Apple Lisa นับเป็นโครงการที่ สตีฟ จ็อปส์ ใส่ใจควบคุมโครงการอย่างมากจนกระทั่งตั้งชื่อโครงการตามชื่อลูกสาว Lisa Brennan แต่ตัวโครงการกลับล้มเหลว โดยยอดขายรวมเพียง 100,000 เครื่องตลอดสองปี (Macintosh ที่ขายช่วงเดียวกันขายได้ 70,000 เครื่องในสามเดือน) ทำให้มันไม่ค่อยถูกใช้งานในวงกว้างนัก แต่ตอนนี้ก็มีประกาศออกมาใน กลุ่ม lisalist ว่าแอปเปิลเตรียมจะปล่อยซอร์สโค้ด Lisa ในปี 2018 นี้
ประกาศระบุว่าตอนนี้แอปเปิลกำลังตรวจสอบโค้ดว่าจะปล่อยส่วนใดออกมาได้บ้าง โดยส่วนที่อาจปล่อยออกมาไม่ได้ เช่น พจนานุกรม American Heritage ที่แถมมากับซอฟต์แวร์ LisaWrite ส่วนกระบวนการปล่อยซอร์สโค้ดจะปล่อยผ่าน Computer History Museum
เหตุผลสำคัญที่ Lisa ไม่ประสบความสำเร็จคือราคาที่แพงมาก โดยราคาเปิดตัวสูงถึง 10,000 ดอลลาร์ ในปี 1983 ตัวระบบปฎิบัติการเองก็มีความซับซ้อนสูง จนกระทำซอฟต์แวร์ต่างๆ ทำงานได้ช้า
Lisa เป็นเครื่องที่ซ่อมบำรุงได้ง่ายมาก โดยตัวบอร์ดถอดออกจากเคสได้เป็นชิ้นเดียวกัน และบอร์ดย่อยก็เชื่อมกันด้วยซ็อกเก็ตทำให้ซ่อมบำรุงได้ง่าย
ที่มา - Business Insider
Comments
ตัวนี้รึเปล่านะ ที่บิลเกทไปเห็นเข้าแล้วออกมาเป็นวินโดวส์น่ะ
ที่ไปขโมยของเขามาทั้งดุ้นมันเกิดจากตอนที่ ไปเขียน office ให้ Mac ครับ แล้วก็เอามาทั้งดุ้นจนถึงขั้น Jobs เกลียด Bill Gates แบบไม่เผาผีกันเลยทีเดียว
https://en.wikipedia.org/wiki/Microsoft_Office#Mac_versions
ใช่ประโยคดังอันนี้มั้ยครับWhen Jobs accused Gates of stealing the idea, he famously answered: "Well, Steve, I think there’s more than one way of looking at it. I think it’s more like we both had this rich neighbor named Xerox and I broke into his house to steal the TV set and found out that you had already stolen it.”
55555555555555555555555555555555555555555555
ถ้า Bill Gates ตายไปละ ผมคงคิดว่าเกิดมาเป็น อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ 555555555555555
อย่างน้อย Bill Gates ก็ยอมรับว่าก็อปมาจาก Xerox Steve Jobs ยังไม่ยอมรับว่าตัวเองก็ก็อปเค้ามาแถมยังชี้หน้าด่า Bill Gates อีก
ถ้าจะว่าเรื่อง Mouse นะ ไม่เกี่ยวกับ Windows นะ
ผมว่า Gates ขโมยเม้าส์ของ Apple ไม่ใช่ mouse ของ Xeroxเพราะเราไม่ได้ว่ากันแค่ ก้อนสี่เหลี่ยมมีปุ่มกดใช่ไหมครับ มันต้องว่ากันด้วย code ทั้งหมด
แต่นานาจิตตังฮะ คุณมองแบบนั้นผมก็ว่าไม่ผิด ลองอ่าน อันนี้ผมว่าสนุกดี
http://www.mac-history.net/computer-history/2012-03-22/apple-and-xerox-parc
ฮาร์ดแวร์เยี่ยมแต่ซอฟแวร์ยากสินะ สมัยนี้ยากหมด ส่วนเรื่องราคาโหดเหมือนเดิม 555
ในข่าวบอกว่าซอฟแวร์ซับซ้อน ไม่ได้บอกว่า ยาก นี่ครับเข้าใจว่าซอฟแวร์อาจจะทำงานหลายขั้นตอนเกินไป จนเครื่องมันอืด
ส่วนสมัยนี้ไปลองเล่นWin10ตามเครื่องโชว์ตามร้าน ความลื่นทัชแพดนี่สูสีกับMacOSละ ลูกเล่นทัชแพดยังห่างกับMacOSอยู่หลายขุมอยู่ครับส่วนการจัดระเบียบOSก็ดีขึ้นกว่าWin7มาก แต่ก็ยังรกวุ่นวายกว่าMacOSอยู่มากครับ เทียบง่ายๆก็แค่หน้า System Preferences เนี่ยแหละครับ
และอีกอย่างMacOSมันออกแบบมาให้คนทั่วไป ที่ไม่เก่งคอมมากทำระบบพังได้ยากครับ เพราะพี่แกเอาพวกการตั้งค่าที่อันตรายๆไปซ่อนหมด ในขณะที่Windowsทำให้เข้าถึงได้ง่ายกว่า(Settingมันรกเพราะเหตุนี้แหละ) ที่บ้านผมถึงไว้ใจให้พ่อผมเล่นคอมบนMacมากกว่าPCก็เพราะเหตุนี้นี่แหละ
โปรแกรมค่ายอโดบี้นี่เวอร์ชั่น mac กับ win แทบไม่มีอะไรต่างกันเลยนะ เคยไปฝึกงานใช้ photoshop บน mac เซฟเป็น .psd เอาไปเปิดทำต่อใน photoshop บน windows 98 ที่บ้านได้
ถ้าเมื่อก่อนนะผมเถียงขาดใจเลยตอนนี้ตอนนี้ยอมครับแทบไม่ต่างกันเลย
แพงมาตั้งแต่รุ่นพ่อ
จนกระทำซอฟต์แวร์ต่างๆ ทำงานได้ช้า > จนทำให้ซอฟต์แวร์ต่างๆ ทำงานได้ช้า
ผมอ่านแล้วงงย่อหน้าสุดท้าย ตกลงมันซ่อมยากหรือง่ายกันแน่ = =??
หลายสิบปีก่อน ผมเคยไปหอสมุดแห่งชาติเจอหนังสือคู่มือ Lisa กับ IBM PC jr ตื่นตาตื่นใจมาก นั่งอ่านทั้งวันเลย