แน่นอนว่าการทำงานของใครหลายคนนั้นต้องมีเสียงดนตรีเพื่อเพิ่มบรรยากาศในการทำงาน เพราะฉะนั้นแล้วการมี ลำโพงคอม ดี ๆ สักหนึ่งตัว จะช่วยให้การทำงานของเหล่านั้นไหลลื่นได้เป็นอย่างดี เนื่องจากเสียงที่ได้รับการส่งออกมาจากตัวลำโพงที่ดีนั้นจะมีความกระหึ่ม ชัดเจน สามารถสร้างความชัดเจนและอารมณ์ร่วมได้เป็นอย่างดี ซึ่งไม่ใช่แค่เพียงการฟังเพลงเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงการดูหนัง หรือแม้แต่เล่นเกมอีกด้วย ดังนั้นลองมาดู 10 ลำโพงคอม ยี่ห้อไหนดี 2024 ที่จะสร้างเสียงอันทรงพลัง ให้ได้รับฟังกันตลอดการใช้งาน

ตารางเปรียบเทียบ 10 ลำโพงคอม ยี่ห้อไหนดี 2024

	ระบบเสียง	ตอบสนองความถี่	กำลังขับสูงสุด	การเชื่อมต่อไร้สาย	การเชื่อมต่อแบบมีสาย
Creative Pebble X Plus	2.1	45 – 20,000 Hz	60W	Bluetooth 5.3	USB, 3.5 mm AUX
Klipsch Promedia Heritage 2.1	2.1	29 - 20,000 Hz	220W	Bluetooth 5.0	AUX 3.5 mm, RCA, USB-A
Edifier Luna Eclipse E25HD	2.0	50 - 40000 Hz	74W	Bluetooth 5.3	AUX 3.5 mm
Harman Kardon SoundSticks 4	2.1	40 - 20,000 Hz	140W	Bluetooth 4.2	AUX 3.5 mm
KEF LS50 Wireless II	2.0	40 - 47000 Hz	760W	Bluetooth 5.0, Wi-Fi 2.4GHz, 5GHz	HDMI, Coaxial
Fiio SP3 BT	2.0	65 - 20000 Hz	80W	Bluetooth 5.0	Type-C/COAX/ OPTICAL
Microlab Bottlewine	2.1	50 - 20000 Hz	36W	Bluetooth 4.0	AUX 3.5 mm
Creative Pebble Pro	2.0	80 - 20000 Hz	60W	Bluetooth 5.3	USB, AUX 3.5 mm.
Edifier G2000	2.0	98 - 20000 Hz	16W	Bluetooth 4.2	USB, AUX 3.5mm
Audioengine A2+	2.0	65 - 22000 Hz	60W	Bluetooth 5.0	AUX 3.5 mm, RCA, USB-A

Creative Pebble X Plus

ราคาเริ่มต้น 4,890 บาท

ที่มา creative.com

เปิดมาตัวแรกของบทความด้วย Creative Pebble X Plus ที่มาในรูปทรงแบบโมเดิร์น ด้วยตัวลำโพงทรงกลมที่แหงนหน้าขึ้นทำมุม 45 องศา จึงสามารถสาดเสียงออกมาได้อย่างทั่วถึง ด้วยตัวเสียงระบบ 2.1 พร้อมกับกำลังขับสูงสุด 60W ผ่านไดรเวอร์ของแต่ละข้างที่ 2.75 นิ้ว รับรองได้เลยว่าทุกเสียงนั้นจะต้องออกมาอย่างสมบูรณ์แบบ และช่วยตกแต่งห้องให้สวยงามด้วยไฟ RGB ที่ข้างลำโพงอีกด้วย

สเปก

• ระบบเสียง 2.1
• ตอบสนองความถี่ 45 – 20,000 Hz
• กำลังขับสูงสุด 60W
• การเชื่อมต่อไร้สาย Bluetooth 5.3
• การเชื่อมต่อแบบมีสาย USB, 3.5 mm AUX
• ไดรเวอร์ 2.75 นิ้ว
• ไฟ RGB ที่มีมากถึง 16.8 ล้านสี
• ตัวลำโพงออกแบบให้เงย 45 องศา
• ซับวูฟเฟอร์ขนาดกะทัดรัด
• รองรับการใช้งานร่วมกับแอป Creative App

ข้อดี

• ลำโพงคู่และซับวูฟเฟอร์ขนาดกะทัดรัดจัดวางได้ทุกมุม

ข้อควรรู้

• ตำแหน่งที่วางซับวูฟเฟอร์อาจส่งผลเสียงที่แตกต่างกัน

Klipsch Promedia Heritage 2.1

ราคาเริ่มต้น 13,900 บาท

ที่มา klipsch.com

เรียกได้ว่าเป็นลำโพงคอมดีไซน์เรียบหรูสไตล์คลาสสิก ที่จะนำไปวางไว้ตรงไหนก็ช่วยสร้างความน่ามองกับลำโพงอย่าง Klipsch Promedia Heritage 2.1 จัดเต็มด้วยลำโพง Satellite สองข้างมาพร้อมไดรเวอร์ Tractrix Horn อันเป็นเอกลักษณ์ รวมถึงมี tweeter และ woofer ครบเซ็ต ทำให้สร้างสรรค์เสียงออกมาได้อย่างเต็มที่ รับรองเลยว่าจะเข้าถึงของอรรถรสเสียงได้อย่างดีที่สุด

สเปก

• ระบบเสียง 2.1
• ตอบสนองความถี่ 29 - 20,000 Hz
• กำลังขับสูงสุด 220W
• การเชื่อมต่อไร้สาย Bluetooth 5.0
• การเชื่อมต่อแบบมีสาย AUX 3.5 mm, RCA, USB-A
• รีโมทคอนโทรลควบคุมระยะไกล
• ไดรเวอร์ Tractrix Horn เฉพาะแบรนด์
• Subwoofer ขนาด 8 นิ้ว
• รองรับการใช้งานได้หลากหลายอุปกรณ์
• Control Knob ที่ด้านหลังตัวลำโพง

ข้อดี

• สเปคด้านเสียงจัดเต็มพร้อมการออกแบบที่เป็นเอกลักษณ์

ข้อควรรู้

• ไม่มีระบบเสียง 3D Dolby Atmos

Edifier Luna Eclipse E25HD

ราคาเริ่มต้น 11,900 บาท

ที่มา edifier.com

ราวกับล่องลอยอยู่บนดวงจันทร์เพราะว่า Edifier Luna Eclipse E25HD นั้นมีรูปทรงและดีไซน์ที่ล้ำไม่ซ้ำใครกับดวงจันทร์ครึ่งเสี้ยว เลือกสีได้ถึง 3 สี ไม่เพียงแค่ดีไซน์แต่การระเบิดพลังของเสียงก็เรียกได้ว่ากระหึ่ม สร้างอรรถรสได้อย่างยอดเยี่ยม และยังควบคุมผ่านรีโมทได้ตามต้องการ รวมไปถึงตั้งค่าเสียงผ่านแอป EDIFIER ConneX APP ที่จะทำให้คุณได้เสียงตามที่คุณนั้นต้องการ

สเปก

• ระบบเสียง 2.0
• ตอบสนองความถี่ 50 - 40000 Hz
• กำลังขับสูงสุด 74W
• การเชื่อมต่อไร้สาย Bluetooth 5.3
• การเชื่อมต่อแบบมีสาย AUX 3.5 mm
• รองรับเสียงแบบ Hi-Res
• ไดรเวอร์ Mid-Low ขนาด 3 นิ้ว
• ไดรเวอร์ Tweeter แบบ Silk Dome ขนาด 1 นิ้ว
• Passive Bass Radiators ขนาด 3 นิ้ว
• รองรับการใช้งานผ่าน EDIFIER ConneX APP

ข้อดี

• ไดรเวอร์เสียงครบครันทุกย่านเสียงเพื่อการส่งเสียงที่คมชัด

ข้อควรรู้

• น้ำหนักของลำโพงหนัก 3.24 กิโลกรัม

Harman Kardon SoundSticks 4

ราคาเริ่มต้น 13,900 บาท

ที่มา harmankardon.com

Harman Kardon SoundSticks 4 นัั้นเรียกได้ว่าเป็นที่สุดของดีไซน์ที่พรีเมียม ด้วยตัวลำโพงและแท่น Subwoofer แบบใส มองเห็นแสงไฟจากภายในได้อย่างสวยงาม จัดเต็มในเรื่องของไดรเวอร์ที่จะทำให้ขับเสียงออกมาได้อย่างทรงพลัง ไม่ว่าจะจัดวางไว้บนโต๊ะหรือที่ตู้โชว์ก็แสดงความโดดเด่นออกมาได้อย่างสวยงาม โดยตัวลำโพงนี้ถูกออกแบบมาเพื่อเป็นสัญลักษณ์ครบรอบ 20 ปีของ Harman Kardon

สเปก

• ระบบเสียง 2.1
• ตอบสนองความถี่ 40 - 20,000 Hz
• กำลังขับสูงสุด 140W
• การเชื่อมต่อไร้สาย Bluetooth 4.2
• การเชื่อมต่อแบบมีสาย AUX 3.5 mm
• ตัว Subwoofer ใช้วัสดุทึบแสงสีขาว
• ตัวไดรเวอร์ขนาด 5.25 นิ้ว
• ไดรเวอร์ ตัว Satellite ขนาด 1.4 นิ้ว x4

ข้อดี

• ออกแบบได้อย่างโดดเด่นสมกับเป็นสัญลักษณ์ครบรอบ 20 ปีของแบรนด์

ข้อควรรู้

• ไม่มี Application รองรับ

KEF LS50 Wireless II

ราคาเริ่มต้น 99,000 บาท

ที่มา kef.com

KEF LS50 Wireless II ลำโพงระดับพรีเมียม ไม่ว่าจะเป็นตัวรูปทรง สีสัน รวมไปถึงเรื่องเสียง ที่จะมอบสุนทรียศาสตร์ของการฟังให้กับโต๊ะของคุณได้อย่างดื่มด่ำ ด้วยการขับเอาพลังเสียงออกมาได้ในระดับที่สูง และยังรองรับเสียง Hi-Resolution สามารถเชื่อมต่อไร้สายได้ทั้ง Bluetooth และ Wi-Fi สามารถตั้งค่าเสียงได้ตามที่ต้องการจากแอป และเพิ่มความสะดวกในการใช้งานด้วยรีโมทควบคุมอีกด้วย

สเปก

• ระบบเสียง 2.0
• ตอบสนองความถี่ 40 - 47000Hz
• กำลังขับสูงสุด 760W
• การเชื่อมต่อไร้สาย Bluetooth 5.0, Wi-Fi 2.4GHz, 5GHz
• การเชื่อมต่อแบบมีสาย HDMI, Coaxial
• Bluetooth รองรับ Hi-Resolution ได้สูงสุดที่ 24/96 KHz
• Wi-Fi รองรับ Hi-Resolution ได้ 24/384 kHz
• รองรับการเล่นเพลงแบบ Multiroom
• ไดรเวอร์ Woofer ขนาด 5.25 นิ้ว
• รองรับแอป KEF Connect App

ข้อดี

• มอบเสียงอันทรงพลังในการรับฟังให้กับผู้ใช้งาน

ข้อควรรู้

• ลำโพงมีราคาที่สูงมาก ๆ

Fiio SP3 BT

ราคาเริ่มต้น 12,340 บาท

ที่มา fiio.com

ใครทีชื่นชอบการฟังเพลงแบบ Hi-Res นั้น ตัวลำโพงอย่าง Fiio SP3 BT ก็พร้อมที่จะมอบเสียงระดับสูงให้คุณได้ฟังไม่ว่าจะฟังเพลงอะไรก็ตาม โดยตัวลำโพงนี้ก็มากับไดรเวอร์ขนาดใหญ่ พร้อมขับกำลังเสียงออกมาให้อย่างเต็มที่ จัดวางไว้มุมไหนของโต๊ะเสียงก็ส่งถึงได้อย่างมีประสิทธิภาพ

สเปก

• ระบบเสียง 2.0
• ตอบสนองความถี่ 65 - 20,000 Hz
• กำลังขับสูงสุด 80W
• การเชื่อมต่อไร้สาย Bluetooth 5.0
• การเชื่อมต่อแบบมีสาย Type-C/COAX/ OPTICAL
• รองรับ LDAC, Dual Hi-Res
• ไดรเวอร์ carbon fiber woofer ขนาด 3.5 นิ้ว
• ไดรเวอร์ silk tweeter ขนาด 1 นิ้ว
• วงจรแม่เหล็กภายในและภายนอกแบบอสมมาตร
• รองรับ EQ พาราเมตริก 10 แบนด์

ข้อดี

• ลำโพงไร้สายระดับ High Fidelity รองรับ Dual Hi-Res

ข้อควรรู้

• ปุ่มควบคุมทั้งหมดอยู่ด้านหลังของลำโพง

Microlab Bottlewine

ราคาเริ่มต้น 2,990 บาท

ที่มา microlab.com

Microlab Bottlewine คือลำโพงที่พร้อมจะเปลี่ยนโต๊ะธรรมดาให้กลายเป็นโต๊ะที่ดูหรูหราขึ้นทันทีด้วยรูปทรงของลำโพง satellite ทั้ง 2 ข้าง ที่ได้รับการดีไซน์ให้ออกมามีรูปทรงคล้ายกับขวดไวน์ ยกระดับการตกแต่งได้อย่างสวยงาม และไม่เพียงแค่ความสวยเท่านั้น แต่ในเรื่องของเสียงก็ยังมาพร้อมกับความกระหึ่มที่จะทำให้บรรยากาศในการทำงานนั้นได้มีดนตรีโปรดอยู่ตลอดเวลา

สเปก

• ระบบเสียง 2.1
• ตอบสนองความถี่ 50 - 20,000 Hz
• กำลังขับสูงสุด 36W
• การเชื่อมต่อไร้สาย Bluetooth 4.0
• การเชื่อมต่อแบบมีสาย AUX 3.5 mm
• ซับวูฟเฟอร์ขนาดใหญ่ 6.5 นิ้ว
• ไฟ LED ด้านบนลำโพง satellite ทั้งสองข้าง
• แอมพลิฟายเออร์ในตัว

ข้อดี

• รูปทรงดีไซน์ที่เป็นเอกลักษณ์โดดเด่นไม่ซ้ำใคร

ข้อควรรู้

• Bluetooth เป็นเวอร์ชันเก่า

Creative Pebble Pro

ราคาเริ่มต้น 2,990 บาท

ที่มา creative.com

Creative Pebble Pro มาพร้อมกับขนาดที่กะทัดรัด ส่งมอบเสียงเบสที่หนักแน่นและกระหึ่มด้วยเทคโนโลยี BassFlex อีกทั้งตัวลำโพงยังได้รับการออกแบบมาให้เงยหน้าขึ้น 45 องศา จึงสามารถส่งเสียงไปได้อย่างทั่วถึง มีขนาดกะทัดรัดจัดวางลงบนโต๊ะได้ทุกมุม และสี Alpine Green สุดสวยงาม พร้อมไฟ RGB ใต้ลำโพงที่จะเพิ่มความน่ามองให้กับบรรยาบนโต๊ะได้อีกด้วย

สเปก

• ระบบเสียง 2.0
• ตอบสนองความถี่ 80 - 20000 Hz
• กำลังขับสูงสุด 60W
• การเชื่อมต่อไร้สาย Bluetooth 5.3
• การเชื่อมต่อแบบมีสาย USB, AUX 3.5 mm.
• ไฟ RGB ด้านใต้ตัวลำโพง
• สี Alpine Green สุดสวยงาม
• ลำโพงทำมุมเอียงขึ้น 45 องศา
• ควบคุมผ่านปุ่มและ Control Knob แบบหมุนที่ตัวลำโพง
• เทคโนโลยี BassFlex

ข้อดี

• ขนาดเล็กกะทัดรัดใช้พื้นที่ไม่มากจัดโต๊ะได้อย่างลงตัว

ข้อควรรู้

• ไม่มี Subwoofer แยกมาให้ใช้งานร่วม

Edifier G2000

ราคาเริ่มต้น 2,790 บาท

ที่มา edifier.com

สำหรับคอเกมที่กำลังตามหาลำโพงคอมนั้นก็ต้อง Edifier G2000 ตัวนี้เลย ที่จะตอบโจทย์สำหรับการเล่นเกมได้อย่างเหนือชั้น ไม่ว่าจะเป็นระบบเสียงที่สร้างความกระหึ่ม เล่นเกมแบบใดก็ได้อารมณ์ที่จัดเต็ม อีกทั้งยังสามารถปรับตั้งค่าไฟแสดงผลที่ตัวลำโพงได้ถึง 12 รูปแบบ เพื่อตกแต่งบรรยากาศของโต๊ะให้ออกมาตามแบบฉบับของเหล่าเกมเมอร์มากที่สุด

สเปก

• ระบบเสียง 2.0
• ตอบสนองความถี่ 98 - 20000 Hz
• กำลังขับสูงสุด 16W
• การเชื่อมต่อไร้สาย Bluetooth 4.2
• การเชื่อมต่อแบบมีสาย USB, AUX 3.5mm
• ไดรเวอร์แบบ Full-Range ขนาดใหญ่ 2.75 นิ้ว
• ท่อด้านหลังสำหรับขับเสียงแบบ Mega Bass
• น้ำหนักเพียงแค่ 1.4 กิโลกรัม

ข้อดี

• สามารถปรับโหมดเสียงได้ 3 แบบคือ เกม, หนัง และ ดนตรี

ข้อควรรู้

• ไม่มี Subwoofer มาให้ใช้งานร่วมด้วย

Audioengine A2+

ราคาเริ่มต้น 9,990 บาท

ที่มา bnn.in.th

Audioengine A2+ คือความคลาสสิกที่ไม่เคยสูญหายไปตามการเวลา มาพร้อมกับเสียงที่หนักแน่นในทุกย่านของเสียง เพื่อความคมชัด จะเอาไปใช้ฟังเพลงหรือดูหนังก็ทำได้อย่างเต็มที่ มอบระดับของเสียงที่มีคุณภาพสูงทั้งแบบมีสายและไร้สาย อีกทั้งด้วยสีที่สามารถเลือกได้ไม่ว่าจะเป็น ขาว ดำและแดง ก็สามารถจัดวางและตกแต่งบนโต๊ะได้อย่างลงตัว เป็นตัวลำโพงคอมที่ทำหน้าที่ได้ราวกับลำโพงตัวใหญ่เลยทีเดียว

สเปก

• ระบบเสียง 2.0
• ตอบสนองความถี่ 65 - 22000 Hz
• กำลังขับสูงสุด 60W
• การเชื่อมต่อไร้สาย Bluetooth 5.0
• การเชื่อมต่อแบบมีสาย AUX 3.5 mm, RCA, USB-A
• รองรับการต่อ Subwoofer ภายนอก
• ขับเสียงออกมาได้อย่างทรงพลัง
• เลือกใช้งานได้ถึง 3 สี ขาว ดำและแดง
• ไดร์เวอร์ Aramid Fiber Woofers ขนาด 2.75 นิ้ว

ข้อดี

• รองรับ Codex ไร้สาย เพื่อเสียงคุณภาพสูง

ข้อควรรู้

• ไม่มี Subwoofer มาให้ใช้งานร่วมด้วย

และนี่ก็คือ 10 ลำโพงคอม ยี่ห้อไหนดี 2024 ที่สามารถจัดวางลงบนโต๊ะคอมได้อย่างลงตัว พร้อมกับมอบเสียงอันทรงพลัง รองรับการใช้งานทั้งแบบมีสายและไร้สาย เพื่อให้ตลอดเวลาที่ต้องนั่งอยู่ที่โต๊ะนั้น สามารถเปิดเพลงโปรด เพิ่มบรรยากาศในการทำงานให้ลื่นไหล รวมไปถึงใช้ดูหนังให้ได้เต็มอรรถรส ใครที่ยังอยากสัมผัสประสบการณ์ในการทำงานที่ลื่นไหลตลอดทั้งวันด้วยเสียงเพลง ต้องลองซื้อไปใช้งานดูสักตัวแล้ว