วันนี้ราคาบิตคอยน์ยังคงตกลงเรื่อยๆ จนราคาล่าสุดยืนต่ำกว่า 9,000 ดอลลาร์ และตกลงไปต่ำสุดเหลือเพียง 8,355.02 ดอลลาร์เท่านั้น
Stephen Innes หัวหน้าห้องค้าเอเชียแปซิฟิกของบริษัทค้าเงินตรา Oanda วิเคราะห์ว่าบิตคอยน์จะตกลงไปต่ำสุดที่ระดับ 5,000-6,000 ดอลลาร์ และจะฟื้นตัวในระยะยาวมาอยู่ที่ 10,000-15,000 ดอลลาร์
เมื่อวันพุธที่ผ่านมาในเกาหลีใต้ก็มีรายงานนักศึกษาชั้นปีที่สองในปูซานเสียชีวิตอยู่ในห้องหลังจากมีอาการเครียด โดยก่อนหน้านี้นักศึกษาคนนี้เคยได้กำไรจากการค้าเงินคริปโตถึง 200 ล้านวอน หรือ 6 ล้านบาท ก่อนจะขาดทุนหนักเมื่อราคาเงินคริปโตตกลง
ที่มา - Korea Herald , Japan Times
Comments
พึ่งซื้อ Rig มาขุดนี่คืนทุนยากเลยลงแบบนี้
นึกถึงข่าวสมัย 5พันเหรียญ 6พันเหรียญ 7พันเหรียญ ซิครับ สมัยนั้นยังตื่นตาตื่นใจกับราคานี้อยู่เลยผมว่าถ้าสายขุดนะครับ ราคานี้ยังถือว่าดีอยู่เลยนะ
คนที่ทำริก/ซื้อ ASIC ตอนกลาง-ปลายปีที่แล้วน่าจะสบายครับ
ที่น่าห่วงคือคนที่เข้ามาใหม่ช่วงปีใหม่เป็นต้นมานี่แหละ ราคาทั้งการ์ดจอ/ASICพุ่งทะลุดาวอังคารไปเลย
แล้วเห็นบางคนลงทุนโดยเป็นเงินร้อน โดยหวังว่า 2-3 เดือนคืนทุน (คำนวณ ณ ราคายอดดอย)
กลุ่มนี้เครียดจัดแน่ๆ ถ้าไม่มีเงินสำรองเอาตัวรอดช่วงนี้ไปจนถึงราคากลับตัวขึ้นมาได้
มันขึ้นไป 7000 กับ มันลงมา 7000 มันเป็นหนังละเรื่องกันเลยนะครับ ถ้าคุณเข้าใจทุนนิยม
มันน่าตกใจครับ ถ้าระยะเวลามัน 5ปี 10ปีนี่มันระดับครึ่งปีเองครับ ย้ำนะ สำหรับสายขุด
ขายริกทิ้งกันเป็นเบือแน่นอน
คนจริงต้อง Hodl
+9,000 ว่าแต่ hodl มันมาจากไหนครับ
hold
คืออยากรู้ว่าใครพิมพ์ hodl เป็นคนแรก เพราะตอนนี้มันเป็น meme ของ BTC ไปแล้วหน่ะครับปล. รู้ว่าเดิมทีคนพิมพ์ต้องการพิมพ์ว่า hold ครับ
มี วิกิ ของคำพยายามอธิบายเลยนะครับ
แต่สืบค้นไปถึงคนแรกไหมก็ไม่รู้เหมือนกัน
ที่มา มาจากเว็บ bitcointalk ครับ ตั้งแต่สมัยฟองสบู่แตกปี 2013
https://bitcointalk.org/index.php?topic=375643.0
ตำนานเกิดช่วง Mt.Gox ล่มปลายปี 2013 ถึงต้นปี 2014 ราคา BTC ร่วงอย่างหนัก จาก 1200$ ลงมาเหลือ 400$ คนเทขายกระจาย แต่มีนาย GameKyuubi ตั้งกระทู้ใน Bitcointalk ตามลิงค์ข้างบน บอกว่ายังไงก็จะไม่ขายและจะ HODL ไปเรื่อยๆ จนกลายเป็นตำนานมาจนถึงทุกวันนี้ ว่าเมื่อไหร่ก็ตามที่ราคาร่วงหนักจงถือเหรียญไว้อย่าขาย
ประโยคในตำนานคือ “HOLDING? I'LL TELL YOU WHY. It's because I'm a bad trader and I KNOW I'M A BAD TRADER. Yeah you good traders can spot the highs and the lows pit pat piffy wing wong wang just like that and make a millino bucks sure no problem bro. I'm not part of that group. “
สรุปฟองแตกแล้ว?
Feed ponzi ฮะ
ฺBTC ผ่านไป ยังมี ETH ต่อ
มันไม่ง่ายเลยที่จะทำ GIF ให้มีขนาดน้อยกว่า 20kB
เงินจะมีคุณค่าถ้าคนยอมรับ แต่จากที่หลาย ๆ ประเทศเริ่มแบน, ห้ามแลกเปลี่ยน ก็เท่ากับสังคมเริ่มแสดงออกว่าไม่ยอมรับนั่นแหละ
การซื้อขายตอนนี้อยู่ที่ความหวังอย่างเดียวเลยมั๊ง ซื้อเพราะหวังว่ามันจะดีขึ้น
มันน่าจะเรียกว่า correction นะครับ ตอนขี้นก็ขี้นจากการ speculate มันก็ควรจะ correct ตามธรรมชาติ
ณ ปัจจุบันผมมองว่าเป็น Correction ครับเพราะ 2 เดือนที่ผ่านมาตั้งแต่ ธ.ค. 60 มันคือ FOMO แบบรุนแรงมาก ราคาพุ่งทะลุดาวอังคารอย่างรวดเร็วจนไม่มีเหตุผลมากเกินไป
แต่ถ้าลงไปถึงแถวๆ 4xxx นี่น่าจะเรียกว่าฟองสบู่แตกก็ได้
จริงๆ ถ้าเคยได้กำไรตอนปลายปีที่แล้วแล้วน่าจะลอยตัวเพราะถอนทุนหมดแล้วนะ เหลือแค่ได้มากได้น้อยลง
ยกเว้นไปกู้เงินมาเล่นเพิ่ม อันนี้เหนื่อยจริง
รอหลังตรุษจีนค่อยว่ากันครับ...
เอาชีวิตไปผูกกับการพนันก็อย่างนี้แหละ ไม่จบสวยหรอก
ไม่อยากคิดสภาพคนที่เข้าปลายยอดแบบ all in ตัวย่อยๆ เลยแฮะ ประเภทที่เข้า XRP ราคา 110แล้วถือไว้หวังว่ามันจะขึ้น แต่ตอนนี้เหลือ 24 บาท
ก็ถ้าคิดจะ all in ก็เป็นความเสี่ยงของเค้าเองแล้วล่ะครับ
น่าจะมีคน All in แบบ กระจายในหลายๆ เหรียญ หวังจะลดความเสี่ยงนะครับ
สรุป ร่วงทุกเหรียญ
บางคนนี้น่าจะช้อนหักแล้ว
เอาจริงๆการดัน Bitcoin ให้เกิดนี่ยากกว่าการที่ Tesla พยายามดันรถไฟฟ้าให้มาแทนรถน้ำมันอีกนะ
เทคโนโลยีดีก็จริง คอนเซ็ปดีก็จริง แต่เอาเข้าจริงรัฐบาลหลายๆประเทศไม่อยากให้เกิดขึ้นหรอก หลายๆประเทศก็ยังไม่พร้อมสำหรับตอนนี้ อยู่ๆจะมามีสกุลเงินที่ไม่สามารถ Centralized จากส่วนกลางได้ ยังไงก็ยากที่จะเกิดขึ้น
ไม่แปลกที่ข่าวช่วงหลังจะแย่หมด เริ่มจาก จีน > เกาหลี > อินเดีย โดยอาศัยเรื่องฟอกเงินเป็นตัวอ้าง
แล้วก็พาลแบนเหรียญอื่นไปด้วย ทั้งๆที่จริงแล้วเหรียญอื่นๆอีกหลายตัวเป็นเทคโนโลยีที่ดีที่จะมาช่วยแก้ปัญหาได้อีกเยอะมากๆ
Bitcoin
ข้อดี ไม่มีคนกลาง
ข้อเสีย ไม่มีคนกลาง
เหรียญมี 2 ด้าน
ระบบการเงินโลกเรา ตรวจสอบแหล่งจ่ายได้ ตามตัวได้ มีรับประกันสินค้า สิ้นปีคำนวนเงินย้อนหลังได้........ คนที่ทำหน้าที่นี้คือ คนกลาง
แต่เมื่อไม่มีคนกลาง ......
สิ่งที่ผมสงสัยคือ มีร้านค้าหรือบริการอะไรบ้างในโลกใบนี้รับชำระเงินสกุลดิจิตอลพวกนี้บ้าง ยกตัวอย่างสัก 2-3ที่
เพราะผมเห็นแต่ข่าวบริการดังๆหลายที่ปิดรับชำระ เลยไม่รู้ว่าจะขุดเงินเอาไปทำอะไร
ืnote : ถ้ามีแต่คนขุดแต่ไม่มีจุดรับชำระแบบนี้แล้วพวก exchange จะไหวหรือเปล่าเนี่ย
ถ้าไม่นับว่าต้อง "ถูกกฎหมาย" ก็เยอะอยู่ครับ เช่น Silk Road และช่วงหลังมีตลาดมืดแบบเดียวกันเกิดขึ้นไม่หยุด
จ่ายค่าไถ่ Ransomware ก็นับว่าเป็นบริการ (ผิดกฎหมาย) ที่รับเงินคริปโตเป็นหลักเลย
lewcpe.com , @wasonliw
ถ้า Online ผมเห็น Play-Asia รับอยู่นะครับ ส่วน Offline ก็เห็น BicCamera กับ Peach Airline ประกาศรับอยู่
ผมเห็นรุ่นน้องที่ทำ Laptop ขายก็รับ bitcoin นะครับ
เห็นว่าคนมาซื้อไปหลายเครื่องเหมือนกันนะ (แต่ว่าเป็นการซื้อด้วยจุดประสงค์ต้องการแลกกลับเป็นเงินจริงครับ เพราะว่าซื้อเครื่องไปก็เอาไปขายต่อ)
ผมอยากให้ราคามันนิ่งๆ ยาวๆ เพื่อที่จะให้มันเป็น Currency ได้จริงๆแต่จากปลายปีถึงตอนนี้มันคงเป็นได้ยาก เพราะดูจากราคาแล้วมันอ่อนไหวมากๆ
ถ้าราคามันนิ่งยาวๆ มันจะดูไม่มีเสน่ห์ และคนไม่เห็นความต่างจากการใช้สกุลเงินธรรมดาหรือเปล่าครับ?
bincoin นี่เข้าใจว่าเสน่ห์คือการมองเป็นบ่อนเลยนะครับ
คุณสมบัติๆหลักๆของสกุลเงิน คือ มันต้องเสถียรระดับนึงอ่ะ
คุณสมบัตินึงของ Currency คือความเสถียรของมูลค่าครับ
เปรียบเทียบก็คือคุณมีเงิน 1 หน่วยอยู่ในกระเป๋า ที่วันนี้ซื้อข้าวผัดได้ 1 จาน, พรุ่งนี้กลายเป็นซื้อได้แค่ครึ่งจาน, มะรืนกลายเป็นซื้อได้ 2 จานนี่ก็เรียกว่าไม่มีความเสถียรแล้วครับ
พวกที่เกิด hyperinflation นี่ก็ currency นะครับ ?
มันค่อยๆไต่ระดับแบบปรับตัวกันพอทันอยู่นะครับ time frame ยังเป็นหลักสัปดาห์/เดือน
ไม่ใช่เช้า 10 บาท บ่าย 20 บาท ค่ำ 5 บาท แบบคริปโต
ซึ่งพวกที่มัน hyper สุดๆ แบบซิมบับเว หรือเยอรมันหลังสงครามโลก มันก็หมดสภาพการเป็น Currency ไปโดยปริยาย เพราะมันเก็บมูลค่าไม่ได้แล้วครับ
ตามนี้ครับ
อย่างน้อยๆ Currency เหล่านั้นมันก็มีเหตุผลที่มาที่ไปในการเกิด hyperinflation นะครับ ซึ่งต่างจาก BTC ในตอนนี้ที่ถูกผลักดันจาก demand/supply เพื่อการเก็งกำไรล้วนๆ
เล่นบ่อนยังเสี่ยงน้อยกว่าเลยมั้งเนี่ย
ว่าแต่เซลล์ขาย Bitcoin ประจำเว็บไปไหนหว่า ไม่เห็นมาชี้แจงเลยว่าเกิดอะไรขึ้น ทุกทีเห็นไม่เคยพลาดข่าวหมวด Bitcoin เลยนะ
ถ้ามันกลับขึ้นมาที่ 10k เดี๋ยวก็ตีปีกร้องกระต๊ากๆตามเคยแหละครับ
เท่าที่สังเกต
ตลาดหุ้น เวลาถล่ม จะเหลือ 1/3 จากยอด
แต่มันใช้กับ crypto ได้หรือเปล่า?
เพราะอย่างน้อย หุ้นมันมี book value ของกิจการยันไว้อยู่
แต่ crypto นี่...
มีค่าไฟในการขุดเป็นต้นทุนอยู่ ;)
oxygen2.me , panithi's blo g
Device: HP Zbook, iPad Pro, iPhone 15PM, iPhone 16+, Nothing Phone 1
ในขณะเดียวกันต้นทุนก็ไม่ใช่มูลค่าที่แท้จริง :)
ไฟที่ใช้หายไปแล้ว เหมือนเอามาแปลงสภาพเป็น Bitcoinเอามาใช้ประโยชน์ใหม่ไม่ได้
มีต้นทุกต่อเหรียญค้ำไว้อยู่ครับ แต่ก็ไม่ควรลืมว่ามีบางสกุลเกิดจากการเสกขึ้นมาล้วนๆเหมือนกัน มูลค่าของมันคืออากาศธาตุโดยแท้
ขึ้นแบบไร้เหตุผล แต่ลงแบบมีเหตุผล ?
และเหตุผลของการลง คือ ขึ้นแบบไร้เหตุผล
ไม่ต่างจากแทงหวยใต้ดินหรอก
555555555+ อ่อนแอ ก็แพ้ไป...