พอดีเพิ่งมีโอกาสไปลอง Apple Pencil มา (ช้าเนอะ 555) ขอแปะการเปรียบเทียบคร่าวๆ ไว้หน่อยแล้วกันครับ เทียบกับ Surface Pen รุ่นปุ่มเดียว (รุ่นใหม่ที่เปิดตัวพร้อม Surface Pro 4 ถ้าเป็นรุ่นสองปุ่มจะเป็นรุ่นเก่าที่มาพร้อม Surface Pro 3)
M = Microsoft Surface Pen, A = Apple Pencil
ความแม่นยำ
- A หัวดินสอแตะตรงไหน จอจะรับรู้ว่าแตะตรงจุดนั้นเลยจริงๆ ครับ คิดเสียว่ามันคือหัวดินสอเลย แตะตรงไหนก็ติดสีตรงนั้นไม่ว่าจะเอนดินสอมากขนาดไหนก็ตาม
- M หัวปากกาจะไม่ตรงกับจุดเสียทีเดียว แต่จะไปตรงกับข้อกลางหัวปากกาแทน เวลาเอนปากกามากๆ ก็ต้องอาศัยความเคยชินกันเอาเอง ใครนึกไม่ออกลองดูภาพนี้ครับ จะเห็นว่าหัวปากกามีข้อนิดนึง
ขนาดหัว
- A หัวดูใหญ่กว่าหน่อย (ตามภาพด้านล่าง)
- M หัวเล็กเหมือนปากกาทั่วไป แต่ก็ไม่เล็กแบบ Samsung Galaxy Note
ความเร็วในการตอบสนอง
อันนี้ผมว่าเร็วเท่าๆ กันทั้งคู่นะ
สัมผัสของหัว
- A ลื่นปรื๊ดเลยครับ หัวพลาสติกลื่นๆ กับจอกระจกก็นั่นแหละครับ
- M อยากได้ลื่นแบบ A ก็มีครับ แต่ปกติผมจะใส่หัว B ตลอด เป็นเบอร์ที่ฝืดสุด จะได้ความรู้สึกฝืดเหมือนเขียนบนกระดาษมาหน่อย
ระยะทำงาน
- A เอาจริงๆ มันเขียนได้โดยไม่ต้องแตะจอนะครับ แต่ระยะคือจะใกล้มากๆ ไม่แน่ใจว่าเค้าล็อคไว้แบบนั้นรึเปล่าซึ่งถือว่ากะระยะได้แม่นมาก ห่างออกมาหน่อยก็ไม่ตอบสนอง (อาจจะรู้ว่าอยู่ตรงไหนแต่ก็รู้ว่าห่างเลยทำเหมือนไม่ได้วาดเส้น) ใช้ใกล้มากๆ แล้วสามารถขีดเส้นได้เลยโดยที่หัวดินสอไม่ต้องแตะอะไร แสดงว่าใช้การบอกตำแหน่งด้วยคลื่นแบบไร้สายครับ
ส่วนการบอกน้ำหนัก อันนี้ใช้วัดการกดน้ำหนักของตัวหัวกับตัวดินสอ เอามือดึงๆ หัวดินสอให้เข้าหาด้ามแล้วเส้นจะใหญ่ขึ้นโดยที่หัวก็ยังไม่แตะหน้าจอเหมือนเดิมได้ - M อันนี้ก็เขียนได้โดยไม่แตะจอเหมือนกันครับ แต่จะต่างกันตรงที่เหมือนจะไม่สามารถบอกได้ว่าอยู่ใกล้หรือไกลจอแค่ไหน ตัวเส้นจะถูกวาดได้ต่อเมื่อมีแรงกดที่หัวปากกาเท่านั้น ถ้ายกลอยๆ ไว้หน่อยแล้วเอาเล็บ (หรืออะไรสักอย่าง) ไปกดหัวปากกามันก็ขีดเส้นได้จากระยะไกลหน่อยเลยครับ
การวาดเส้นเวลาเอียง
- A ดีตรงหัวมันแม่นตามที่บอกไปทีแรกครับ แต่ถ้าจะกดให้เส้นหนักขึ้นนี่ต้องใช้แรงเยอะมากๆ กว่าเส้นจะหนาขึ้นเมื่อเทียบกับตอนดินสอตั้งๆ อยู่
- M หัวจะไม่ตรงตำแหน่งเหมือน A (เพราะหัวมันยื่นมาจากวงจรเยอะมาก ขณะที่ของ A ทำให้มีเสาสัญญาณหรืออะไรสักอย่างอยู่ในหัวเลยตามรูปประกอบด้านบน ส่วนของ M นี่หัวเป็นพลาสติกทั้งแท่งยาวลึกเข้าไปในด้ามเลย ไม่มีโลหะเป็นวงจรหรือเสาสัญญาณ) แต่ถึงมันจะไม่ตรงกับปลายหัว แต่ตำแหน่งมันคงที่ครับ ถ้าจำได้ก็ไม่มีปัญหาเท่าไหร่ ข้อดีคือเวลาตะแคงแล้วจะเขียนให้เส้นมันหนานี่ใช้แรงมากกว่าตอนปากกาตั้งๆ อยู่ไม่เท่าไหร่ (ขณะที่ A นี่ใช้แรงเยอะมากจริงๆ)
แบตเตอรี่
- A ชาร์จ 1 รอบการชาร์จเต็มใช้ได้ประมาณ 12 ชั่วโมง
- M ใช้ถ่าน AAAA ก้อนเดียวที่หายากพอสมควร แต่ผมใช้มา 4 เดือนแล้วแอปยังบอกว่าแบตเหลืออีก 91% ครับ
ผลของระยะการทำงาน (เพิ่มเติม 2559-08-26)
อันนี้อัพเดตเพิ่มครับ คือผมนึกว่าเขียนไปแล้ว มาดูอีกที อ้าว ลืมเขียนเฉยเลย
A กับ M มีจุดต่างที่สำคัญมากอย่างนึงที่เป็นผลมาจากระบบการทำงานที่ผมบอกไปในหัวข้อระยะการทำงานครับ นั่นคือ A จะเริ่มทำงาน (ลากเส้นได้) เมื่อปลายดินสอเข้าใกล้หน้าจอด้วยระยะที่กำหนด ส่วน M จะเริ่มทำงานเมื่อมีแรงเข้าไปที่หัว
แล้วมันต่างกันมากตรงไหน
ตามสเปคของ M นั้น รุ่นปุ่มเดียวนี้มันสามารถแยกแยะแรงกดได้ 1,024 ระดับ (จากรุ่นสองปุ่มที่ได้แค่ 256 ระดับ) โดยทำงานในช่วงแรงกด 10 กรัมไปจนถึง 400 กรัม (อ้างอิงจากรุ่นเก่า ตามบทความเจาะลึก
เพราะผมหาของใหม่ไม่เจอ) นั่นหมายความว่าปากกามันจะบอกว่าตอนนี้ขีดเส้นด้วยความหนักระดับ 1 เมื่อมีแรงเข้าไปที่หัว 10 กรัมครับ
พอนึกออกหรือยังครับว่าต่างกันตรงไหน
สมมติการขีดเส้นแบบเบามือที่สุด
A เอามือประคองดินสอลากไปบนจอ ได้เส้นครับ
M เอามือประคองปากกาลากไปบนจอ อาจไม่ได้เส้น หรือได้เส้นก็ขาดๆ หายๆ ครับ
นั่นเพราะ A นี่เราประคองดินสอลาก ยังไงหัวก็แตะหน้าจอ ซึ่งอยู่ในระยะการทำงานแน่นอน
นั่นเพราะ M นี่เราประคองปากกาลาก แม้ว่าหัวจะแตะหน้าจอ แต่ไม่จำเป็นว่าจะมีแรงกระทำกับหัวปากกามากกว่า 10 กรัมครับ
จะว่าไปก็สมกับเป็นดินสอกับปากกาจริงๆ นะครับ ในชีวิตจริง ดินสอปกติธรรมดานี่เอามาลากเบาแค่ไหนก็มักจะได้เส้นจางๆ อยู่แล้ว ขณะที่ปากกาลูกลื่นหลายๆ ด้ามที่มักไม่ลื่นถึงที่สุดจริงๆ แค่ประคองปากกาลากเบาๆ บางทีก็ได้เส้นขาดๆ เหมือนกันครับ (ขอเป็นปากกาลูกลื่นแล้วกันครับเดี๋ยวมันไม่เหมือนกัน 555 จะว่าไปก็แปลกนะครับ บอกว่าเป็น Pen แต่หัวมีให้เลือก 2H H HB และ B แบบดินสอเฉยเลย)
นั่นแหละครับจุดที่ต่างกันมาก ผมว่าคงมีผลกับ สายวาดรูปจริงจังพอสมควรเลยทีเดียว แต่กับ สายจดสายวาดภาพประกอบการจดแบบผม มันไม่มีผลอะไรเลยครับผมไม่ได้เขียนหนังสือด้วยการลากดินสอลากปากกาเบามือขนาดนั้นอยู่แล้ว
การใช้ M มีปัญหาตามที่ผมบอกไปด้านบนครับ ในอีกด้านหนึ่ง การใช้ A นั้นอาจมีปัญหาได้เช่นกัน นั่นคือระยะการทำงานที่บอกนั้นไม่เท่ากับ 0 มม. จากหน้าจอครับ การยกดินสอผ่านหน้าจออาจทำให้เกิดเส้นได้ แต่ครับแต่ แม้ระยะจะไม่เท่ากับ 0 มม. มันก็ใกล้มากเสียจนไม่น่ามีความผิดพลาดเกิดขึ้น คือถ้าพลาดลากไปใกล้ขนาดนั้นแล้วในกรณีจริงก็คงนับว่าปลายหัวดินสอไปโดนได้เช่นกัน ผมไม่แน่ใจว่าระยะนี้มีผลกับการติดฟิล์มป้องกันหน้าจอด้วยหรือเปล่า แต่เท่าที่ดูถ้าไม่ติดฟิล์มกระจกซ้อนกันสักสองสามชั้นก็คงไม่มีปัญหาอะไรครับ
อืมมม ก่อนจะมาอัพเดตนี่ก็กะจะเขียนนิดเดียว (ที่บอกว่าลืมเขียนนั่นก็คิดว่าถ้าเขียนตอนนั้นก็คงนิดเดียว) ทำไมมันลากยาวเฉยเลย ติดลมครับ งานเร่ง หาที่ระบาย (แต่ขี้เกียจหาข่าวมาแปล เดี๋ยวกินเวลางานมากเกินไป - -")
M น่าสนใจตรงมีหัวให้เลือกได้นี่ล่ะ
feeling คนละแบบเลย ผมเขียนด้วย surface pen ไม่โออย่างแรง เขียนนานๆไม่ได้ วาดเส้นได้แค่ขำๆ จะทำงาน ไปซื้อ wacom ต่อเอา ดีกว่าเยอะ ส่วน apple pencil นี่ละเอียดกว่ามาก ใช้จริงได้
M นี่หัวลื่น กับหัวฝืด ใช้ทั่วๆ แบบไหนดีกว่าครับ
สนใจอยู่แต่ขอเป็นรุ่นหน้านะ ฮ่าๆ
แล้วแต่ชอบครับ พอดีผมชอบฝืดๆ
แอปไหนครับ
คนขี้ลืม | คนบ้าเกม | คนเหงาๆ
แอป Surface ครับ
A ติดอยู่ที่ว่า โปรแกรมกราฟฟิคที่ "ใช้หากิน" ส่วนใหญ่ไม่ซัพพอร์ท
แล้วถ้าเทียบกับ เซอร์เฟสแล้ว iPad Pro ในราคาที่รวมเพนซิลด้วย ผมว่าเซอร์เฟสถูก + คุ้มกว่า
ผมว่า ถ้า A เอาดินสอไปลงบน Mac Pro ได้นี่ Wacom อาจจะถึงฆาตได้ (ฮา)
เห็นว่าทาง Apple มีสิทธิบัตรเรื่องใช้ Apple pencil บน Magic trackpad แล้วนะครับ
//รอด้วยความใจจดใจจ่อ