รายได้วงการเพลงนั้นมาจากสองส่วนสำคัญคือ ดาวน์โหลดและสตรีมมิ่ง ซึ่งยอดสตรีมก็เป็นบวกมากขึ้นจนสามารถ ทำรายได้แซงการดาวน์โหลดในปี 2015 ล่าสุด สมาคมอุตสาหกรรมสื่อบันทึกแห่งอเมริกาหรือ RIAA รายงานตัวเลขรายได้ของการจำหน่ายเพลงของสหรัฐฯ ว่า 75% ของรายได้ มาจากสตรีมมิ่ง
โดยรายได้ครึ่งปีแรกเพิ่มขึ้น 10% เป็น 4.6 พันล้านเหรียญสหรัฐ และ 75% ของรายได้มาจากสตรีมมิ่ง มีเพียง 12% ที่มาจากดาวน์โหลดผ่านดิจิทัล ซึ่งยอดได้ตกลงเรื่อยๆ แต่ก็ไม่เท่าการขายแผ่นที่มีเพียง 10%
ช่วงครึ่งปีแรกที่ผ่านมา มีการเปิดตัวอัลบั้มใหม่ๆ กว่า 70,000 อัลบั้ม ช่วยเสริมให้ ecosystem ของวงการเพลงมีความหลากหลาย และจากเทรนด์สตรีมมิ่งมาแรงนี้จึงไม่แปลกใจเลยถ้า Amazon จะพยายามเข้ามากินส่วนแบ่งจากรายใหญ่อย่าง Apple และ Spotify
ภาพจาก Shutterstock โดย Antonio Guillem
ที่มา - Venture Beat
Comments
แผ่น CD กำลังจะตายไปจากอเมริกาแล้วหรอครับ
แปลกที่ตลาดเพลงเบอร์สองของโลกอย่างญี่ปุ่น ยังนิยมแผ่น CD กันมากมาย เป็นรายได้หลักของวงการเพลงญี่ปุ่น
ไม่ตายหรอกครับ แค่ไม่ได้เป็นรายได้หลักมานานแล้ว ยังไงมันก็ยังมีขาย เหมือนที่แผ่นไวนิลก็ยังไม่ขาย
รายได้หลักของศิลปินมาจากงานโชว์ครับ
แผ่นไวนิลแค่โชคดีที่เก็บการ์ดชุบชีวิตได้เท่านั้นเองครับ ?
แผ่นไวนิลจริงๆมันมีขายมาตลอดเลยนะครับ พวกศิลปินเบอร์ใหญ่ๆถึงจะออกเพลงมาเป็นดิจิตอลแต่ก็มักจะทำไวนิลขายด้วยมาแต่ไหนแต่ไร ที่เห็นว่าพึ่งบูมอาจจะเพราะกระแสกลุ่มคนเล็กๆในบ้านเราที่กลับมานิยมกันน่ะครับ แถมพวกนี้ก็ไม่ได้ซื้อแผ่นอัลบั้มใหม่ๆ เน้นเก็บอัลบั้มเก่าๆหายากๆมากกว่า
แต่ก็นั่นแหละ ถึงทำมาขาย แต่ก็ไม่ได้ขายเอาเป็นรายได้หลักมานานแล้ว
ที่ญี่ปุ่นเองถ้าแผ่นซีดีไม่แถมบัตรโน้นนี้ก็คงยอดตกเหมือนกันนะ ขนาดศิลปินญี่ปุ่นที่ผมซื้อไม่ใช่แนวไอดอลยังแถมบัตรอะไรไม่รู้ให้ส่งไปรษณีย์ไปชิงโชค
CDญี่ปุ่นมันเป็นของสะสมแล้ว แต่ละคนจะออกอัลบั้มทียังกะเกม มีชุดธรรมดา ชุดพิเศษ ชุดลิมิเต็ด