รับมือข้อมูลเท็จวัคซีนว่อนเน็ต ทำเนียบขาวจ้างอินฟลูเอนเซอร์วัยรุ่น ช่วยกระตุ้นแฟนๆ ให้มาฉีดวัคซีนกัน
สหรัฐฯในขณะนี้กำลังรับมือกับโควิด-19 สายพันธุ์เดลตา ข้อมูลจาก CDC ระบุว่า ไม่ถึงครึ่งของชาวอเมริกันอายุ 18-39 ปีที่ได้รับการฉีดวัคซีนครบโดส และคนอายุ 12-17 ปี ราว 58% ยังไม่ได้ฉีดวัคซีน ซึ่งเทียบกับคนอายุมากกว่า 50 ปี ได้ฉีดแล้วถึง 2 ใน 3
ทำเนียบขาวจึงแก้เกมด้วยการจ้างอินฟลูเอนเซอร์วัยรุ่นตาม TikTok, Twitch, YouTube ทำคอนเทนต์กระตุ้นให้แฟนๆ มาฉีดวัคซีนกันเยอะๆ เป้าหมายหลักคือ สื่อสารไปถึงคนอายุน้อย และตอบโต้ข้อมูลเท็จเกี่ยวกับวัคซีนที่กำลังท่วมท้นอินเทอร์เน็ตในขณะนี้
ที่ผ่านมาทำเนียบขาวพยายามสื่อสารช่องทางออนไลน์อยู่เสมอ ดึงตัว Eugenio Derbez นักแสดงชาวเม็กซิกันที่มีผู้ติดตาม Instagram กว่า 16.6 ล้านคนที่เคยสงสัยเรื่องวัคซีน มาคุยกับ Anthony Fauci แพทย์ใหญ่ของอเมริกาผ่าน Instagram Live เป็นต้น แต่คนรุ่นใหม่มีแนวโน้มจะรับฟังเนื้อหาจากครีเอเตอร์มากกว่าคนดังในกระแสหลัก (ผลวิจัยจากบริษัทการตลาด MuseFind)
โจ ไบเดน และ Olivia Rodrigo นักแสดง นักร้อง
ภาพจาก Facebook ทำเนียบขาว
ทำเนียบขาวจึงจ้างอินฟลูเอนเอเซอร์ตามแพลตฟอร์มต่างๆ หลายราย ที่มีฐานแฟนคลับเยอะ ไม่ว่าจะเป็น Ellie Zeiler อายุ 17 ปี มีผู้ติดตามบน TikTok 10 ล้านราย, Olivia Rodrigo อายุ 18 ปี, Christina Najjar อายุ 30 ปีที่รู้จักใน TikTok ในชื่อ Tinx รวมถึงไมโครอินฟลูเอนเซอร์หลายรายที่มีผู้ติดตามหลักพันไปจนถึงหมื่น ช่วยเป็นกระบอกเสียงให้คนมาฉีดวัคซีน
Rob Flaherty ผู้อำนวยการฝ่ายกลยุทธ์ดิจิทัลของทำเนียบขาวระบุว่า ทำเนียบขาวเริ่มใช้วิธีดึงครีเอเตอร์มาช่วยได้ระยะหนึ่งแล้ว และได้ร่วมมือกับ Village Marketing และ Made to Save แคมเปญระดับชาติที่มุ่งส่งเสริมการเข้าถึงวัคซีน จัดบรรยายผ่าน Zoom หลายครั้ง เพื่อให้ครีเอเตอร์สามารถถามคำถามเกี่ยวกับวัคซีนและวิธีการทำงานของมันได้
ถือเป็นอีกวิธีที่สหรัฐฯพยายามกระตุ้นคนรุ่นใหม่ให้ไม่ลังเลใจที่จะไปฉีดวัคซีน เพราะมีจุดฉีดวัคซีนกระจายทั่วไปอยู่แล้ว ทั้งตามคลีนิค และร้านสะดวกซื้อ
ที่มา - The New York Times
Comments
เพราะมีจุดฉีดวัคซีนกระจายทั่ว ไปอยู่แล้ว
In parallell universe
"รับมือข้อมูลจริง รัฐบาลออกกฎหมาย ลั่นเตรียมจัดการใครก็ตามที่ทำให้คนกลัว แม้จะเป็นความจริง แต่คณะทำงานประกาศ ซิโนแวค 3 เข็มคุณภาพน้องๆ mRNA"
ถ้าใครได้ดูงานวิจัยของซิโนแวคจะเข้าใจมุกว่า "น้องใครเหรอ ญาติห่างๆ ยังไม่ควรนับ"
ผมปวดหัวกับเรื่องนี้มากๆ ในฐานะที่เคยทำงานวิจัยมาบ้าง ถึงจะต่างสาย แต่การเอางานวิจัยที่มี bias ช่วง CI กว้างขนาดนั้น แถมไม่ผ่านการตีพิมพ์หรือแม้แต่ publish prepreinted ด้วยซ้ำ peer review ก็ไม่มี มากำหนดเป็นนโยบายชาติ มันรับไม่ได้จริงๆ
ช่วงนี้แกทำตัวเหมือนว่า คำพูดแกคือผลที่ได้จากการวิจัยโดยสรุปไปแล้ว ไม่ต้องทำ paper มาให้ใครอ่านอีก
จริงๆเอาไปเทียบกับไข้หวัดใหญ่ก็ได้ครับแต่วัคซีนโควิดมันจำเพาะกับ strain ไม่กี่ strain เวลามันเปลี่ยน strain เพราะกลายพันธุ์ วัคซีนเลยประสิทธิภาพลดลงคือไม่ได้บอกว่าวัคซีนไม่ดีนะแต่เชื้อมันกลายพันธุ์จนวัคซีนเดิมแบบเชื้อตายใช้ไม่ได้ผล
แต่งานวิจัยชิ้นดังกล่าวที่ผมพูดถึง ถ้าผมตีความไม่ผิด เป็นการวัดระดับ antibody ในกรณีที่เว้นระยะระหว่างเข็ม 2 กับเข็ม 3 ครับ (CoronaVac หรือ Sinovac นั่นแหละ) ไม่ใช่การวัดประสิทธิผลของการป้องกันสายพันธ์ุต่างๆ ด้วยครับ ทีมวิจัยคือทีมของบ. Sinovac เอง
ซึ่งจากงานวิจัยบอกว่าระดับ antibody จากการฉีดเข็มที่สาม จะขึ้นสูงสุดเมื่อเว้นระยะเข็มที่ 2 กับเข็มที่ 3 เป็นเวลา 6 เดือน
ผมไม่อยากอธิบายมากไปกว่านี้ ไม่ใช่อะไรนะ ตัวเองไม่ได้จบสายวิทย์ กลัวจะปล่อยไก่ครับ
หาอ่านได้ที่นี่
ระวังกฏหมายฉบับต่อไปครอบคลุมถึงการให้ข่าวสร้างความหวาดกลัวในลักษณะโลกคู่ขนาน
ก่อนหน้านี้มีข่าวนักท่องเที่ยวมะกันปลอมแปลง vaccine passport แล้วโดนปรับไป $20,000 เห็นคอมเมนท์บอก "วัคซีนฟรีแถมโดนัทกับ $20,000 ก็ยังเลือกผิดได้"
อยากมีโมเมนท์นั้นบ้าง
จุดฉีดมีทั่วไป วัคซีนล้นจุดฉีด มีหลายยี่ห้อให้เลือก ต้องทำไงเราถึงจะเป็นแบบนี้ได้นะ
เมื่อเราเป็นผู้ผลิตวัคซีนรายใหญ่ระดับโลก และเรามีพาวเวอร์ในการ "กั๊ก" วัคซีนไว้ใช้เองได้โดยไม่ต้องกลัวชาติอื่นจะบอยคอตครับ
+1 มหาอำนาจนั้นเอง
อย่างน้อยก็ยังบอกตรงๆนะว่ารัฐจ้าง
ฮา io แบบเปิดเผยสินะ 555+
ตัด Internet แล้วก็ให้โทษคนในรัฐ อ้อ US ไม่ได้ทำเหรอ
ประเทศนึงคนอยากฉีดแทบตาย ทั้งเด็ก ทั้งผู้ใหญ่ ไม่มีให้ฉีด มีแต่วัคซีน ที่ไม่ได้ตีพิมพ์งานวิจัย มาให้ฉีดประเทศนึงวัคซีน มีคุณภาพ ก็ไม่ยอมมาฉีดกัน -_- โอยหนอ ชีวี
ที่บอก "มีแต่วัคซีน ที่ไม่ได้ตีพิมพ์งานวิจัย มาให้ฉีด" แล้ว AZ ที่ฉีดๆ กันคือไม่มีงานวิจัยเหรอครับ
น่าจะ Sinovac ช่วงแรกที่ไม่มีอะไรมารองรับเลยครับ
ส่วน AZ ของโรงงานไทย เงียบอยู่
เอ่อ Sinovac ก็ได้ตีพิมพ์ใน NEJM ที่เป็นวารสารการแพทย์อันดับ1ของโลกแล้วนะครับ
ในขณะที่รัฐบาลไทยเอาเงินไปจ้าง IO มาพิมพ์อะไรเลอะเทอะให้ประชาชนปวดตับเล่นไปวันๆ
อ้อ หรืออาจจะไม่ได้จ้างก็ได้ เพราะใช้ทหารช่วยกันพิมพ์
ถ้าสมมติว่าให้ทหารพิมพ์จริงๆ ก็ถือว่าจ้างอยู่ดีครับ เพราะทหารรับเงินเดือนจากภาษีประชาชน