ถึงคราว Warren Buffett มหาเศรษฐีอันดับต้นๆ ของโลก ออกมาวิจารณ์ Bitcoin และเงิน cryptocurrency บ้าง โดยเขาพูดเรื่องนี้กับกลุ่มนักศึกษามหาวิทยาลัยหลายแห่งเมื่อช่วงกลางเดือนตุลาคม
Buffett บอกว่า Bitcoin เป็น "ฟองสบู่ขนานแท้" (real bubble) เราไม่สามารถประเมินมูลค่าของ Bitcoin ได้ตรงๆ เพราะตัวมันไม่ใช่สินทรัพย์ที่สร้างคุณค่า (value-producing asset) เขาไม่สามารถบอกได้ว่าค่าเงิน Bitcoin จะขึ้นไปถึงเท่าไร แต่บอกได้ว่าคนตื่นเต้นไปกับมูลค่าของมัน และนักลงทุนใน Wall Street ก็ตอบรับเรื่องนี้
เขายังพูดถึงรถยนต์ไร้คนขับ ว่าน่าจะมีส่วนแบ่งตลาด 10% ได้ในปี 2030 โดยเหตุผลหลักในการผลักดันคือรถยนต์ไร้คนขับ ปลอดภัยกว่ารถยนต์แบบมีคนขับ
ที่มา - MarketWatch via Coindesk , ภาพจาก Gatesnote
Comments
แล้วเดี๋ยวเซียนบิทคอยนักการเงินตัวจริงก็จะออกมาโจมตีบัฟเฟต
เวลามีคนดังๆออกมาพูดเกี่ยวกับ cryptocurrency ในอีกแง่ พวกเขาดูจะกลายเป็นคนไม่น่าเชื่อถือสำหรับชาวเหมืองทันที
... ผมดูว่าเค้าปั่นเงินนะ
คนดังๆบ่นที ค่าเงิน bitcoin ก็อ่อนให้ แต่ demand จริงๆ ข้างในยังแข็งแรงเหมือนเดิมสักพักก็เด่งกลับ
คนเก็งค่าเงินเป็นก็รอ ซื้อถูก ขายแพง
samsung ใหญ่แค่ใหน ?https://youtu.be/6Afpey7Eldo
เท่าที่สังเกต คนสาย tech อย่าง Bill Gates, Steve Wozniak, John McAfee, Elon Musk, Peter Thiel จะกล่าวถึง bitcoin ในแง่บวก ส่วนคนสาย finance เช่น Warren Buffett, Jamie Dimon, Jordan Belfort ก็จะกล่าวถึงในแง่ลบมาตลอด
เพราะอยู่คนละฟิลด์กัน คนไอทีเค้าก้ชมเพราะมันเปนเทคโนโลยีน่าสนใจ แต่ถ้าสายการเงินมาเค้ามองในแง่ของเงินและเศรษฐศาสตร์มากกว่าเทคโนโลยี มันก็เลยออกมาต่างกัน
ตอนเรียนทีแรกผมตื่นเต้นกับมันมากเลยนะครับ จนถึงทุกวันนี้ก็ยังชื่นชมมันมากๆ แต่ในแง่ของการทำงานและการประดิษฐ์ไม่ใช่ในแง่ของสินทรัพย์
เค้าชื่นชมเทคโนโลยี blockchain รึเปล่าครับ ไม่ใช่ตัว bitcoin ตรงๆ
ถ้า wozniak ล่าสุดนี่ชมบิทคอยน์ตรงๆเลยครับ
เค้าชม blockchain ครับไม่ใช่ cryptocurrency
เขาชม bitcoin ครับไม่ใช่ blockchain
เข้ามารอคห. "ทุบแแล้วรอช้อน"
พวกนี้คิดไปเองทั้งนั้น ไม่มีหลักฐานการช้อนใด ๆ ทั้งสิ้น
That is the way things are.
ไม่มีหลักฐานก็ดูกราฟได้ครับ มันช่างน่าช้อนเสียจริงๆ
เทคโนโลยี blockchain นั้นดีมาก แต่ไม่ได้หมายความว่าต้องเป็นตัว bitcoin ที่จะรุ่งนะ
Blockchain กับ Bitcoin เหมือนเป็นคนละเรื่องกัน
จริงๆส่วนตัวมองว่า Cryptocurrency ควรมีค่าตาม Underlying platform/asset มากกว่าการเป็น currency ซะเองนะ
คือคิดว่า ถ้าจะรอดจริงๆ Bitcoin อาจจะต้องมาแทน Stock exchange มากกว่า (สกุลเงินกลาง/ระบบกลาง ระหว่างการแปลง Cryptocurrency ด้วยกันเอง) ... ถ้าไม่ปรับมูลค่าหรือวิธีการไปในทางนั้น ในที่สุดแล้ว Regulation/Regulator จะทำให้มันใช้ไม่ได้หรือใช้ยาก แล้วเสื่อมค่าไปเอง
อะไรที่ประเมินมูลค่าที่แท้จริงไม่ได้(ถึงที่สุดของที่สุดหากเกิดปัญหาแล้วไม่มีจุดอ้างอิง-ปัญหาการเมือง ปัญหาศก. ปัญหากฎหมาย ปัญหาการใช้งาน ปัญหาแพลตฟอร์มใหม่) ก็น่าจะพอเรียกว่าฟองสบู่ได้ .... แต่ก็นั่นล่ะ ฟองสบู่ มันไม่ได้แปลว่าจะแตก มันอาจจะเป็นบับเบิ้ลไปอีกหลายปีก็เป็นได้
*** ในมุมนักลงทุน มันไม่น่าลงทุนเลยแต่ในมุมนักเก็งกำไร มันโคตรน่าสนใจเลย
ขาโหดเตรียมช้อนกันแล้วสินะ โผล่มาเรื่อยๆ 555
ส่วนตัวผม ผมมองในเชิงเสถียรภาพความเป็นอยู่ของมนุษย์ ถ้ามีความเป็นอยู่อย่างปัจจุบันนี้ ก็นับว่าน่าลงทุนหรือน่าสนใจอยู่ครับ แต่........... ถ้าหากเกิดความไม่เสถียรภาพขึ้นมาละ... เช่น สงคราม ต่างดาวบุกโลก ภาวะพายุสุริยะที่เกินความคาดหมาย ก่อการร้าย หรือ ความเปลี่ยนแปลงสภาวะของโลกเรา เป็นต้น ถ้ามองในแง่นี้ก็นับว่าไม่น่างลงทุนนะครับ กรณีถ้าคิดเก็งกำไรระยะสั้นก็อาจน่าสนใจอยู่ แต่ถ้าคิดว่าจะถือระยะยาวละก็ ผมคงตอบแบบเดียวกับวอเร็นนั้นแหละครับ
ไม่แปลกใจกับที่ปู่ Buffett พูดนะ เขาเป็นแนวประเมินมูลค่าที่ควรอ้างอิงได้แน่นอนอยู่แล้วแต่ไอ้สองคนทางซ้ายภาพนั่น แย่งซีนอยู่นะเฮ้ย
ผมว่า บิทคอยน์ไม่ตาย แต่ก็เลี้ยงไม่โต มีคนรอทุบเอาเงินออกเสมอ
ปู่ Buffett แกช้อนไม่ได้หรอกนะ ทุนขนาดนั้นเข้าลำบากถึงพยายามเข้ามาได้แต่ออกไม่ได้ BTC ขายทีหลักหมื่นราคาทั่วโลกก็ลงเหวแล้วอีกอย่างของแนวๆ ประเภทที่ไม่มีปันผล เกร็งราคาแล้วขายมันไม่ใช่แนวปู่แกอยู่แล้วด้วย ขนาดทองคำปู่แกยังไม่สนเลย
นักลงทุนมองว่าไม่น่าลงทุนก็ถูกแล้ว เพราะคาดเดาอะไรไม่ได้ ไม่มีการควบคุม ใครมีตังหน่อย จะทุบเมื่อไหร่ก็ได้ ลุกช้าจ่ายรอบวง
ผมเองมองว่ามันก็เป็นอย่างที่เขาว่าๆ กันมานะ ว่ามันคือฟองสบู่ ถึงแม้ว่ามันจะยังขึ้นได้อีกมันก็ยังมีลักษณะเป็นฟองสบู่ เพราะเท่าที่เห็นตอนนี้มันคือการเก็งกำไรเต็มรูปแบบ อยู่ทีว่ามันจะแตกเมื่อไหร่ก็แค่นั้น
ถ้าเป็นช่วงยุค $400 นี่ผมคงไม่เห็นด้วยกับ Buffett เพราะยุคนั้นคนเน้นใช้งาน bitcoin แทนเงินสดกันจริงๆ
แต่พอมายุคนี้กลายเป็นว่ามันกลายเป็นยุคแห่งการเก็งกำไรแทน แถมรัฐบาลหลายๆที่ก็ควบคุมการใช้งานอีก ทำให้คุณค่าของมันในฐานะสินทรัพย์ค่อยๆลดลงไป ดแแดังนั้นถ้า Bufett จะมองมันว่าเป็นฟองสบู่ก็คงไม่แปลกอะไร
ปล. เห็นชื่อ Buffett ทีไรหิวทุกที
Russia is just nazi who accuse the others for being nazi.someone once said : ผมก็ด่าของผมอยู่นะ :)
เนื้อความ เห็นด้วยครับ
แต่ป.ล. นี่...
แล้วแต่รสนิยมขนาดปู่แกเองไม่นิยมทองคำเลย เหมือนคนไทยนี่แหละที่สะสมพระเครื่องเพื่อการลงทุน ฝรั่งคงงว่าทำไมราคาแพงจัง