง ดูอย่างง่ายๆก็ launcher Aviete แทบจะไม่ได้เอาความได้เปรียบที่ตนมีอยู่มาผนวกใช้เลย
ผมว่าเพราะ google มี ecosystem ของตัวเองด้วยเปล่า? (android, chrome os etc etc, แถม android คนใช้เยอะด้วย มันก็เลย integrated กันง่ายเลย)
ก็ไม่เห็นมีอะไรเปลี่ยนแปลง
เมื่อไรเจ๊จะเทน้ำแข็งครับ
Educational Technician
นั่นสินะ ceo บริษัทดังๆ ที่อื่นโดนไปหมดแล้ว ทำไมคนนี้ไม่โดนท้าบ้าง
Finance, Sports, News เจ๋งนะ แต่ว่า... ก็ยังเหมือนเดิม เมื่อก่อนผมใช้ Finance ประจำ ตอนนี้ถ้าแปลงค่าเงินรีบ ๆ ก็ใช้ Google หรือจะดูแบบละเอียดหน่อยก็ Bing Finance บน Metro
ส่วน News นี่ยังใช้ได้อยู่ ไม่ต้องเข้าหลายเว็บ ได้ข่าวเพียบ (แต่หลัง ๆ ขี้เกียจละ อ่านจาก News Digest พอ)
แอพมือถือก็เจ๋งนะ แต่ไม่สุดอ่ะ น่าจะปรับปรุงได้อีก ชอบ News Digest กับ Weather มาก รวมทั้ง Aviate ก็ชอบนะ แต่มันไม่สุดอ่ะ (กินแรมเยอะพอควรเลยนะพวกนี้)
ผมเห็นด้วยเรื่องซื้อ Tumblr นะ น่าจะโตได้อยู่ แต่เธอไม่เห็นจะหาเงินจากมันสักที ซึ่งน่าจะทำได้ไม่ต่างกับที่ Twitter, Instagram, Facebook ทำ (ลอกเขามาเลยก็ได้มั้ง)
ยังไงก็ยังเชียร์เธออยู่
Jusci - Google Plus - Twitter
ใช้เงินเก่ง หาเงินไม่เก่ง
แต่ผมเชียร์อยู่ Marissa เธอจงก้มหน้าทำงานต่อไป
+1
Happiness only real when shared.
เท่าที่ผมติดตามมาตลอดพูดได้คำเดียว "ดีแต่พูด" เหมือนใครบางคนในบ้านเรา 555
พูดยังกับว่า Yahoo ก่อนทีเธอเข้ามา มันอยู่ในสภาพดี
พอเธอเข้ามาแล้ว แค่มันไม่แย่ลงไปในอัตราเดิม ก็ถือว่าดีแล้ว
การจะพลิกกลับมาเป็นมีกำไร ไม่ใช่เรื่องง่าย
ต้องใช้เวลา
คนที่วิเคราะห์ ก็น่าจะมีสติปัญญามากกว่าแค่บอกว่าขายบริษัท เพราะถ้าอย่างนั้น Marissa ก็ทำได้ครับ
+1 บางทีแค่ประคองไม่ให้แย่ไปกว่าเดิมก็เต็มกลืนละ
ด่าคนง่ายกว่าลงมือทำเอง ว่างั้น
คนเข้าหวังว่าเธอเข้ามาจะใช้ทักษะในการสร้างเพราะเธอมีภาพลักษณ์เป็นนักพัฒนา ไม่ใช่ใช้เงินในการกว้านซื้อ เพื่อให้มูลค่าบริษัทมันสูงขึ้น เหมือนกับบริษัทหลายรายที่ใช้วิธีกว้านซื้อเพื่อคงตัวเลขรายได้ให้สูงขึ้นหุ้นจะได้ไม่ตก
อีกอย่าง Yahoo อยู่ในสภาพไม่มั่นคงอยู่แล้ว การซื้อจึงไม่ใช่ทางเลือกที่ดีนัก และยิ่งผ่านมานานขนาดนี้ การซื้อของ mayer มันยังไม่ส่งผลด้าน + แก่ yahoo หลังผ่านไปหลายเดือน พวกผู้ถือหุ้นย่อมไม่สบายใจและออกมากดดัน อีกอย่างเธอไม่ได้ตัดสินใจที่จะปรับลดพนักงานที่มีมากเกินกว่าผลลิตที่ควรจะได้ นั้นยิ่งทำให้บริษัทพลิกพื้นลำบากเพราะเทอะทะเกินไป
ลองอ่านบทวิเคราะห์ต้นฉบับก่อน (มีหลายชิ้นเลย) ก็ไม่เสียหลายนะครับ
อ้าว แล้วข่าวที่ว่า Yahoo! มีทราฟฟิกเพิ่มกลับขึ้นมาเป็นระยะๆ นั่น มันไม่ช่วยให้อะไรดีขึ้นมาเลยเหรอ?
ช่างไฟสมัครเล่น (- -")
ผู้ถือหุ้นก็แบบนี้ทั้งนั้นละ มีตอนไหนบ้างบอกแค่นี้พอ ส่วนตัวมองว่ายังต้องให้เวลาอีกสักปีแล้วค่อยประเมินกันใหม่
ใช้ Yahoo Group อยู่ตอนเรียน
ซึ่งเป็นส่วนที่น่าปรับปรุงให้มันดีกว่าเดิมมากกกกก
เวลาคุยงาน หรือ ส่ง Assign ต่าง ๆ ยุ่งยาก
แต่จนเรียนจบก็ยังเหมือนเดิม…
Google finance มี set ตั้งนานแล้ว แต่ yahoo ยังไม่ยอมมีสักที
:-)
Yahoo finance เคยมี set ครับหล่ายปีมาแล้วโดเอาออกไป รู้สึกว้่าจะติดปัญหากฏหมายกับบริษัทในไทยที่รับทำข้อมูลset
แล้วเราจะมองการปลดพนักงานของไมโครซอฟท์ว่าไงดี สัตยาทำงานได้เร็วว่าเจ๊เยอะนะครับ
ผมว่าเจ๊แกเป็น engineer มาก่อนน่าจะได้เปรียบกว่า bu โดยตรงอยุ่แล้ว รอดูต่อไป
Yahoo ไม่ได้เข้านานแล้ว ลืมอีเมล์ไปแล้วด้วย --'