เว็บไซต์ New York Times ตีแผ่ปากคำของผู้หญิงจำนวนหนึ่งที่ทำงานในซิลิคอนวัลเล่ย์ ต่อประเด็นคุกคามทางเพศจากบรรดานักลงทุน โดยกลุ่มนี้เป็นเพียงส่วนหนึ่งที่ New York Times ระบุว่ายังมีอีกเป็นโหล ที่ไม่กล้าออกมาพูดอะไรเพราะกลัวกระทบหน้าที่การงาน และเป็นความจริงที่น่าเจ็บปวดที่ได้รู้ว่า ผู้หญิงหลายคนถูกสั่งห้ามไม่ให้แพร่งพรายเรื่องนี้ ไม่เช่นนั้นจะโดนไล่ออก
อูเบอร์เป็นประเด็นเรื่องคุกคามทางเพศเป็นตัวจุดประกายให้ผู้หญิงกล้าออกมาต่อสู้กับการถูกคุกคามทางเพศของตัวเองกันมากขึ้น ก่อนหน้านี้ Justin Caldbeck นักลงทุนผู้ก่อตั้งบริษัทลงทุนขนาดใหญ่ถูกฟ้องข้อหาลวนลาม และล่าสุด Dave McClure ผู้ร่วมก่อตั้ง 500 Startups พยายามส่งข้อความจีบ Sarah Kunst ที่มาสมัครงาน เมื่อ Kunst ยกประเด็นนี้มาคุยกับพนักงานในบริษัท 500 Startups ทางบริษัทก็หยุดการเจรจาเรื่องสมัครงานกับเธอ
สาเหตุสำคัญที่ทำให้การคุกคามทางเพศในรูปแบบต่างๆ ทำได้ง่าย เพราะบรรดาสตาร์ทอัพอยู่ได้ด้วยเงินลงทุนจากบริษัทลงทุนเทคโนโลยี ผู้คนพยายามเก็บงำเรื่องนี้ ทำให้นักลงทุนทำอะไรข้ามเส้นต่อพนักงานได้ง่าย
ภาพจาก Pexels
ส่วนหนึ่งของกรณีดังกล่าว
- ปี 2015 Ellen Pao อดีตพนักงาน Kleiner Perkins Caufield & Byers เคยพูดว่ามีการเลือกปฏิบัติระหว่างเพศอย่างมากในบริษัท
- Gesche Haas เขียนเล่าประสบการณ์ถูกคุกคามลงในบล็อกจาก Pavel Curda ซึ่งเป็นนักลงทุน
- Rachel Renock ผู้บริหาร Wethos เผยว่าเธอเจอคอมเมนท์คุกคามทางเพศในชุมชนออนไลน์ของเธอ ขณะกำลังโพสต์หาทางระดมทุน
- Wendy Dent จากบริษัท Cinemmerse ผู้ผลิตแอพในนาฬิกาอัจฉริยะ ระบุว่า Marc Canter ผู้ให้คำปรึกษาสตาร์ทอัพและผู้ก่อตั้งบริษัทซอฟต์แวร์ Macromedia ส่งข้อความมาจีบ เขาบอกเธอว่าจะช่วยหา co-founder ให้ แต่ตลอดการสนทนาทางข้อความ เนื้อหาออกไปทางจีบ และคุกคามทางเพศ
- Lisa Curtis ได้รับคำชมมากมายระหว่างเสนอไอเดียในสตาร์ทอัพ Kuli Kuli ของเธอ Jose De Dios หนึ่งในนักลงทุนพูดระหว่างที่เธอลงจากเวทีว่า "Of course you won. You’re a total babe."
New York Times ระบุว่า มีผู้หญิงอีกหลายคนเล่าว่าเธอถูกแตะเนื้อต้องตัวโดยไม่ได้ยินยอม ส่วนใหญ่เป็นพฤติกรรมนักลงทุน แต่เธอเหล่านั้นต้องเงียบไว้ เพราะยังต้องการเงินมาลงทุนทำกิจการต่อไป
ที่มา - New York Times
Comments
มาคุยมากับ ?
ขอบคุณค่ะ
นึกถึงซีรีย์ Halt and Catch Fire พูดถึงประเด็นนี้เลย
มันต้องเป็นแบบนี้จริงๆ สินะ เฮ้อ