ผู้เล่นในตลาดโดรนสำหรับผู้ใช้ทั่วไปเริ่มจะเยอะขึ้นเรื่อยๆ แต่ส่วนมากก็ยังเป็นแค่โดรนบินได้ติดกล้องที่ต้องควบคุมเอง ล่าสุดมีบริษัทหน้าใหม่มาคิดใหม่ทำใหม่ ออกมาเป็น Lily โดรนที่ใช้งานง่ายๆ ด้วยการโยนไปขึ้นไปบนอากาศ แล้วปล่อยให้ตัวเครื่องจัดการขับเคลื่อนตัวเอง
การทำงานของ Lily จะอาศัยตัวเครื่อง GPS ขนาดพกพาสำหรับใส่ไว้ในตัววัตถุที่ต้องการให้โดรนติดตาม (ซึ่งส่วนมากก็คงเป็นคน) หลังจากโยนขึ้นไปแล้ว Lily จะติดตามตัวแบบ โดยอาศัยข้อมูลจากกล้องร่วมกับ GPS และถ่ายภาพในมุมที่ตั้งค่าไว้ โดยสามารถถ่ายวิดีโอได้ความละเอียดสูงสุด 1080p ที่ 60 เฟรมต่อวินาที หรือสโลโมชัน 720p ที่ 120 เฟรมต่อวินาที ภาพนิ่งอยู่ที่ 12 เมกะพิกเซล โดยสามารถควบคุมด้วยมือเพื่อถ่ายภาพนิ่งได้จากตัวอุปกรณ์ GPS สำหรับติดตามตำแหน่ง โดยระยะการติดตามของ Lily ทำได้ตั้งแต่ 1.75 ม. - 30 เมตร ด้วยความเร็วสูงสุด 40 กม. ต่อชั่วโมง ความสูงอยู่ที่ราว 1.75 ม. - 15 เมตร
ตัวเครื่อง Lily ทำมาจากโพลีคาร์บอเนต และอะลูมิเนียม กันน้ำกันฝุ่นในระดับ IP67 (กันน้ำลึกสุด 1 เมตรเป็นเวลา 30 นาที) ขนาดอยู่ที่ 26x26 ซม. หนัก 1.3 กก. ใช้งานได้ยาวนาน 20 นาที ใช้เวลาชาร์จกลับ 20 นาที
ข้อเสียเท่าที่นึกออกตอนนี้คือ Lily ยังไม่มีระบบสำหรับตรวจจับ และหลบหลีก ทำให้การใช้งานควรเป็นสถานที่โล่งกว้าง เพื่อป้องกันการกระแทกกับต้นไม้ หรือผู้คนอื่นๆ นั่นเอง
สำหรับค่าตัวของ Lily เปิดมาที่ 499 เหรียญสำหรับช่วงสั่งจอง (ไม่รวมค่าส่ง) โดยราคาเต็มจะอยู่ที่ 999 เหรียญ ส่งของเดือนกุมภาพันธ์ปีหน้าครับ
ที่มา - The Verge
Comments
กำลังคิดจะเอามาบินตามตอนปั่นจักรยาน เวลามีเหตุอะไรจะได้มีพยานชัดๆ แต่หลบหลีกไม่ได้นี่เกรงว่าจะไปสอยรถเมล์-ต้นไม้เอา
กลัวจะร่วงตั้งแต่เสาไฟฟ้าต้นแรกอะสิครับ โยงกันได้ทุกเสาเลยจริงๆ
ระยะเวลาของแบตคือ 20 นาทีนะครับ
ให้ขนส่ง powerbank ด้วยเลยละกันครับ 555
ติด GoPro ทุกวันนี้ยังไม่ช่วยเท่าไหร่เลยครับ มันได้ชั่วโมงเดียวเอง ปั่นยังไม่ถึงมหา'ลัยเลยแบตหมดละ ขากลับไม่ต้องพูดถึง
มันจะมีฟังก์ชั่นบังคับเองแบบตัวอื่นๆ เปล่าอ่ะ
หน้าตามุ้งมิ้งมาก ๆ ว่าแต่ว่า จะให้มันกลับมา Landing ยังไงล่ะนี่?
เท่าที่ดู ความลับน่าอยู่ที่ tracking device ที่มี GPS ครับ
เวลาเรียกกลับ เครื่องอาจจะไม่ร่อนลงกลางฝ่ามืองามอย่างที่เห็นสักเท่าไรกระมั้ง
หนัก 1.3kg เลยแฮะ ถ้าลดน้ำหนักได้อีกก็น่าจะบินได้นานกว่านี้เยอะ
Pitawat's Blog :: บล็อกผมเองครับ
เข้าใจว่าหนักโมดูลกล้องพร้อมระบบบันทึกภาพครับ
หนักแบต ครับ ตัว AR ที่ผมมีอยู่ก็หนักสุดที่แบ็ต นี่แหละ โมดูล GPS กับตัวบันทึกภาพก็มีส่วนนิดหน่อย วงจรกับมอเตอร์นี่เบามาก
บางคนว่าน้ำหนักมากมันก็มีข้อดีเหมือนกันนะ มันจะลอยในอากาศได้นิ่งและเสถียร
เหมือนเราอยู่บนเรือลำใหญ่ๆจะไม่ค่อยรู้สึกโคลงเคลงเท่าไหร่
แต่ข้อเสียคือมันต้องใช้กำลังขับสูงเปลืองพลังงาน
ผมว่าสิ่งที่ช่วยให้เรารู้สึกว่าเรือใหญ่โคลงน้อยกว่าน่าจะเป็นความกว้างของมันที่มากกว่าคาบของคลื่นนะครับ ไม่น่าจะเป็นเรื่องน้ำหนัก ผมเองไม่ชัวร์ตรงนี้นะครับเป็นเพียงข้อสันนิษฐานส่วนตัว
ผมว่าสำหรับ Copter น่าจะเป็นเรื่องน้ำหนักกับการยึด แรงหมุนมากกว่าครับ ใบพัดที่หมุนก็เหมือน Gyro มันจะมีแรงเหวี่ยงทำให้ตัวเครื่องหมุนไปด้วยถ้าเบาเกินไปน่าจะทำให้โคลงแหละมั้งนะครับ เพราะเหมือนหลักไม่ดี
คล้าย AirDog เหมือนกันนะครับ www.airdog.com
แปลผิดนะครับ แบตเป็นแบบ built-in ถอดเปลี่ยนไม่ได้ เพราะเครื่องมันซีลกันน้ำ ต้องเสียบสายชาร์จเข้าหลังโดรนครับ ใช้เวลาชาร์จ 2 ชม. บินได้ 20 นาที
อ้างอิงจาก The Verge:
Pitawat's Blog :: บล็อกผมเองครับ
โอ้ แก้ละครับ
เคยคิดอยู่ ทำไมเขารู้ความคิดผมได้ไง #มุข
จะขายได้มั๊ยนี่เปิดราคามา พอๆกะ phantom3 เลย ฟังชั่นบินตามตัว นี่เก่าสุดๆละ แค่ไม่ค่อยมีคนใช้
คล้ายๆ Zano ผมสั่งไปใน kickstarter
http://www.flyzano.com/
ดูคลิปไปก็นึกถึงฟันเนลในกันดั้มไป