ย้อนกลับไปประมาณปลายเดือนกรกฎาคม Bose ได้ยื่นฟ้อง Beats ฐานละเมิดสิทธิบัตรเทคโนโลยีตัดเสียงรบกวน รวมทั้งยื่นเรื่องให้คณะกรรมาธิการการค้าระหว่างประเทศของสหรัฐ (International Trade Commission: ITC) ระงับการนำเข้าสินค้าของ Beats ที่ละเมิดสิทธิบัตรด้วย อย่างไรก็ดีผ่านมา 3 เดือน ดูเหมือน 2 ยักษ์ใหญ่ด้านเครื่องเสียงจะสามารถตกลงกันแล้ว
Bloomberg รายงานว่าทาง Bose และ Beats ได้ยื่นเรื่องต่อศาลร่วมกันว่าสามารถหาข้อยุติต่อประเด็นข้างต้นได้แล้ว รวมไปถึงยื่นเรื่องให้ทาง ITC ยกเลิกการสอบสวนกรณีดังกล่าวด้วยเช่นกัน
ที่มา - Bloomberg
Comments
แอปเปิลจัดการไปแล้วสินะครับ
จะได้อยู่บน Apple Online Store ต่อไป
@mamuang
รู้สึกว่า apple จะมี policy เกี่ยวกับการฟ้องร้อง อันใหนมีแนวโน้มว่าจะแพ้ apple จะยอมความนอกศาล พร้อมกับสัญญาไม่เปิดเผยรายละเอียดกับคนภายนอก เพื่อให้ข่าวหายไปเร็วๆ
เป็นส่วนหนึ่งทำให้หลายๆคนคิดไปเองว่า apple ไม่เคยลอกใคร
beats มาเป็น บ. ลูก ก็ต้องทำตาม policy ที่ว่า
samsung ใหญ่แค่ใหน ?https://youtu.be/6Afpey7Eldo
ยอมความนอกศาลและเซ็นสัญญา (ถึงจะเปิดเผยหรือไม่เปิดเผย) ก็น่าจะเรียกว่าซื้อลิขสิทธิ์มาทำนะครับลอก น่าจะหมายถึง ทำขึ้นมาแล้วไปเหมือนหรือคล้ายมากๆกับคนอื่นได้หน้าตาเฉย โดยที่เจ้าของเขาไม่รู้ตัวหรือไม่อนุญาต
อันนี้ไม่ได้บอกว่าแอปเปิ้ลไม่เคยลอกนะครับ เพราะผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่าอันไหนซื้อลิขสิทธิ์มาหรืออันไหนทำมาเหมือนเอาซะดื้อๆ
Apple เคลียร์ให้เอง
เงินมาผ้าหลุด เอ๊ยเงินมาคดีหยุด
ผมอยากรู้ว่า Ive คิดยังไงกับ กรณีนี้ฮะ ...อยากเอาไมโครโฟน ไปจ่อปาก เดี๋ยวนี้เลย
Ive เค้าไม่ได้เป็นตัวตั้งตัวตีในการซื้อ Beats นิ ส่วนไอ้บทความนั้นมันแปลเน้นดราม่าน่ะ ถ้าไปดูต้นขั้วมันจะเป็นอีกเรื่องนึงเลย =__=)
ผมไม่ค่อยชอบคนนี้เลยตั้งแต่ขึ้นมาเป็นตัวหลักการดีไซน์อะไรต่างๆผมรู้สึกว่ามันแย่ๆยังไงก็ไม่รู้
อันนี้ผมเห็นด้วยนะ เพราะมุมมองคนใช้งานทั่วไป design แบบ skeuomorphism มันดูเข้าใจง่ายกว่า design แบบ Flat อยู่แล้ว แต่ตา Ive แกถนัด flat design งานมันก็เลยเป็นแบบนั้น
ส่วนตา scott หัวหอก designer แบบ skeuomorphism ก็บินไปแล้ว เพราะปากดีเกิน =__=)
ตามหลักแล้ว flat design ต้องดูเข้าใจง่ายกว่าแบบ skeuomorphism ครับ แบบเห็นแล้วรู้เลยว่าคืออะไร ถ้าดูยากกว่าแปลว่ายังออกแบบไม่ดีพอ ตัวอย่างที่เห็นทุกวันก็ สัญลักษณ์ห้องน้ำ ป้ายจราจรต่างๆ
ผมยังไม่เคยเจอ flat design ที่ดูง่ายกว่า skeuomorphism เลยนะ คือต่อให้เป็นสัญลักษณ์ก็ตามที ต้องเฟ่งมองสักพักถึงรู้ว่าอะไรเป็นอะไร (กรณีป้ายจราจรถ้าไปดูของต่างประเทศ ป้ายประหลาดๆ ก็งงนะ)
หรือลองดูกรณีเช่น ปุ่มเครื่องคิดเลขน่ะถ้ามองแบบ flat design ครั้งแรกจะเกิดคำถามว่าไอ้นี้น่ะกดได้หรือเปล่าหว่า แต่ถ้า skeuomorphism มองผ่านๆ ก็รู้ทันทีว่า อ๋อปุ่ม ประมาณนั้น
การเข้าใจสัญลักษณ์ต่างๆมันขึ้นอยู่กับประสบการณ์ด้วยครับอย่างถ้าคนไม่เคยเห็นกล้องให้ใช้ skeuomorphism หรือ flat ก็ไม่รู้เหมือนกันว่ามันคืออะไร(เทียบที่คุณบอกเรื่องป้ายจราจรต่างประเทศ) อีกตัวอย่างนึงก็สัญลักษณ์เซบในเกม อย่างสมัยนึงส่วนใหญ่ก็จะใช้รูปดิสก์เก็ต ต่อมาก็ CD อย่างสมัยนี้ก็แทบจะไม่ใช้พวกนั้นแล้วเพราะคนรุ่นใหม่ๆแทบจะไม่รู้จักแล้วมันก็หมดความหมายไปครับ
ส่วนเรื่องปุ่มนี่มันอยู่ที่คนออกแบบครับว่าได้ทำให้มันดูเป็นปุ่มกดหรือเปล่า ตามนี้ ครับ
555+ ดูแล้วนึกถึงตอนลอง Tracking ดู report หน้าจอโปรแกรมเวลาเปลี่ยน Interface ใหม่ ว่าทำไมคนถึงไม่ค่อยกด
สรุปว่าปุ่มพวกตระกูล Buttons inline, Flat buttons User แยกไม่ค่อยออกว่ามันเป็นปุ่ม สุดท้ายต้องเอา Border คลุมถึงแยกออก = =")
พวก Buttons inline กับ icon ผมว่ามันขึ้นอยู่กับตำแหน่งที่มันอยู่ สี แล้วก็วัตถุที่อยู่รอบข้างมันครับ
แต่ใช้ Border นี่เซบสุดครับ แต่ใช้ไม่ดีนี่รกมากๆ คือบาง app ที่ผมเจอเล่น Border มันซะทุกปุ่ม =_=
สารภาพผมก็เป็น 1 ในตัวการ เวลาเขียน App ช่วงหลังๆ ก็เล่น Border มันซะทุกปุ่ม แต่ interface ไม่รกนะ =__=)
สิ่งที่ BOSE มี และเป็นมาตลอด คือ ศิลปะแห่งการออกแบบ อย่างหนึ่งนะครับ
ตัวลำโพงจริงๆของ BOSE อาจจะมีคุณภาพ ไม่สูงเท่าเจ้าอื่น อย่าง B&W , AR , NHT , QEF หรือ อื่นๆ
แต่สูตรตู้ลำโพง ที่คำนวณเรื่อง Standing Wave กับ การสะท้อน มาอย่างดี มันเป็นอีกเรื่องนึง
ลองคิดดูว่า คุณไม่เห็น คลื่นตรงๆ แต่ วิศวะกรณ์ สามารถ ออกแบบตู้ลำโพง กับ แผงวงจร
ที่แสนวิเศษ เข้าใจ ธรรมชาติ ของคลื่นเสียง เป็นอย่างดี
Ive ชอบบอกว่า อย่ามาก๊อบ แนวทางการออกแบบ หรือ ความรู้สึกเวลาใช้งาน
อยากทราบมากๆ ว่า หมอนี่ คิดยังไง เพราะ apple ได้มาในมือแล้วชอบ-เกลียด ?
เงินถังไปโบ้ะหรือเปล่า
โดนอำนาจมืดเข้าไปหรือปล่าว
ฟ้องไปก็เจ็บทั้งคู่ครับ คิดแล้วไม่คุ้มก็ยอมความกันไปดีกว่า Apple สายป่านยาวมากด้วย :-D
เห็นว่าแอปเปิลจะนำสินค้าของ BOSE ออกจากร้านเขาหมดเลยนี่
อันนี้สินะครับhttp://parislemon.com/post/99663064042/this-sure-seems-like-classic-cause-effect-apple