เมื่อวานนี้ (18 มี.ค.) Doom Eternal ออก DLC ตัวที่สองคือ The Ancient Gods — Part Two ซึ่งเป็นบทสรุปของเนื้อเรื่อง Doom นับตั้งแต่ ภาครีบูตปี 2016 (รวมกัน 2 ภาคหลัก 2 DLC)
ทีมผู้สร้าง Doom ของ id Software ให้สัมภาษณ์กับเว็บไซต์ Polygon ถึงเบื้องหลังการสร้างเกมภาคหลังๆ นับตั้งแต่ภาครีบูตเป็นต้นมา มีประเด็นที่น่าสนใจดังนี้
- ทีมงานหารือกันนานพอสมควรว่า อะไรคือ Doom อะไรไม่ใช่ Doom กันแน่ เพราะการเป็นซีรีส์เกมชื่อดัง ต้องแบกรับความคาดหวังจากแฟนๆ อย่างมาก
- Doom 3 เลือกใช้แนวทางเกมสยองขวัญ (horror) แต่ Doom เวอร์ชันปี 2016 เลือกกลับมาที่รากเหง้าของเกมภาคแรกๆ นั่นคือเน้นแอคชั่นเยอะๆ แทน
- อย่างไรก็ตาม เกมภาคปี 2016 ก็ยังมีเกมเพลย์บางอย่างที่ชะลอจังหวะของเกม เช่น การย่อตัว (crouch) ซึ่งทีมงานมาเรียนรู้ในภายหลังว่าขัดกับปรัชญาของ Doom ที่เน้นลุยไปข้างหน้า เน้นโจมตีศัตรู จึงเอาออกไปในภาค Eternal
- การเรียนรู้ข้อผิดพลาดจากเกมภาค 2016 ทำให้ภาคต่อมาคือ Eternal ประสบความสำเร็จสูงกว่ามาก มีอัตราเล่นเกมจบ (completion percentage) สูงกว่า
ส่วนอนาคตของ Doom จะไปทางไหนต่อหลังจบเนื้อเรื่องชุดนี้แล้ว ทีมงานเปรียบเทียบว่าจะเหมือนกับภาพยนตร์ฮีโร่อย่าง Batman ที่เป็นตัวละครอมตะ และผู้กำกับในแต่ละยุค (Tim Burton, Christopher Nolan, Zack Snyder) ก็ตีความตัวละครแตกต่างกันไปในมุมมองของตัวเอง
ที่มา - Polygon
Comments
ภาคต่อขอวาร์ปมิติมายุคดาร์คโซลได้ไหม