หนังสือพิมพ์ Financial Times มีบทสัมภาษณ์ Larry Page ซีอีโอของกูเกิลอย่างละเอียด โดย Page เล่า เบื้องหลังการจัดโครงสร้างองค์กรใหม่ และเป้าหมายของกูเกิลในอนาคต
- Page ยืนยันว่าเพิ่มอำนาจให้ Sundar Pichai ดูแล "ธุรกิจปัจจุบัน" ของกูเกิล เพื่อให้ตัวเขาเองว่างพอที่จะคิดถึงแผนการของกูเกิลในอนาคต
- เป้าหมายหลักของกูเกิลคือการเปลี่ยนแปลงเชิงสังคม (societal goal) ซึ่งในแง่นี้เขามองว่ากูเกิลยังไม่ประสบความสำเร็จอย่างที่ควรจำเป็น
- เขาบอกว่าภารกิจเดิมของกูเกิลในการจัดระเบียบสารสนเทศของโลก (organise the world’s information and make it universally accessible and useful) อาจเล็กเกินไปแล้ว กูเกิลจำเป็นต้องมีภารกิจใหม่ที่เขากำลังใช้เวลาครุ่นคิดเรื่องนี้อยู่
- ยุทธศาสตร์ของกูเกิลคือนำเงินมหาศาลที่กูเกิลได้จากธุรกิจโฆษณา มาลงทุนในอุตสาหกรรมที่น่าจะเติบโตในอนาคต เช่น เทคโนโลยีชีวภาพหรือหุ่นยนต์
-
ปัจจุบันกูเกิลกำลังทดลองบุกเบิกอุตสาหกรรมที่อยู่ตรงชายขอบ (fringe) ซึ่งหมายถึงวงการที่สามารถนำเทคโนโลยีไปช่วยแก้ปัญหาได้ แต่กลับยังไม่ค่อยมีคนสนใจทำเรื่องนี้มากนัก ตัวอย่างเช่น โครงการรถยนต์ขับเคลื่อนอัตโนมัติ หรือ อาการป่วยของคนชรา
-
เขาบอกว่า Silicon Valley กำลังอยู่ในช่วงขาลง สถานการณ์ไม่ถึงกับล่มสลาย แต่ไม่มีคนสนใจกล้าบุกเบิกเทคโนโลยีใหม่ๆ มากนัก นักลงทุนส่วนใหญ่มักสนใจหากำไรจากบริษัทอินเทอร์เน็ต แต่มีนักลงทุนไม่เกิน 50 รายที่กล้าทุ่มเงินสนับสนุนเทคโนโลยีที่มีโอกาสพลิกโลกและสร้างผลกระทบต่อชีวิตของผู้คน
- สิ่งที่วงการเทคโนโลยีในปัจจุบันยังขาดไม่ใช่เงินหรือความรู้ทางเทคนิค แต่เป็นความทะเยอทะยาน (ambition) ที่จะเปลี่ยนแปลงโลก
- เขาบอกว่าสุดท้ายแล้วต้องมีใครสักคนมาแก้ปัญหาเหล่านี้ และกูเกิลเป็นหนึ่งในนั้น กูเกิลมีทรัพยากรเยอะพอสำหรับทดลองบุกเบิกอุตสาหกรรมต่างๆ ด้วยเทคโนโลยี
- แนวทางของกูเกิลคือแตกบริษัทลูกหรือหน่วยงานอิสระในแต่ละวงการ เช่น Nest, Calico และ Google X ที่มอบหมายให้ Sergey Brin ดูแล
- บุคคลต้นแบบของ Page คือ Warren Buffett นักลงทุนชื่อดัง ที่มองภาพในระยะยาวและมีความอดทนอย่างสูงต่อการลงทุนของเขาเอง
ที่มา - FT.com
Comments
"ภารกิจยึดครองโลก" นี่ยังเล็กไปอีกเหรอครับ #ผิด
เอาจริงๆ ผมว่าโครงการ เหมืองบนดาวเคราะห์น้อย นี่ก็ใหญ่แล้วนา
@ Virusfowl
I'm not a dev. not yet a user.
เชรดดด แค่นี้ก็ครอง internet ทั่วโลกและนะ
Skynet
Shut up and ヽ༼ຈل͜ຈ༽ノ raise your dongers ヽ༼ຈل͜ຈ༽ノ
บุกยึดดาวอังคาร
น่าสนใจหลายประเด็นนะครับ ;)
my blog
เปลี่ยนจากครองโลกเป็นครองจักรวาลสินะ
นึกถึง TED Talk อันนี้เลย
เจสัน ปอนติน (Jason Pontin):เทคโนโลยีจะช่วยแก้ปัญหาที่ยิ่งใหญ่ได้หรือไม่?
โดยเฉพาะอย่างยิ่งกรณีของการที่ VC ไม่กล้าลงทุนในบริษัทที่มีเป้าหมายใหญ่ๆ
ต้องครองโลก เป็นอันดับหนึ่งทุกอย่างตั้งแต่กระดาษไปจนถึงสร้างดวงดาว
ชอบประโยคนี้
Larry Page: "สิ่งที่วงการเทคโนโลยีในปัจจุบันยังขาดไม่ใช่เงินหรือความรู้ทางเทคนิค แต่เป็นความทะเยอทะยาน (ambition) ที่จะเปลี่ยนแปลงโลก"
ผมอยากเปลี่ยนโลก แต่ขาดเงินกับความรู้ทางเทคนิคครับ
+1 555+
ยื่นใบสมัครที่ Google เลยคับ
ผมก็ชอบฮะ แต่พอนึกถึง job ผมว่าความทะเยอทะยาน ไม่ได้ช่วยให้ชีวิตเรามีความสุขแต่อยางได
ถ้าอยากจะเปลี่ยนโลกเลิกนึกถึงความสุขส่วนตัวไปได้เลยครับ
ความสุขของแต่ละคนไม่เหมือนกันนะครับ บางคนอาจจะมีความสุขที่ได้แข่งขัน ได้เหนื่อยยากลำบาก ได้ต่อสู้จนไปยืนอยู่บนจุดสูงสุดก็ได้ครับ
ทดลองเทคโนโลยีชีวภาพ...Umbrella Corp. by Google
ผิด
ขอหุ่นโดเรม่อนจาก Google สักตัว :-D
Apple ยังคิดว่าเป็นคู่แข่งอีกมั้ย
ถ้าการที่สินค้าเค้าขายใด้ทำให้สินค้าเราขายไม่ใด้ ยังไงก็คือคู่แข่งกันนั้นแหละ
samsung ใหญ่แค่ใหน ?https://youtu.be/6Afpey7Eldo
Eric Schmidt พูดไว้ในหนังสือว่า ที่ Google เขาไม่ตั้งเป้ากันที่ 10% แต่จะตั้งเป้ากันที่ 10x (1000%) ก็คือการ Think Big นั่นแหละ
ชอบองค์กรที่มีความคิดแบบนี้อ่ะ พยายามตอบแทนสังคมมากกว่าที่คอยหาแต่เงินอย่างเดียว
งานเปลี่ยนแปลงโลกของ Google มีอะไรบ้าง
เท่าที่นึกออก
- Google Search
- Google Map/Earth/Street view
- Andriod
- Google translate (สะดวกมากในการท่องเว็บโป๊ญี่ปุ่น)
- Self-Driving Car (รอติดตามตอนต่อไป)
นอกจากนั่นก็มีผลงานที่น่าทึ่งที่ผมชอบอีกเท่าที่นึกออก เช่น
- Google SketchUp
- Google Glass
อื่น ๆ เช่น
- Drive
- Gmail
+1 คิดเหมือนกันเลย
การช่วยโลกเป็น by product ไงครับ สิ่งที่จะทำจริง ๆ ของบริษัทคือ maximize profit
เพราะเราไม่สามารถเพิ่มทรัพยากรธรรมชาติ หรือลดการบริโภคของมนุษย์ได้ไงครับ(ให้คุณอดข้าว เพื่อช่วยโลก ทำได้ไหม)
เขาเลยพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ๆ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานแทนไง เทคโนโลยีด้านอวกาศก็เช่นกัน อุปกรณ์เครื่องใช้หลายๆอย่างก็เป็นผลพลอยได้ของเทคโนโลยีอวกาศทั้งนั้น ยังไม่นับถึงโอกาสในการหาพลังงาน ทรัพยากรใหม่ๆในอวกาศ รวมไปถึงการลงทุนพลังงานสะอาด เพื่อมาทดแทนพลังงานฟอสซิล มันไม่ดีตรงไหน?
เรื่องรถยนต์ไร้คนขับ ก็ช่วยเหลือเพิ่มความสะดวก ลดอุบัติเหตุลง ช่วยเหลือชีวิตมนุษย์ทางอ้อมเสียอีก
ความชอบของคนเราไม่เหมือนกันครับ ตราบใดที่คุณยังใช้อุปกรณ์คอมพิวเตอร์ ยังนั่งเล่นเนท ยังกินข้าว กินอาหารจากการซื้อ ก็บริโภคและใช้ทรัพยากรโลกไม่ต่างจากคนอื่นๆนักหรอก
ผมว่าถ้าจะช่วย "โลก" จริงๆ ก็มีแต่ต้องเปลี่ยนความคิดของคนส่วนใหญ่บนโลกให้เห็นแก่สมดุลธรรมชาติมากกว่าความสุขสบายของตัวเอง หรือไม่ก็จำกัดประชากรมนุษย์ (แบบเรื่อง Inferno) เท่านั้นแหละครับ สิ่งที่กูเกิลทำคือการสนองความต้องการของ geek มากกว่า
ถ้าช่วยโลกลักษณะนี้ ไปตัดต่อยีนส์มนุษย์โดยตรงเลยน่าจะง่ายกว่า
ทำให้เป็นมนุษย์สายพันธุ์ใหม่ไปเลย ที่กินน้อยลง บริโภคน้อยลง มีความอยากน้อยลงแต่ถ้าไปอวกาศ มันช่วยให้โลกไฮเทคโนโลยีขึ้นมาเห็นชัดมาก
ส่วนหนังสือศีลธรรม ช่วยอะไรได้ไม่มากหรอก สังเกตุจากคนเมื่อ 2 พันปีที่แล้วนิสัยเป็นอย่างไร คนสมัยปัจจุบันก็ยังมีนิสัยเป็นอย่างนั้นอยู่ ...มันรอวิวัฒนาการนานเกินไปหรือเปล่านี่
มันเป็นเช่นนั้นเองการเปลี่ยนทุกสรรพสิ่ง ก็เป็นเรื่องธรรมชาติของการเปลี่ยนแปลง
Google... ใหญ่เกินไปหรือเปล่า?
เก่าแล้วนะตอนนี้ไม่รู้เป็นยังไงบ้าง ลองจิ้มดูครับ
อิโอเรีย เชนเบิร์ก ?
I am a Gundam = =