หนึ่งในไฮไลท์ของงาน Adobe MAX คือเซสชัน Sneaks ที่ Adobe นำเสนอโครงการที่มีสถานะทดลอง โดยมีโอกาสถูกนำมาใส่เป็นผลิตภัณฑ์ในอนาคต เหมือน Project Neo ที่สร้างภาพ 2D ขึ้นจากวัตถุ 3D ตั้งต้น ที่มีใน Illustrator ปีนี้ ซึ่ง Sneaks ของปีนี้มีทั้งหมด 9 โครงการ ดังนี้
Project Clean Machine
เครื่องมือลบแสงสว่าง หรือแสงแฟลชที่ปรากฏในภาพหรือวิดีโอ โดยสามารถตรวจจับแสงแฟลชและลบออกได้อัตโนมัติ เครื่องมือยังสามารถปรับใช้กับกรณีวิดีโอที่มีคนเดินตัดหน้ากล้องได้ด้วย
Adobe ประกาศข่าวใน งาน Copilot+ PC ของไมโครซอฟท์ ว่าจะออกแอพในกลุ่ม Creative Cloud ชุดใหญ่บน Copilot+ PC ที่ใช้หน่วยประมวลผลสถาปัตยกรรม Arm
แอพที่ใช้งานได้แล้ววันนี้คือ Photoshop, Lightroom, Express, Firefly, Acrobat ส่วนแอพที่จะตามมาในช่วงกลางปีนี้คือ Illustrator, Premier Pro, After Effects
กรณีของ Photoshop , Acrobat และ Lightroom มีเวอร์ชัน Windows on Arm มาสักพักแล้ว สิ่งที่เพิ่มเข้ามาคือการรองรับ NPU ให้ประมวลผล AI ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
เซสชั่น Sneaks ในงาน Adobe MAX ถือเป็นหนึ่งในไฮไลท์ของงาน เพราะ Adobe จะนำเสนอโครงการที่สถานะยังอยู่ในขั้นตอนการวิจัยเริ่มต้น เพื่อนำมาพัฒนาต่อเป็นผลิตภัณฑ์ในอนาคต ซึ่งทำให้เห็นไอเดียใหม่ ๆ ในงานสร้างสรรค์ที่จะเกิดขึ้น ซึ่ง Sneaks ในปีนี้มีทั้งหมด 11 โครงการ ครอบคลุมทั้งงานรูปภาพ วิดีโอ และวัตถุ 3D ดังนี้
Project Stardust
Project Stardust นั้น Adobe ได้พรีวิวมาก่อน งาน Max จะเริ่มขึ้น ผู้ใช้งานสามารถเลือกวัตถุในภาพ แก้ไข ลบ ย้ายตำแหน่ง เปลี่ยนลักษณะวัตถุได้ตามต้องการในไม่กี่คลิก
ภายในงาน Adobe Max เปิดตัวหลายฟีเจอร์ที่ขับเคลื่อนด้วย AI เช่น Adobe Firefly Image 2 Model เวอร์ชันใหม่ , Firefly Vector Model โมเดล AI รุ่นแรกสำหรับกราฟิกเวกเตอร์และ Firefly Design Model สำหรับการออกแบบเทมเพลต และฟีเจอร์ที่เพิ่มขึ้นมาใน Adobe Lightroom, Adobe Premiere Pro, Adobe After Effects และ Adobe Stock มีดังต่อไปนี้
Adobe เปิดตัวฟีเจอร์การลบวัตถุแบบ content-aware ในวิดีโอหลังจากที่มีฟีเจอร์นี้ใน Photoshop มานานแล้ว (ปีที่แล้ว เพิ่งอัพเดตย่อยไป ) โดยสามารถใช้งานได้ในโปรแกรม After Effects
สำหรับฟีเจอร์ในตระกูลวิดีโออื่น เช่น Premiere Pro จะรองรับเส้นนำ (guide) แล้ว ทำให้สามารถวางตัวอักษรตรงแนวเดิมได้ตลอด และเส้นนำเหล่านี้ยังแชร์กับ Preimer Pro ได้ด้วย
ในแง่ประสิทธิภาพ มีเอฟเฟคจำนวนมากที่ใช้ชิปกราฟิกเร่งความเร็วแล้ว ทำให้การทำงานบางอย่าง เช่น mask tracking ประสิทธิภาพดีขึ้นถึง 38 เท่าตัว
อัพเดตเริ่มปล่อยตั้งแต่วันที่ 2 เมษายนที่ผ่านมา ตอนนี้หลายคนน่าจะเริ่มได้แล้ว
มาถึงวันนี้เราคงคุ้นเคยกับปุ่มไลค์แบบใหม่ของ Facebook (หรือชื่ออย่างเป็นทางการคือ Reaction) ซึ่งมีแอนิเมชันน่ารักแสดงเวลาเอาเมาส์ชี้และกดคลิก ล่าสุด Facebook เปิดซอร์สโค้ดของไลบรารีที่ใช้สร้างแอนิเมชันชุดนี้มาแล้ว ในชื่อว่า Keyframes
Keyframes เป็นไลบรารีที่ใช้แปลงไฟล์แอนิเมชันที่สร้างด้วย Adobe After Effects เพื่อเล่นบนเว็บและแอพ มันถูกสร้างมาเพื่อเรนเดอร์ปุ่ม Reaction ที่ปุ่มจะโตขึ้นเวลาเอาเมาส์ชี้ ภาพที่แสดงจึงต้องย่อ-ขยายได้แบบภาพไม่แตก, แอนิเมชันต้องเล่นที่เฟรมเรต 60 fps และดูลืนไหล, แต่ต้องมีไฟล์ขนาดเล็ก โหลดได้รวดเร็ว
Adobe เปิดตัวฟีเจอร์ Team Projects เวอร์ชันเบต้า ซึ่งเป็นบริการบน Creative Cloud ที่รองรับการแก้ไขไฟล์บน Premiere Pro, After Effects และ Prelude ได้หลายคนในเวลาเดียวกัน โดยเปิดให้ทดลองใช้แล้วตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป
Team Projects ถูกออกแบบมาโดยป้องกันการทำงานทับซ้อนกัน ด้วยการโคลนไฟล์หรือโปรเจ็คขึ้นมาให้ผู้ใช้คนหนึ่งๆ แก้ไขบนเครื่องของตัวเอง (แบบ sandbox) ก่อนจะตรวจหาว่างานที่แก้แล้วนั้นไม่มีการทับซ้อนหรือ conflict กับคนอื่นที่กำลังแก้ไขงานเดียวกัน และอัพโหลดไฟล์หรือโปรเจ็คที่ถูกแก้ไข ให้เป็นไฟล์เวอร์ชันล่าสุด ซึ่งการเปลี่ยนแปลงนี้จะถูกบันทึกไว้เป็น history และสามารถย้อนกลับไปดูการแก้ไขได้ด้วย ขณะที่ source ของไฟล์ต่างๆ ที่ถูกใช้บน Team Projects ก็สามารถแชร์ให้กับคนในทีมได้