Jason Schreier นักข่าวสายเกมของ Bloomberg เขียนวิเคราะห์เบื้องหลัง ความสำเร็จของเกม Baldur’s Gate 3 ที่ทำคะแนนรีวิวได้อย่างยอดเยี่ยม ว่ามาจากทั้งปัจจัยการมีฐานจาก Dungeons & Dragons และทีมพัฒนา Larian Studios จากเบลเยียม มีประสบการณ์ทำเกม RPG แนวเทิร์นเบสมาแล้วอย่างโชกโชน (จากซีรีส์ Divinity ที่เริ่มทำมาตั้งแต่ปี 2002)
แต่อีกปัจจัยสำคัญที่คนส่วนใหญ่มองไม่ค่อยเห็นคือโครงสร้างของ Larian Studios ที่แตกต่างจากบริษัทเกมอื่นๆ มาก เพราะมีขนาดใหญ่พอสมควร พนักงาน 450 คนใน 6 ประเทศ มีศักยภาพทำเกมระดับ AAA ได้ แต่เป็นบริษัทเอกชนที่อยู่นอกตลาดหลักทรัพย์ ทำให้ไม่ถูกบีบเรื่องโมเดลรายได้จากผู้ถือหุ้น เหมือนกับบริษัทเกมยักษ์ใหญ่รายอื่นๆ
นอกจากนี้ Swen Vincke ผู้กำกับเกม Baldur’s Gate 3 ยังเป็นซีอีโอของ Larian และเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ที่สุดของบริษัท (ร่วมกับภรรยา) มีสถานะพิเศษที่คนอื่นไม่มี เพราะเขาสามารถตัดสินใจเรื่องแนวทางของเกมได้ โดยไม่ต้องคำนึงเรื่องสถานะการเงินของบริษัทเลย การควบทั้ง 3 สถานะพร้อมกัน (ผู้กำกับ ซีอีโอ เจ้าของ) ทำให้เขาสามารถปฏิเสธไม่ทำเกมแบบ microtransaction ที่ทำเงินดีกว่าได้ แตกต่างจากผู้กำกับเกมในเครือ EA หรือ Take Two ที่อาจต้องยอมฝ่ายบริหารที่รับความกดดันจากผู้ถือหุ้นมาอีกที
ที่มาของเงินลงทุนพัฒนาเกม Baldur’s Gate 3 ยังมาจากรายได้เกมเก่าๆ ของ Larian และการขายเกมล่วงหน้าแบบ Early Access มาตั้งแต่ปี 2020 เมื่อมีรายได้หล่อเลี้ยงบริษัทในระดับหนึ่ง ทำให้ Vincke มีอิสระอย่างเต็มที่ในการสร้างเกมให้ดีที่สุดตามที่เขาต้องการ สถานะพิเศษเหล่านี้ไม่สามารถทำได้เลยกับบริษัทเกมที่อยู่ในตลาดหลักทรัพย์
Thank you everyone for all the love and support. It brought a tear to many eyes and it's incredibly motivating for all of us. We can't thank you enough.That said - Hotfix 1 is cooking in the kitchen and we hope to get it out today.
— Swen Vincke @where? (@LarAtLarian) August 4, 2023
You dream of this type of review but you never expect it. I can only repeat - team!!! https://t.co/9vhuDvfu9J
— Swen Vincke @where? (@LarAtLarian) August 19, 2023
อย่างไรก็ตาม Schreier ชี้ว่าโมเดลของ Larian เองก็มีจุดอ่อน เพราะหากเกม Baldur’s Gate 3 ไม่ประสบความสำเร็จอย่างที่คาด อาจทำให้ Larian มีปัญหาการเงินขึ้นมาทันที
ความบีบคั้นของบริษัทเกมที่ต้องหารายได้เข้าบริษัทอย่างสม่ำเสมอ ตอบโจทย์ผู้ถือหุ้น จึงไม่น่าแปลกใจที่เราเห็นบริษัทเกมหันมาทำเกมแนว live service ขาย microtransaction หรือ battle pass กันหมด เพราะรายได้สูง ความเสี่ยงต่ำ แม้เกมเมอร์จำนวนมากไม่ชอบก็ตาม
ที่มา - Bloomberg
Comments
เข้าใจว่า บางค่ายต้องเอาไจผู้ถือหุ้นเพราะถึงเวลาประชุมประจำปี
มันจะมืโหวตจากผู้ถือหุ้นว่าจะให้นั่งเก้าอี้ต่อไหม (ถ้าผู้ถือหุ้นส่วนใหญ่ไม่พอใจจะได้ยินข่าว ceo ลาออก)
อย่างประชุมประจำปีของนินเทนโดจะมีบอกด้วยเลยว่าได้โหวตผ่านให้ดำรงตำแหน่งต่อกี่ %
ไม่แปลกใจเลยทำไม AAA Dev ค่ายอื่นออกมาดิ้น
น่าจะทุกวงการมั้งคับ เรื่องอำนาจตัดสินใจจากผู้ถือหุ้นเนี้ย
อย่าง goldman sachs หันมาทำธุรกิจสินเชื่อส่วนบุคคล ลงทุนไปตั้งเยอะ ดีลกะพาร์ทเนอร์ไว้เพียบ apple ก็ด้วย
แต่ผู้ถือหุ้นไม่ชอบ ไม่พอใจ สุดท้ายสั่งชักปลั๊ก ยกเลิกธุรกิจส่วนนี้ หันไปโฟกัสแค่ลูกค้าสถาบันเหมือนเดิม...
คนเชียร์บอก รีบถอนตัวเร็วเกินไปมาก
ส่วนคนค้านบอกถอนตัวช้าไป ลงทุนไปตั้งเยอะ(แนวๆ ไม่สนใจขยายธุรกิจ เก็บกินจากรายได้เดิมๆ ไม่ต้องลงทุนอะไรเพิ่มก็พอแล้ว)
Larian Studio นี่ต้องบอกว่าได้คนคุมที่ใจถึงมากๆ ตั้งกะตอนทำ Divinity แล้ว ที่ บ.กำลังจะเจ๊ง แล้วเอา project ลง KS ถึงกับบอกพนักงานให้เตรียมหางานใหม่ได้เลย แต่ลุยทำจนเอาเกมออกวางขายได้โดยไม่ลดคุณภาพ
เจ้าของเค้าคงรักเกมมากๆ เลยทำตามที่อยากทำ ไม่ได้เน้นตัวเลขรายได้นำ
..: เรื่อยไป
เข้าของบ.เกมที่เป็นเกมเมอร์มักจะทำผลงานออกมาได้ดีเสมอ แต่บางคนก็เป็นเกมเมอร์แหละ ต่อพอดีว่าโดนครอบด้วยเล่าพ่อค้านายทุนที่อาจจะไม่สนใจการเล่นเกมเลยด้วยซ้ำ
The Dream hacker..
อันนี้อยู่ที่ตัว Swen ล้วนๆเลยครับ ถ้าใครตามจะรู้ว่าเกมมันโครตเสี่ยงที่จะเจ๊ง เพราะเกมมันเฉพาะกลุ่มมากๆ แต่เขาก็มั่นใจและเทหมดน่าตักเลย ใช้เวลาทำเกมนานอยู่พอสมควรกับเกมที่ไม่รุ้ว่าจะคุ้มทุนด้วยซ้ำไหม ไม่มีบริษัทไหนกล้าบ้าทำแบบนี้ได้