Fast Company มีบทสัมภาษณ์ทีมงานไมโครซอฟท์ ผู้อยู่เบื้องหลังการพัฒนา Surface Studio มีประเด็นที่น่าสนใจดังนี้
- ไมโครซอฟท์เรียกมันว่า "Studio" เพื่อสะท้อนให้เห็นว่าจับกลุ่มผู้ใช้เฉพาะที่เป็น creative เช่น ดีไซเนอร์ วิศวกร สถาปนิก นักวาดภาพ และไมโครซอฟท์ไม่อยากให้คนเรียกมันว่า all-in-one
- จุดที่ไมโครซอฟท์ใส่ใจมากคือหน้าจอ ตัวขาตั้งมีสปริง 11 ตัวซ่อนอยู่, หน้าจอมีขอบบางที่สุดเท่าที่ทำได้ เพื่อให้ผู้ใช้โฟกัสกับตัวงานบนจอภาพ ไมโครซอฟท์พยายามให้รู้สึกว่า Surface Studio ในฐานะฮาร์ดแวร์ "หายไป" ตอนใช้งาน, ขาตั้งออกแบบให้สะท้อนแสงของสภาพแวดล้อมมากที่สุด เพื่อให้รู้สึกว่ามันไม่มีอยู่
- ไมโครซอฟท์เลือกความละเอียดของหน้าจอตามสเกลจริง (true-to-scale) ให้อักษรขนาด 12 pt มีขนาดเท่ากับดูบนกระดาษจริง ผลคือความละเอียด 192 DPI และหน้าจอมีพิกเซลรวม 4.5K ซึ่งน้อยกว่าจอ 5K ของแอปเปิลอยู่บ้าง แต่ก็มีจำนวนพิกเซลเยอะพอที่แยกความแตกต่างได้ยาก
- รูปแบบการใช้งานที่ไมโครซอฟท์คาดไว้คือ วางนอนเอียง 20 องศาเพื่อสร้างสรรค์ผลงานในรายละเอียด และยกขึ้นตั้งฉากกับพื้นเพื่อดูภาพรวมของชิ้นงาน
- ไมโครซอฟท์แอบใส่ API สำหรับ Surface Dial มาแบบเงียบๆ ตั้งแต่ Windows 10 Anniversary Update เพื่อให้ผู้พัฒนาแอพเตรียมตัว ตอนนี้ Photoshop และ AutoCAD ยังไม่รองรับ แต่ไมโครซอฟท์บอกว่ากำลังคุยอยู่
- คู่แข่งของ Surface Studio ในสายตาของไมโครซอฟท์ไม่ใช่แมค แต่เป็น Wacom Cintiq
ที่มา - Fast Company
Get latest news from Blognone
Follow @twitterapi
Comments
สงสาร Photoshop ที่ต้องแบกรับภาระที่ตนไม่ได้ก่อ
ไหนจะ Surface Dial ไหนจะ Touch Bar
...
ผมว่ามีช่วยจ่ายตังค์ให้หละครับ
มองอีกมุมนึง Autodesk + Adobeนี้ไม่จำเป็นอยู่ดีๆก็มีคนมาช่วยคิดฮาร์ดแวร์ซัพพอร์ท
โปรแกรมตัวเอง
มองแง่การลงทุนสิครับ กลายเป็นว่าเป็นเจ้าแรกๆที่มีเครื่องมือครบครันก่อนคนอื่นเลยนะครับ ยิ่งดึงดูดให้คนซื้อ(?)ใช้เพิ่มขึ้นไปอีก
อยู่ที่ทัศนคติของคนมองแหล่ะครับ มองเป็นภาระก็คือภาระ มองเป็นโอกาสก็คือโอกาส
เค้าจะไม่ทำก็ได้นะครับ ไม่ใช่ว่าไม่ทำแล้วจะ install ไม่ได้
แต่ทำก่อนก็ได้เปรียบคู่แข่งนะครับ
ไม่ทำก็ได้ครับ
แต่ถ้ามีโปรแกรม 1st Party ของ M$ หรือ Apple ออกมาเอง
แล้วซัพพอร์ตครบกว่า เร็วกว่า เสียลูกค้าได้เลยนะ
ผมมองว่าได้เปรียบต่างหาก
เพราะได้ทำลูกเล่นก่อนค่ายอื่นๆ จาก M$, Apple โดยตรง
มันคือ Time Exclusive เหมือนพวกเกมเลยล่ะ
มันจะเยี่ยมาก ถ้า Surface Dial ใช้ได้กับวินโวส์ทุกตัว ซึ่งมันก็ควรทำได้นะ และผมว่าไม่เกินปีหน้าเจ้าอื่นก็อาจจะทำไอกลมๆนี้ขายบ้าง
นั่นสิครับ อันนึงปรับสี อีกอันไว้หมุน อีกอันปรับมุม จะได้ไม่ต้องกดไปกดมาอะไรงี้
แต่ผมเดาว่าไม่ได้นะครับ ระบบ n-trig ไม่น่ารองรับขนาดนั้น จริงๆ มันรองรับ Dial พร้อมปากกาได้ไปบน Surface รุ่นเก่าได้ผมก็แปลกใจน้อยๆ แล้ว ถ้ามันได้เพิ่มอีกก็อาจเป็นไปได้
อีกหน่อยมันอาจจะไม่ต้องยกมาวางบนจอแต่ฉายแสงลงพื้นรอบๆ dial เลยก็เป็นได้
Wacom Cintiq 27 นิ้ว ราคา 2,800 เหรียญ ซึ่งแต่จอสัมผัสกับปากกา ในซึ่งต้องหาเครื่องต่างหาก แต่ไอ้นี่ 3,000 มาครบ
+1 ครับ ครบพร้อมเล่นเลย
บางคนเทียบ HW เอาไปเทียบกับ All in One มันก็ใช้งานไม่สะดวกเท่านา...
นัดวาดภาพ -> นัก
ตอนที่พูดเรื่องนี้ขึ้นมาตอนเปิดตัว มองตามปุ๊บแล้วแบบ เฮ้ย มันสะท้อนรอบข้างจนกึ่งล่องหนเลยครับ จัดวางมุมไว้ได้ดีมาก ถ่ายแล้วสะท้อนได้เหมือนไม่มีอะไรเลยจริงๆ
แต่จากที่ดูว่าวางนอนสุดแล้วเวลาออกแรงกดก็ยังมีขยับอีกพอสมควร ผมว่าเดี๋ยวต้องมีคนทำขาตั้งมายันข้างหลังขอบบนอีกหน่อยแบบพอนอนสุดแล้วก็ยันกับข้างหลังพอดี คราวนี้เอาข้อศอกวางยันก็แทบไม่กระดิกแล้ว
นึกภาพตามแล้วรู้สึกกลัวมันจะหักครึ่งจังเลยครับ
คือหมายถึงวางยันตัวแต่ไม่ได้ทุ่มน้ำหนักลงไปหมดน่ะครับ แบบตอนที่เค้าเดโม จะเพื่อให้ตัวนิ่งมือนิ่งหรือให้ได้อารมณ์การเข้าถึงก็แล้วแต่ครับ (เวลาผมเขียนๆ บนจอนี่ก็เผลอเข้าไปใกล้ๆ บ่อยๆ อยู่)
แบบนี้พอจะเรียกได้ว่านวัตกรรม ไม่อยากจะแซะ Touch Bar เงอะงะ
วาดการ์ตูนไม่เป็นเลย ถ้าซื้อตัวนี้มาแสนกว่าจะทำให้วาดเป็นขายงานได้ภายในหนึ่งเดือนมั้ยครับ
เริ่มจากวาดบนกระดาษก่อนครับ
เริ่มจากแทบเล็ตที่มีปากกาอย่าง SS Galaxy Tab A ก่อนดีกว่าครับ เพราะต้นทุนไม่สูงมากนัก แต่หลักๆ คือต้องหมั่นฝึกครับ
ผมว่าผมตั้งเป้าที่ปีนึงว่าโหดแล้วนะครับ
หนึ่งเดือนมันสั้นไปครับ 555
อันนี้ฝีมือผมหลังหัดมาปีกว่า ๆ ครับ ยังมีจุดที่ต้องแก้อีกเยอะ (รูปนี้แขนกับตรง collar bone ผิดครับ อย่างน้อยนะ 555)
ส่วนตัวมองว่า ถ้าจะหัดวาดรูป วาดบน Surface หรือ Cintiq จะได้เปรียบกว่าวาดบน Wacom Intuos มาก เพราะ
ทั้งนี้มันช่วยให้วาดง่ายขึ้น แต่ก็ขึ้นอยู่กับว่าต้องฝึกทุกวันด้วย ที่ผมบอกว่าฝึกมาปีกว่านี่คือวาดทุกวันนะครับ
ถ้าไม่มีพื้นฐานเลย แนะนำว่าไปเริ่มเรียนการวาดรูปพื้นฐานก่อนครับ
แล่้วต่อยเริ่มพัฒนามาเป็นวาด Figure พอเริ่มได้แล้วค่อยเริ่มวาดรูปเหมือน
ตามด้วยการเรียน Anatomy , Perspective etc.
พอเริ่มวาดในกระดาษได้ก็เริ่มหัดออกแบบเอง
พอวาดในกระดาษได้จนคล่องมือแล้วค่อยเริ่มจับพวก Digital ครับ
ชีวิตไม่ใช่เกมที่มีขาย IAP นะครับที่เงินเยอะแล้วอัดได้เร็วกว่าขนาดนั้น
ของพวกนี้มันเป็นเพียงแค่อุปกรณ์ครับ อยากเก่งต้องอาศัยการฝึกฝนอย่างหนักความมีวินัยบวกกับพรสวรรค์ด้วยส่วนหนึ่ง ถามแบบนี้เหมือนๆ กับไปซื้อปากกา Montblanc เรือนหมื่นมาแล้วก็หวังว่าจะได้เป็นนักเขียนชื่อดังได้ภายในเดือนนึง
เหมือนเตะบอลไม่เป็นเลย แล้วซื้อสตั๊ดตัวท๊อป Limited Edition มาใส่นั่นแหละครับ
ลองอ่านAttack on Titan ดูก็ได้ครับ
ตอนแรกๆกับตอนท้ายๆนี่ ลายเส้นพัฒนาขึ้นจมเลย
เอาไว้ศึกษาเรื่อง Learning Curve ว่าขนาดคนวาดเป็นแล้วยังต้องอาศัยเวลาในการพัฒนาตนขึ้นอีกขั้นเลย
เอาตังไปซื้อ โดรายากิ ถวายโดราเอมอนเพื่อแลกของวิเศษมาใช้น่าจะช่วยได้มากกว่าและประหยัดเงินกว่าซื้อ Surface Studio นะครับ แต่ก่อนอื่นต้องหาโดราเอมอนให้เจอก่อนนะ
ฝีมือก็เหมือนสุขภาพของคนเราครับ ซื้อหามาไม่ได้ อยากได้ต้องเสริมสร้างด้วยตัวเอง
มันเป็นแค่เครื่องมือ
เหมือนคุณซื้อดินสอ โต๊ะเขียนแบบมา คุณก็ไม่มีทางได้เป็นสถาปนิกหรอก ของแบบนี้มันต้องเรียนรู้ต้องฝึกฝน
Adobe ทำออกมาแน่ๆ แต่ Autodesk นี้หวังอะไรไม่ค่อยได้จนถึงขณะนี้โปรแกรมยังไม่ซัพพอตร์จอ High DPI เลยครับ
มันควรจับมาลงแมค ไหนจะ Sketchbook, Tayasui Sketchespro, Affinity photo, Affinity designer .. โอย
my blog
ที่ว่ามานั่นเค้ารองรับ touch screen ใช่มั๊ยครับ ถ้าไม่ล่ะก็... ตกม้าตายกันเลยทีเดียว
พอดีผมไม่เคยใช้น่ะ
ดีไซน์สวยดีครับ แต่ไม่มีปัญญาซื้อ 55+มองรูปประกอบด้านล่าง แว๊บแรกนึกว่า wallpaper El capiton (หรือว่าใช่) ช่วงนี้ทำไมชอบป่าๆเขาๆจังน้า 55+
ไม่เห็นพูดถึง surface pen เลยครับ
อันเดิมนี่แย่เลยนะถ้าจะเอาไปใช้เฉพาะทางแบบนั้นทั้งเส้นตามช้า ทั้งwobble
ถ้าผู้ใช้ทั่วไปก็พอรับได้อยู่หรอก
เรื่อง wobble ยังมีอยู่เลยนั่งดูคลิปที่คนเขาลองปาากา อันนี้น่าจะเป็นอะไรที่ควรแก้เป็นอย่างแรกเลยถ้าจะเอาไปสู้ Wacom นะ
เพราะใช้โปรแกรมที่ไม่มี stabilization อย่าง photoshop หรือเปล่าคะ ถ้าที่ทำงานบังคับให้ใช้ ps ก็ซวยไป
photoshop ใช้ Lazy Nezumi ช่วยได้นะ(รู้มาจากคลิปนี่แหละ)ผมดูคลิปทดสอบอันนี้ https://youtu.be/28PW-L06WVE
เรื่องเส้นตามช้านี่พูดถึงในงานเลยครับว่าเน้นให้เร็วมากๆ ซึ่งเท่าที่ผมดูนี่เร็วมากจริงๆ แล้วครับ แทบติดหัวปากกาเลย แต่ก็แค่เห็นผ่านกล้อง
เหมือน เรือ microsoft จะเริ่ม หาทิศทางของตัวเองเจอแล้ว
ตรงกันข้าม กับ เรือ apple...
ชักจะออกมหาสมุทรสินะครับ