หลังจากที่ถูกขายให้กลุ่มนักลงทุนในจีนเมื่อ สิ้นปี 2015 ล่าสุด Vertu ถูกเปลี่ยนมืออีกรอบ คราวนี้เป็น Baferton Ltd บริษัทลงทุนของ Hakan Uzan เศรษฐีชาวตุรกีที่เข้าซื้อกิจการ Vertu จากกลุ่มนักลงทุนจีน โดยมีมูลค่าอยู่ที่ 50 ล้านปอนด์ (ตกประมาณ 2 พันล้านบาท)
Hakan ระบุผ่านโฆษกส่วนตัวว่า Vertu เป็นแบรนด์ที่ทรงพลัง และอยากทำงานร่วมกับทีมงานของบริษัท รวมถึงสร้างงบการลงทุนเพื่อให้บริษัทสามารถดำเนินการได้อย่างเต็มที่ตามที่ควรจะเป็น (realize its full potential)
สถานการณ์ทางการเงินของ Vertu ช่วงที่ผ่านมาไม่ค่อยดีนัก ตัวเลขล่าสุดที่เปิดเผยเมื่อปี 2014 ระบุว่าบริษัทขาดทุนไป 53 ล้านปอนด์ และ PwC บริษัทผู้ตรวจสอบบัญชีก็ขอยุติการทำงานไปด้วยเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา ส่วน Hakan Uzan เอง เป็นเศรษฐีชาวตุรกีที่ลี้ภัยอยู่ในฝรั่งเศส หลังจากที่รัฐบาลตุรกีเข้ายึดกิจการในเครือทั้งหมด (มีทั้งธนาคาร สื่อ และโรงไฟฟ้า) ช่วงปี 2003 เนื่องจากมีคดีฉ้อโกง รวมไปถึงกรณีการผิดนัดชำระหนี้ให้กับ Nokia และ Motorola ในส่วนเงินที่กู้ยืมมาเพื่อลงทุนสร้าง Telsim ผู้ให้บริการโทรศัพท์ของตุรกี
Comments
จะรวยไปไหน ขนาดโดนยึดไปขนาดนั้นยังมีเงินไปซื้อกิจการอีก
เทคโนโลยีไม่ผิด คนใช้มันในทางที่ผิดนั่นแหละที่ผิด!?!
นักธุรกิจระดับนี้จะมีเงินฝากนอกประเทศเป็นปกติอยู่แล้วครับ และเขามีธุรกิจธนาคารด้วย
อีกทั้งอาจจะไปกู้เงินมาลงทุนด้วยก็ได้ครับ เพราะมีฝีมือในการบริหารมาก่อน
เหมือนโรมัน อับราโมวิชน่ะแหละครับโดนปูตินเช็คบิลจนต้องหนีมาอยู่อังกฤษ แต่เงินที่เก็บไว้นอกประเทศเยอะจนซื้อทีมเชลซีได้ทั้งทีม
ลักษณะพฤติกรรมคุ้นๆๆ
นี่เรานึกถึงคนเดียวกันอยู่ใช่มั้ย
ไม่รู้ว่าใช่คนเดียวกันรึเปล่า
มุ้งมิ้ง~*
ใช่ที่ขายหุ้นไม่เสียภาษีป่าวครับ แย่มากๆ
อันนี้ดูเหมือนของรัสเซียมากกว่า
การบริหารเงินสำคัญมาก หากผ่านได้เยี่ยม
ทำเอาทั้งสองเจ้าต้องขายกิจการเลย นี่ถ้าไม่โดนเบี้ยวหนี้นะ #เดี๋ยวๆๆ