ในคีย์โน้ตเปิดตัว iPhone X นั้น ช่วงเวลาหนึ่งที่ถูกพูดถึงอย่างมาก ก็คือการสาธิตการใช้งานโดย Craig Federighi หัวหน้าฝ่ายซอฟต์แวร์ เนื่องจากเขาเริ่มด้วยการใช้ Face ID ปลดล็อกเครื่อง แต่ทว่ามันกลับไม่ทำงานจนต้องใช้เครื่องสำรองแทน
โฆษกของแอปเปิลไม่ปล่อยให้คนสงสัยนาน ได้ทำจดหมายชี้แจงสื่ออธิบายเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นบนเวทีว่า iPhone X ถูกวางไว้บนเวที และทีมงานหลังเวทีได้มาหยิบจับทดสอบดูความปกติหลายครั้ง แต่ทุกครั้งที่หยิบเครื่อง กล้องหน้าสแกน Face ID ก็จะทำงานเช็กใบหน้าคนหยิบมาดูทุกครั้ง ซึ่งย่อมไม่สำเร็จเพราะไม่ใช่ใบหน้าของ Craig แต่พอเป็นเช่นนี้หลายครั้ง ถึงคราวที่ Craig จะหยิบมาใช้งานจริง iPhone ก็เลยขึ้นข้อความบังคับให้ใส่ Passcode ก่อนนั่นเอง
คนที่ใช้ iPhone และเปิดการทำงาน Touch ID น่าจะคุ้นเคยกับสถานการณ์แบบนี้ โดย iPhone จะบังคับผู้ใช้ให้ใส่รหัส Passcode เพื่อเปิดการทำงาน Touch ID หลัง Restart เครื่อง หรือเมื่อเราสแกนลายนิ้วมือผิดหลายครั้ง ซึ่งในเอกสารสำหรับนักพัฒนาระบุว่า การปลดล็อกด้วย Face ID หากล้มเหลว 2 ครั้งติดต่อกัน iPhone จะสั่งให้ใส่ Passcode แทน
สรุปได้ว่า Face ID ไม่ได้ทำงานล้มเหลว แต่มันทำงานได้อย่างที่ควรจะเป็นจริงๆ เพียงแต่ผิดเวลาไปหน่อย
ที่มา: MacRumors
Comments
ถ้าสตีฟจ็อบส์ยังอยู่ (ปกติผมไม่เล่นเรื่องนี้นะ แต่ครั้งนี้ขอหน่อย) เรื่องนี้ไม่น่าเกิด และถ้าหากมันเกิดนี่คนที่หยิบมาเช็คจนมันล็อคด้วยพินคงโดน
นึกภาพว่าถ้าเหตุการณ์ประมาณนี้เกิดตอนเปิดตัวไอโฟนรุ่นแรกสุด (เกิดเหตุผิดพลาดจนต้องใช้เครื่องสำรอง / รายละเอียดหลุดออกมาเป๊ะๆ) ไอโฟนอาจจะไม่รู้สึก "ว้าว" จนขายดิบขายดีแบบที่ผ่านมาก็ได้
ถ้าจำไม่ผิดใน Keynote นั้นเห็นว่าใช้ไอโฟนหลายเครื่องมากๆ สำหรับการพรีเซนต์ เพื่อป้องกันความผิดพลาดนี่แหละครับ
คนอย่างจ๊อบส์ไม่ยอมหน้าแตกบนเวทีหรอก
แกก็มีพลาดบ้างเหมือนกันนะครับ
รวมช็อตเด็ดที่ Steve Jobs แสดงอาการ “ไม่พอใจ” ระหว่าง Keynote
ผมว่าแกพลาดเป็นเรื่องไม่คาดคิด อย่างสัญญาณไวไฟอย่างนี้จะโทษทีมงานก็ไม่ได้นะ แต่เรื่องนี้ผิดพลาดที่ทีมงานเลยละ
ถ้าก่อนออกงานแล้วเทสเจอเหตุการณ์แบบนี้บ่อย เผลอๆ เขียนโค้ดใหม่บังคับ FaceID ตลอด แม้ว่าผิดกี่ครั้งด้วยซ้ำ
อันนี้เห็นด้วยเลยครับ // ตอนดูนี่ตกใจมาก เห้ย ปล่อยพลาดขนาดนี้ได้ไง จนผมรู้สึกว่า หรือมันยังไม่พร้อมใช้งานจริงนะ Face ID
จริงๆแกก็เคยพลาดนะครับ ออกจะเหวี่ยงๆบนเวทีด้วย แต่ไม่โป๊ะแตกขนาดนี้
คิดถึงตอนเปิดตัว Windows 98
จำตอนแกขอให้คนทั้งฮอล์ปิด wifi bluetooth ได้ไหมครับ
แกถึงเข้มขึ้นเรื่อยๆ ไงครับ และผมก็เลยเชื่อว่าถ้ามันเกิดขึ้นอีกจริงๆ มันต้องมีคนโดนให้รับผิดชอบ
ก็เลยข้อความ ?
iPad Pro เจอบ่อยมาก ทั้งๆที่ add นิ้วเดิมซ้ำๆหลายมุมจนครบ แต่ Pixel กลับปลดล็อคด้วยนิ้วแม่นกว่ามาก
ไม่รู้ Pixel มัน "อะลุ่มอล่วย" หรือ Touch ID มันแย่ 555
ตั้งแต่ 6P แล้วครับใช่เป็นปีสแกนนิ้วผิดนับครั้งได้ แม่นมากๆ แต่ไอโฟนกะซัมซุง ขึ้นผิดจนชิน
ผมเทียบ s7 กับ ipad2017 รู้สึกว่ามีหลุดพอๆกัน
ของ Samsung ถ้าจี้เรื่อยๆพอจะผ่านได้ แต่ของ ipad ถ้าจี้ไม่ติด 3-4 ครั้งแล้วจะไม่ติดเลย ไม่รู้ผมคิดไปเองหรือว่าเขากันไว้
ต่างกับผมเลย iPad Pro 10.5 นี่ Touch ID ไว มาก แค่วางนิ้วเบาๆแทบจะไม่แตะเลยก็ปลดล็อคได้แล้วต่างกับ iPhone SE ที่เป็น Touch ID รุ่นแรกลิบลับ
แนะนำให้เอาเครื่องไปเช็คศูนย์ดูครับ
ความไว ไม่มีปัญหาครับ แค่ความแม่น
ก็พอมีเหตุผลที่ยอมรับได้อยู่
โอเค รับทราบ เคลียร์ครับ
ถ้าเป็น Steve Jobs เขาไม่ยอมให้เกิดเรื่องนี้ขึ้นโต้งๆหรอกครับ แล้วถ้าตามที่บอกในบทความ ทำไม Craig ถึงไม่เปิดเครื่องแล้วปลดล็อคไว้ตั้งแต่แรกที่จะเริ่มพูดเลย พอพูดไปแล้วมัน sleep มันก็จะไม่เกิดเหตุการณ์แบบนี้ หรือแบตไอโฟนอยู่ได้แค่ 10 นาทีเหรอครับถึงแม้ชาร์ตเต็ม?
ไม่ใช่ว่าเค้าปิดเครื่องครับ
แต่กรณีนี้คือทีมงานเช็คเครื่องบ่อย Face ID มันเลยเข้าใจว่าต้องการ unlock แต่มันไม่ผ่าน เพราะไม่ใช่ใบหน้าที่ถูกต้อง
ทำให้เครื่อง มีสถานะเหมือนการกดรหัสผิดหลาย ๆ ครั้ง เครื่องเลย lock
(เดาว่า มัน lock แบบต้องรอเวลาถึงจะใส่รหัสได้อีกครั้ง เพราะผิดเกิน 3ครั้ง)
พอถึงเวลา Demo มันเลยเกิดปัญหา
ผมว่าเค้าแถนะ ทีมงานเช็คก็น่าจะเช็คทั้งสองเครื่อง และน่าจะเป็นทั้งสองเครื่อง ถ้าแถว่าเช็คเครื่องเดียวอีกเครื่องไม่เช็คทีมงานก็สะเพร่าแล้วครับ อาการหาไม่เจอว่าเกิดอะไรขึ้นต้องรีบหาข้อแก้ตัวมากกว่า
คิดในแง่ช่วย apple คืออีกเครื่องเป็น backup คงไม่ต้องเช็คไรมาก
จริงพลาดการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า ถ้าอธิบายจังหวะนั้นได้ คงไม่โดนคนเล่นปัญหานี้ ฮ่าๆ
(วาปไปปีหน้า) เอาไอโฟนวางไว้บนโต๊ะ กลับมาอีกทีพบว่าติดล็อค 6 ชั่วโมง...
ทำไมผมรู้สึกว่าเค้าแถ
มันไม่ได้ขึ้นให้ใส่พาสโค้ดตั้งแต่ครั้งแรก แต่เหมือนพยายามสองครั้งแล้วมันไม่ผ่านมากกว่า
ถ้าเป็นสมัยจ้อบจะไม่มีทางเกิดขึ้น อาจถึงขั้นบังคับให้เขียนโค้ดให้ข้ามไป หรือเขียนสคริปให้มันผ่านให้ได้แน่ๆ
เป็นฟีเจอร์ใหม่ ที่คนมีอคติอยู่แล้วด้วย แล้วมาพลาดกลางเวที หายนะชัดๆ
ใช้ 5s อยู่ สนใจงานนี้มาก เพราะกำลังจะเปลี่ยนเครื่องใหม่
แต่ตะงิดตรง faceID เหมือนกันว่ามันจะใช้งานได้คล่องเหมือนสแกนนิ้วมั้ยนะ
ยกเครื่องขึ้นมาครั้งแรก นิ่ง..
ครั้งที่สอง ผมมองไม่เห็นนะว่ากดใส่รหัสตอนไหน เพราะมันไกล
แต่ถ้าเค้าใส่รหัสจริง แล้วไม่คิดจะทดสอบ faceID ให้ดูอีกรอบหรอครับ
เค้าไม่ได้ใส่โค้ดเค้าเปลี่ยนเครื่องครับ และไม่ได้กลับมาโชเครื่องแรกอีกเลย
อ๋อครับ แสดงว่าเครื่องแรกก็ผิดพลาดเต็มๆเลยสิครับ
เสีย first impression ไปเต็ม ๆ
That is the way things are.
หนึ่งเครื่องจำได้กี่หน้าเหรอครับ เพราะTouch IDสามารถจำได้5นิ้ว
หน้าเดียว
ไปฝึกกับ faceless man มาสิท่า
อยากรู้ว่า ถ้านอนหลับอยู่แล้วแมวน้อยเอามาแสกนตอนที่เราหลับอยู่ มันต้องไม่ได้ใช่ไหมม หรือว่าได้
ถ้าตาไม่ลืมขึ้นมาก็ไม่น่าจะ scan ผ่านได้
ผมว่ามันก็คงสุดวิสัยจริงๆแหละครับ
เพราะผมใช้ Touch ID หลังๆมานี้ก็เริ่มให้กรอก(ทบทวน)รหัสบ่อยขึ้น เมื่อก่อนจะให้กรอกประมาณ1-2อาทิตย์ครั้งนึง เดี๋ยวนี้มันเล่นมา3-4วันครั้ง
แต่ก็อย่างที่หลายๆคนบอกว่า งานเปิดตัว เครื่องเดโม่ มันน่าจะดัดแปลงมาเพื่อพรีเซนต์เพื่อรักษาFirst Impression ซักหน่อย
แต่กรณีนี้ไม่แน่ว่าเค้าอาจจะใช้ iOS 11 ตัวเต็ม พรีเซนต์รึปล่าว และทีมงานอาจจะไม่อยากดัดแปลงเพราะอาจจะเกิดบัคที่เลวร้ายกว่านี้ขึ้นได้
ตามเอกสารความปลอดภัยของ iOS 10 จะถามรหัสทวนซ้ำทุก 6 วันครึ่ง + ไม่ได้ปลดล็อคเครื่ออีก 4 ชั่วโมง ครับ
ที่คุณว่ามามันก็เป็นมาตั้งแต่สมัยจ๊อบยังอยู่แล้วนี่ครับ
ไอ้เรื่องว้าวนี่ ถามจริงๆ บริษัทที่โดนสื่อและบริษัททั่วโลก ตามสืบ ตามส่อง ทุกย่างก้าว ขนาดนี้ มันจะเก็บความลับอะไรมาว้าวได้อีกอยู่เหรอครับ เคส iPhone X มีขายคั้งแต่ยังไม่กำหนดวันเปิดตัว
ไอ้ที่ควรจะด่าจริงๆนะคือ ความสะเปะสะปะของผลิตภัณฑ์มากกว่า ผลิตภัณฑ์บริษัทเดียวกัน เชื่อมต่อกันตรงๆไม่ได้ ต้องใช้สายแปลงสารพัดแบบ ขนาดiPhoneรุ่นล่าสุด ออกมาหลังจากMacbookหันไปใช้มาตรฐานUSB-C ตั้ง 1 ปี แต่สายที่มากับกล่องยังเป็นUSB-A อยู่เลย
เวลาจะSynce กับiTune แม้จะใช้ผ่านWiFiได้ แต่เวลาตั้งค่าครั้งแรกมันต้องต่อสายนี่สิ
+1 ครับ MacBooks Pro เนี่ย USB-C ละ แต่ iPhone X วันนี้ ยังต้องหาตัวแปลงเป็น USB-C อีก ตรงนี้แหละที่ผมว่ามันไม่เหมาะสม ทั้งที่ออกตามหลังมาตั้งปีสองปี