ช่วงวันสองวันนี้ ผู้ใช้ Facebook น่าจะได้ใช้งานปุ่มไลค์แบบใหม่หรือที่เรียกว่า Reactions กันบ้างแล้ว แต่หลายคนอาจสงสัยว่า "อารมณ์ความรู้สึก" ที่ Facebook มีให้เลือกทั้งหมด 6 แบบ (like, love, haha, wow, sad, angry) ถูกคัดเลือกมาอย่างไร
Wired มีบทสัมภาษณ์ Julie Zhuo หัวหน้าทีมออกแบบผลิตภัณฑ์ที่เป็นคนรับผิดชอบ Reactions เธอเล่าว่า Mark Zuckerberg เป็นคนผลักดันเรื่องนี้ด้วยตัวเอง เขาบอกว่าผู้ใช้อยากได้อะไรที่มากกว่าปุ่มไลค์มานานแล้ว และที่ผ่านมาผู้ใช้เลือกใช้การโพสต์สติ๊กเกอร์หรือข้อความสั้นๆ ในคอมเมนต์เพื่อแสดงอารมณ์ความรู้สึกแทน แต่ในยุคอุปกรณ์พกพา การพิมพ์ข้อความผ่านมือถือนั้นยากลำบากขึ้น Facebook จึงต้องหาทางเลือกที่ง่ายกว่านั้น ซึ่งทางออกชัดเจนว่าใช้ emoji นั่นเอง
ปัญหาขั้นถัดมาของ Facebook คือจะมี emoji ใดให้ใช้งานบ้าง โดยต้องหาสมดุลระหว่างจำนวน emoji ที่หลากหลายจนครอบคลุมความรู้สึกหลายๆ ประเภท แต่ก็ต้องไม่เยอะจนเกินไป ที่ปรึกษาด้านจิตวิทยาให้ความเห็นว่าถ้าจะเอากันจริงๆ ต้องมี emoji ราว 20-25 ตัวถึงจะครอบคลุมความรู้สึกทั้งหมด แต่ทีมงานมองว่าตัวเลขนี้เยอะเกินไป
ทางออกคือหาข้อมูลทางสถิติมาสนับสนุน โดยทีมงาน Facebook วิเคราะห์หาอารมณ์ (sentiment) ที่ผู้ใช้มักโพสต์กันบ่อยๆ บน Facebook ผ่านทั้งสติ๊กเกอร์ emoji และข้อความสั้นๆ เพียงคำเดียว (ผลออกมาพบว่าสติ๊กเกอร์ยอดนิยมคือ love) จนสุดท้ายลดลงมาเหลือ 6 แบบอย่างที่เราเห็นกัน
Facebook เคยจะใส่ emoji บางตัวเข้ามาด้วย เช่น "yay" แต่พบว่ามีความทับซ้อนกับอารมณ์ความรู้สึกอื่นๆ (love/haha) สุดท้ายเลยตัดออกไป
เมื่อได้ emoji ทั้ง 6 แล้วก็มาถึงการออกแบบตัว emoji ให้เหมาะสมกับผู้ใช้งานทุกคน ทีมงานทดสอบหลายแนวทาง เช่น แยกสีสันไม่ให้เหมือนกัน ขีดเน้นเส้นขอบให้ชัดเจน และค่อยๆ ปรับเปลี่ยนดีไซน์มาเรื่อยๆ จนลงตัว นอกจากนี้ ทีมงานยังพบว่า emoji ควรจะเคลื่อนไหวตอบสนองผู้ใช้ได้ด้วย (อีกไอเดียหนึ่งคือส่งเสียงได้ แต่ได้ข้อสรุปว่ายังไม่ทำในตอนนี้)
ในแง่การวางตำแหน่ง emoji ก็เป็นเรื่องสำคัญ ตอนแรก Facebook จะวาง emoji ทั้ง 6 ตัวไว้ใต้โพสต์ พร้อมแสดงจำนวนของ emoji แต่ละตัวให้เห็นกันชัดๆ แต่ก็พบว่าดูรกเกินไป แต่การรวม emoji ทั้ง 6 ตัวไว้เป็นก้อนเดียวกัน มีตัวนับตัวเดียว ก็ส่งผลในมุมกลับคือไม่เห็นอารมณ์ความรู้สึกแยกแต่ละกลุ่มอย่างที่ตั้งใจไว้ ทางออกสุดท้ายเป็นทางสายกลาง คือแสดงเฉพาะ emoji 3 ตัวที่มีคนกดเยอะที่สุดในโพสต์นั้น เพื่อให้เห็นภาพรวมว่าอารมณ์ความรู้สึกของโพสต์ดังกล่าวคืออะไรได้อย่างรวดเร็ว ส่วนใครที่อยากดูรายละเอียดก็สามารถกดดูเพิ่มเติมได้
ที่มา - Wired
Comments
yay ถ้าใช้ในไทย ความหมายเปลี่ยนแน่ ฮ่าาาาาา
เย ย์
sad ในไทย ก็อาจจะความหมายเปลี่ยนนะ 5555+
แค่ wow ก็เหมาะสมแล้วครับ
ทำไมผมยังไม่ได้หว่า ???ios
กด Log out แล้วเข้าใหม่ครับ
ลองแล้วครับ ทั้งล๊อกเอ้า ทั้งลบแอพลงใหม่ ก้เหมือนเดิม
ผมใช้วิธีปิดเปิดเครื่องใหม่ 1 รอบ ก็มีให้ใช้ ไม่ได้ทำอย่างอื่นใดครับ
ทำแล้วครับ เหมือนเดิม
ในเว็บใช้ได้รึยังครับ
เว็บก็ไม่ได้ เข้าผ่านเบลาเซอร์ในคอมก็ไม่ได้
แต่พอล้อกอินอีกไอดี ทำได้ ผมเลยงงๆ
อย่าส่งเสียงเลย ...
ทุกวันนี้คนส่งสติ๊กเกอร์มีเสียงมาที ได้ยินกันทั้งออฟฟิศ (ไม่ใช่ของผมหรอกนะ)
+1
น่าจะเป็น Like/Unlike แบบที่แสดงอารมณ์ย่อยได้มากกว่านะ
Get ready to work from now on.
Unlike ไม่เท่ากับ Dislike ครับ คือมันคนละความหมายกันครับ
Unlike = 2x Like สินะครับ :)
Unlike ก็มีแล้วไง กด Like ก่อนสิเดี๋ยวก็เห็น
น่าจะมี "มองบน"
เจี๊ยบ เลียบด่วน เห็นใช้บ่อยๆ
น่าจะมาแบบ Inside out แล้วเอาคาแรคเตอร์มาเป็น emoji เลย
ที่ปรึกษาของ Facebook ก็คนเดียวกับที่ปรึกษา Inside Out นั่นล่ะครับ ในบทความต้นฉบับมีบอกไว้
เห็นคนบอก angry ให้ใครบ่อยๆ จะเห็นโพสของคนนั้นน้อยลงจริงป่าวครับ
จริงเหรอครับ น่าลอง
angry น่าจะเป็นปุ่ม สยอง ที่ดีสุดละ 555
จริงๆแค่ 2 แบบก็พอแล้วมั๊ง Like กับ Dislike เหมือนของ YouTubeวัดใจกันไปเลยว่าชอบหรือไม่ชอบ :P
dislike YouTube นี่แทบจะล่าแม่มดกันอยู่แล้วนะครับ ด่าสาดเสียเทเสียเลย ยังดีว่ากดดูไม่ได้ว่าใครกดฝั่งไหน
ถ้า Facebook ทำตามบ้างนี่คงมีรายการเจ้าของโพสต์ไล่บล็อคกันอะไรกันบ้าง
ถ้ามีแบบนั้นนะคงเห็นเม้นแบบว่า
2345 คนที่กด dislike หูไม่ถึง ฟังเพลงไม่เป็น
อยากให้มีตัวนี้ที่สุด /facepalm
ใครที่บอกกดไม่ได้ให้ จิ้มค้างตรงคำว่า like หรือ ถูกใจ จะมี popup ขึ้นมาให้เลือกกด
ผมเองก็หาตั้งนานไม่น่าลบแล้วลงใหม่เลย
น่าจะมี สาธุ 99