หลังมีข่าวลือหนาหูว่าแอปเปิลจะตัดแจ็คหูฟัง 3.5 มม. ออกจาก iPhone รุ่นใหม่ เนื่องจากต้องการทำให้เครื่องบางลงอีก ล่าสุด Steve Wozniak ผู้ร่วมก่อตั้งแอปเปิลได้ให้สัมภาษณ์แก่หนังสือพิมพ์ Australian Financial Review ว่าเขาไม่ชอบไอเดียนี้นัก
เขาบอกว่า "ถ้า iPhone รุ่นใหม่ไม่มีแจ็คหูฟัง 3.5 มม. จะทำให้คนจำนวนมากโกรธ" และเสริมว่า "ผมไม่อยากใช้บลูทูธ ผมไม่ชอบของไร้สาย รถยนต์ของผมมีทั้งแจ็คและบลูทูธ ซึ่งการใช้บลูทูธทำให้เสียงแบนไม่มีมิติ"
อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าแอปเปิลจะใส่ใจการเตือนของ Wozniak ครั้งนี้หรือไม่ มันก็ดูสายเกินไปที่จะเปลี่ยนอะไรแล้ว (ถ้าตัดแจ็คออกจริงๆ) เพราะ iPhone รุ่นใหม่น่าจะถูกเปิดตัวภายในเดือนกันยายนนี้
ที่มา - CNN Money
Comments
ผมเชื่อว่า apple มีวิสัยทัศน์ไกล คงมีเหตุผล และคงคิดอะไรไว้แล้วและ ถ้าคิดจะกล้าตัด รู 3.5 ออกจริงๆ
จะว่าไปมันก็ใช้กันมาหลายสิบปีแล้วน่ะ
แต่.........ถ้าพูดถึงตอนนี้ ยังไงก็อยากให้มี เพราะหูฟังส่วนใหญ่ เป็น 3.5 ถึงจะมีหูฟังบลูทูธออกมาบ้างแต่เสียงคงจะสู้ผ่านสายไม่ได้
ปล. แล้วงี้ พวกรับโมสาย จะหากินยังไงละ 55+
พูดมาแบบนี้ แสดงว่าตัดออกชัวร์ 555+
ถ้าตัดออกแล้วเสียงดีขึ้นก็ทำไปเหอะ สายหูฟังจะได้พัฒนาก้าวไปกว่านี้
Digital ดีกว่า Analog อยู่แล้วแต่ใครจะกล้าเริ่มล่ะ แอปฯ...ไงเริ่มแล้ว วันนี้
ถ้าให้พูดแบบหาเรื่อง อาจจะมีคนเม้นว่า ... คุณฟังเสียงดิจิตัลได้ด้วยเหรอครับ :)
เอาจริง ๆ ต่อให้ตัดช่องนั้นออก คุณก็ฟังสัญญาณ analog อยู่ดี ใช้ DAC ในเครื่องเหมือนเดิม แค่ต่อช่อง lightning แทนที่จะเป็น TRS ใช้ (ยกเว้นแต่เสียบหูฟังที่มี DAC ในตัว หรือต่อ DAC เข้าไปพ่วงอีกตัว เป็นต้น)
ทั้งนี้โทรศัพท์มือถือยังไงก็ตัด DAC ออกไปไม่ได้ครับ ไม่งั้นลำโพงในเครื่องจะทำยังไง?
มีคนทำปลอมออกมาแล้วก็มีคนแกะ (ของปลอม) ออกมาดูแล้ว ... เป็น analog นะครับ แค่ต่อด้วย port ใหม่เท่านั้น
samsung ใหญ่แค่ใหน ?https://youtu.be/6Afpey7Eldo
เสียงที่เราได้ยินจากลำโพง/หูฟัง ต่อให้แหล่งต้นฉบับไฟล์จะเป็นอะไรแต่พอออกลำโพงก็เป็น Analog หมดนะครับ ยังไงก็ต้องแปลงเป็น Analog ก่อนเข้าวอยซ์คอย ครับ
ถ้าตัดออก ก็ฟังหูฟังไป ชาร์จไฟไปด้วยไม่ได้แล้วสิ ต้องเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง
จะได้ขายสายแยกด้วยไงล่ะ :)
แบบนี้http://g02.a.alicdn.com/kf/HTB1j2xfJXXXXXcbXVXXq6xXFXXX1/Original-mobile-phone-HDMI-Adapter-HDTV-AV-Cable-for-iPhone-5-5S-5C-6-plus-iPad.jpg
อีกทางออกหนึ่งคือใช้การชาร์จไร้สายครับ
พวกคุณจะไปคิดอะไรมาก ใช้ๆ ไปเหอะ คิดซะว่าเช่าไอโฟนแอปเปิ้ลใช้ สิ้นเดือน จ่ายค่าผ่อนรุ่นเก่า แล้ว รอซื้อรุ่นถัดไป
ปล เปลี่ยนชื่อบริษัทเป็น Adapter แทน Apple เหอะ ขายสายแปลงจนรวย
ทุกวันนี้คนส่วนใหญ่ในประเทศอยู่ในระบบเช่าซื้อมือถืออยู่แล้วครับ
ผมหมายถึงเช่าใช้จริงๆ ไม่ใช่เช่าซื้อ
ผมว่ามันก็คงไม่ขนาดนั้นหรอกมั้งครับ เราก็ยังเป็นเจ้าของเครื่องอยู่ไม่ได้ถึงขนาดต้องเอาอุปกรณ์คืน Apple
จริงๆ คุณ Ford AntiTrust น่าจะสื่อถึงโควท อ.ธเนศ ...
ลึกไปครับ คอการเมืองบางคนยังไม่รู้เลย
โดยส่วนตัวผมไม่มีปัญหานะ ถ้าจะตัดออกจริงๆ เดี๋ยวมันคงมีสายแปลงออกมาขายเองแหละแต่มันน่าจะเป็นปัญหาของค่ายหูฟังมากกว่า ว่าต่อไปจะทำสายอะไร
Intel บอกว่าจะดัน USB-C
แต่ Apple จะใช้ lightning ?
ในขณะที่ device อื่นๆของ Apple ก็ยังใช้พอร์ต 3.5
แล้วค่ายหูฟังควรทำสายแบบไหน โดยเฉพาะ Beats ของ Apple จะเอายังไง
device อื่นๆ ของ Apple อาจจะโละย้ายมา USB-C เหมือนกันหมดก็ได้นะครับ
ถ้าเป็นไปได้ ผมอยากให้ใช้ USB-C ให้หมดนะ ไม่วุ่นวายดี
นึกภาพว่าเราเดินเล่นอยู่ พร้อมกับฟังเพลงจาก iPhone ด้วยสาย lightningแล้วกะนั่งเล่นคอมที่ร้านกาแฟซักพัก ตอนจะเปิดเพลงฟังจากในคอม จะทำไงดี ในเมื่อ Macbook หรือยี่ห้ออื่นๆก็ไม่น่าใช้สาย lightning คือเราต้องพกสายแปลงอีกงั้นเหรอ เพื่อแค่จะฟังเพลงเนี่ย ?
iPhone อาจจะใช้ USB Type C ด้วยก็ได้นะครับ จะได้เสียบร่วมกับ MacBook ได้นั่นไงครับ ;)
จริงๆ ผมอยากให้ตัดนะ ทั้ง iphone android แต่อยากให้ใช้ port เดียวกัน จะได้ใช้ร่วมกันได้หมด ตอนนี้คงต้องเป็น usb type C แล้วใส่มาซัก 2 ช่อง ไม่เอาช่องเดียวนะ
หูฟัง lightning อยากรู้เหมือนกัน จะว่ากว่าเดิมแค่ไหน
ถึงตอนนั้นจริง ใช้งานจริง มีอะไรมารองรับบ้าง คงหาคำตอบได้ง่ายกว่า
มีซักกี่คนอยากได้บางๆมีแต่คนอยากให้แบตเยอะๆ
+1,000,000
เห็นด้วยมากๆ
ผมว่า apple เป็นจ้าวตลาดที่มีเสน์ในการชี้นำ เพราะผู้ใช้เองมักไม่รู้หรอกว่าตัวเองต้องการอะไร
เคยอ่านเพจนึงยกคำเฮนรี่ ฟอร์ด - คงไม่มีใครนึกอยากได้รถหรอก ผู้ใช้แค่อยากได้ม้าที่เร็วขึ้น
แต่เพจนั้นก็พูดถึงว่าผู้ใช้รู้เสมอว่าไม่ต้องการอะไร - และผมว่าใช่ ผู้ใช้อยากได้แบตที่มากกว่านี้จริงๆ
ผมเห็นคนที่บ่นแนวๆนี้แล้วสงสัยว่าเอาความมั่นใจมาจากไหน ถ้าให้ตอบจำนวนอาจจะน้อยกว่า เท่าๆกัน หรือ มากกว่าก็ได้นะครับ ว่าแต่จะรู้ได้ไงว่าที่ตัวเองคิดมันถูกจริง? อาจจะบอกว่าก็เห็นมีแต่คนบ่นอยากได้แบตหนา ว่าแต่คนที่ไม่ได้บ่นนี่ไม่ได้เอามาคิดด้วยมันก็ไม่ใช่นะครับ แล้วที่ไม่บ่นเขาคิดอะไรเราจะรู้ได้อย่างไร?? แต่ผมเชื่อว่าระดับแอปเปิ้ลจะทำอะไร น่าจะมีการวิจัยมารองรับไม่ใช่ทำเอาตามอารมณ์ไปเรื่อยเปื่อย สุดท้าย ก็เหลือแต่ปล่อยให้เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์นะครับ
+1 ผมใช้ SE ผมว่าแบตมันก็พอดีนะวันนึงเหลือ ๆ ไม่ต้องพกพาวเว่อแบ้ง คือถ้าให้หนากว่านี้แล้วแบตอึดก็คงไม่เอา
+100000
ผมไม่อยากได้บาง อยากได้แบตเยอะ ๆ กับจับถนัดมือ
Coder | Designer | Thinker | Blogger
+100001
ทุกวันนี้เห็นเน้นใหญ่กันจัง จับไม่ถนัดใส่กระเป๋ากางเกงไม่ได้
ผมไม่อยากได้นะ แบตไม่เคยหมดใน 1 วันอยู่แล้ว แล้วผมก็ติดนิสัยเสียบชาร์จตลอดเวลาไม่ได้ไปไหน ปัจจุบันใช้ 6 ไม่เอา 6s เพราะมันใหญ่เกะกะ นี่ก็ยังรู้สึกเกะกะนะถ้าหนากว่านี้กระเป๋ากางเกงตุงเลย เพิ่งมาซื้อแบตเสริมตอนเล่นโปเกมอนนี่แหละจนถึงป่านนี้ยังไม่ได้ใช้เลย
มีประเด็นเดียวตรงเครื่องโค้งๆเนี่ย ไม่ใส่เคสแล้วหลุดมือง่ายมาก
เป็นเงื่อนไขที่จำกัดกลุ่มลูกค้ามากเลยครับ จริงๆ วิถีชีวิตของผมส่วนใหญ่ก็คล้ายๆ กันกับคุณนะครับ สามารถหาที่ชาร์จได้ง่ายๆ ระหว่างวัน แต่เมื่อไหร่ที่ต้องเดินทางหรือว่าช่วงที่ไปเที่ยวแบบเข้าป่านี่ จะรู้เลยว่าการมีมือถือแบตอึดๆ นั้นเป็นสิ่งที่จำเป็นมากๆ
+1 วันที่อยู่บ้านหรือทำงานนี่ชาร์จเกือบตลอดเวลาครับ แต่วันไหนทำงานนอกสถานที่ มีเดินทาง มีไปเที่ยว เมื่อนั้นแหละ ลำบาก
โอกาสที่ผมจะเที่ยวป่าน้อยมากครับ ขึ้นดอยในรถก็ชาร์จได้ เช่ารถขับขึ้นพอไปถึงก็มีปลั๊กกันหมดแล้ว ไปเที่ยวต่างประเทศแฟนก็จะไปเฉพาะประเทศที่มันมีที่ช็อปปิ้งครับ และรับรองว่าเช้าเย็นมีไฟให้ต่อแน่นอน เริ่มใช้ตั้งแต่ iPhone 4 กี่ปีแล้วแบตยังไม่เคยหมดระหว่างอยู่ข้างนอกเลยซักครั้ง
ผมไม่ได้บอกว่าทุกคนไม่ต้องการแบตเยอะๆ แต่มั่นใจได้ยังไงว่าคนต้องการเยอะจริงๆ อย่างผมนี่ก็ไม่จำกัดอยู่ที่ iPhone แต่ใช้เพราะมันสะดวกดีไม่ได้ต้องการอะไรแปลกๆเยอะมาก ถ้ามันใหญ่เกะกะโดยเฉพาะถ้าใส่เข็มขัดวิ่งที่ผมชอบใช้ไม่ได้(ตอนนี้ iPhone6 ก็คับแล้วใส่ 6S ไม่พอแน่นอน) ผมก็เปลี่ยนค่ายแน่นอน
ปล.เข้าป่าจริงๆแบตก้อนแค่ไหนครับถึงจะพอ ยังไงก็ต้องพกป่าว
ที่ยกมาทั้งสองแบบคืออยากให้เห็นการใช้งานทั้งแบบชาวบ้านทั่วๆ ไปกับแบบ extreme ครับ ในรายละเอียดผมก็ไม่แน่ใจว่าคุณใช้งานยังไงแบตถึงอยู่ได้นานขนาดนั้น ไอโฟนที่ผมเคยใช้มาคือ 4 6plus และ 5s (6plus เลือกเพราะความอึดของแบตเป็นหลักเลยทั้งๆ ที่ชอบขนาดของ 6 มากกว่าแต่ใช้มาปีกว่าแล้วเครื่องหายเลยซื้อ 5s มาใช้เพื่อรอรุ่นใหม่เปิดตัว) เท่าที่ใช้มา 6 plus แบตอึดสุดโดยจะเหลืออยู่ราวๆ 1x% ตอนถึงบ้าน 4 สักบ่ายแก่ๆ ก็หมดแล้วครับ 5s ก็อึดขึ้นมาหน่อย
ตามปกติผมพก powerbank ติดตัวไปตลอดนะ เผื่อว่ามันจะหมดในเวลาที่จำเป็นต้องใช้ แต่การที่ใช้งานได้นานๆ โดยไม่ต้องต่อสายระโยงระยางยังไงก็ให้ประสบการที่ดีกว่าอยู่ดีนะครับ ไปเที่ยวป่านี่ powerbank มีกี่ก้อนผมขนไปหมดครับ มีให้ใช้ถึงแค่ไหนก็ใช้แค่นั้น
ตอนนี้ใช้ 5s มาสักพักแล้วกลับรู้สึกว่ามันโอเคทั้งในเรื่องขนาดและความเร็ว ล่าสุดเลยเบนเข็มจากรอไอโฟนรุ่นที่กำลังจะเปิดตัวเป็น SE แทนเพราะเอามาใช้กับอุปกรณ์วิ่งต่างๆ ที่ซื้อไว้ก่อนหน้านี้ได้เลย อ่อแอพวิ่งนี่คือตัวกินแบตอันดับต้นๆ เลยครับ
นั่นแหละครับ เพราะมันมีคนใช้หลายกลุ่ม ผมก็พิมพ์ว่าผมไม่เอานะแบตเยอะๆเพราะผมใช้แค่นี้ถือสบายๆกระเป๋าไม่ตุง สำหรับผมถ้าจำเป็นจริงๆก็ยังมีทางเลือกให้พกแบตเสริมแต่ถ้าไม่จำเป็นก็ไม่พกได้เครื่องเล็กๆใส่กระเป๋าสบาย (ซึ่งเอาจริงๆผมไม่เคยจำเป็นต้องใช้) มันถึงเป็นคำถามว่ารู้ได้ยังไงว่าคนต้องการเยอะจริงๆ
สำหรับผมปกติก็ facebook รับโทรศัพท์ หาข้อมูลตอนไปเดินห้างจะซื้อของบ้างนิดหน่อย ส่วน line ปิดเตือนพวกกรุ๊ปส่งดอกไม้สวัสดีไปให้หมด กับปิด backgroup app บางตัวที่ไม่จำเป็น ถ้าไปวิ่งใช้ runtastic 2 ชม.ต่อ bluetooth ฟังเพลงด้วย aftershockz และนาฬิกา HR ก็ตกประมาณ 20%-30% ไม่มีสภาพไหนที่ต้องต่อแบตเลยจริงๆ ยกเว้นแบกของกลับห้องแล้วโยนไว้ลืมเสียบ
สำหรับบางคนอีกมือถือหนาขึ้นก็ไม่น่าจะพอ เห็นใช้แบต 10000 มิลหมดทุกวัน
ตอนแรกอาจจะบ่นกันเพราะไม่ชินกับของใหม่ แล้วต้องซื้อหูฟังใหม่กันอีก แต่พอใช้ระบบไร้สายจนติดแล้ว อาจไม่อยากกลับไปใช้แบบมีสายก็ได้นะครับ ผมว่าคนส่วนใหญ่ก็ไม่ได้ซีเรียสเรื่องคุณภาพของเสียงเพลงขนาดนั้น และ ปัจจุบันพวกหูฟังบลูทูธเอง ก็ไม่ได้แย่เหมือนสมัยก่อนแล้วด้วย
ไหนลองมาทำวิจัย ข้อดี ข้อเสีย ในแง่ของการใช้งานกันครับ
ดี
1. สายไม่เกี่ยวแขน เกี่ยวมือ
2. สายไม่เปื่อย คนไม่บ่น
3. ไม่ต้องอยู่ใกล้ โทรศัพท์ เวลาใช้งาน
4. อาจทำ ให้ตัวเครื่อง กันน้ำได้ ง่ายขึ้น
เสีย
1. ทำหาย ทำหล่นง่ายขึ้น
2. ต้อง charge batt ทุกวัน (หรือ ครึ่งวัน)
3. ต้องซื้อ adaptor เพิ่ม ถ้าจะใช้หูฟังแบบมีสาย และ เปลืองช่องเสียบที่มีอยู่ แค่ช่องเดียว ทำให้ใช้พร้อมกันกับการ sync ข้อมูลด้วยสายไม่ได้
4. คุณภาพเสียง?
เฉยๆนะ ดีดวยซ้ำที่ตัดออก
"ตัดช่องหูฟังออกเพื่อให้เครื่องบางลงอีก". ตอนนี้ยังบางไม่พออีกหรอครับ มันบางจนแทบจะใ้สับหมูชิ้นแทนอีโต้ได้แล้วนะปล. ถ้าจะใข้เหตุผลนี้เพื่อตัดแจ็คหูฟังออก ผมว่าเหตุผลมันก็ยังไม่หนักพออยู่ดี
เดี๋ยวจะได้ขาย dac กันไง
ไม่ก็ทำเคสที่เป็น dac ขายเป็น accessory กันไป
ตัดไปผมไม่ว่า ขอพอร์ตเพิ่มผมยอมซื้อ dacใส่เอง
ตัดออกเลยครับ ทำตัวให้สมกับเป็นเจ้าตลาดให้เต็มที่. จะคอยดูว่าจะทำแบบนี้ได้อีกนานไหม
จะตัดไม่ตัด ผมก็เตรียมหูฟังบลูทูธรอแล้วล่ะครับ ต่อให้ไม่ได้ใช้ไอโฟนก็ยังใช้กับเครื่องอื่นได้
แค่มนุษย์คนนึงที่อยากรู้เกี่ยวกับวงการไอที
+1 ใช่ครับ หูฟังบลูทูธมัน universal จริงๆ ถึงเสียงจะกากก็เถอะ
กากแค่ไหนก็ยังเทพกว่า EarPods แหละครับ ปล.ใช้หูฟังของ Sony รุ่นล่างๆ
แค่มนุษย์คนนึงที่อยากรู้เกี่ยวกับวงการไอที
บางที่เจอสัญญาณตีกันกับคนอื่น bit rate drop กระตุกจนต้องเปลี่ยนมาใช้สายแทน อ้าววว แบตหมดอีก ....
อันนี้เจอมากับตัวตอนไปห้างครับ อยู่ๆพอเดินไปจุดคนเยอะๆ สัญญาณมันตีกันเอง จนผมต้องยกโทรศัพท์ขึ้นมาอีกหน่อย อาการถึงจะหายไปครับ
แค่มนุษย์คนนึงที่อยากรู้เกี่ยวกับวงการไอที
Lightning 2 port โดนด่าน้อยลง ถ้าเสียงดีกว่า 3.5 mm ก็พอรับกันได้มั้ง
ืทำไรก็ทำ แต่ทำแล้วต้องเปลี่ยนแปลงวงการไปเลย แบบที่ iPhone เคยทำได้ ถึงจะปรามาทอย่างไรหากออกมาแล้ว มันทำให้ชีวิตดีขึ้นมันก็จะถูก Acceptant ที่เหลือก็ให้การตลาดเป็นตัวช่วยเร่งให้เกิด Attiude แล้วมันก็จะเปลี่ยนแปลงวงการอีกครั้ง
มันมีคนอื่นเขาทดลองตัด 3.5 ออกไปก่อนหน้า Apple แล้วครับ (Oppo R5) ซึ่งก็ไม่ได้มีปัญหาอะไร
ไม่ดูยอดขายหน่อยละครับ
Android รุ่นนี้ไม่มี เขาก็ไปรุ่นอื่นกัน
/>o</
+100 ไม่มีปัญหาอะไร เพราะคนก็ไปใช้รุ่นอื่นกันหมด แล้วในเวลาต่อมา Oppo ก็ต้องเอา 3.5 กลับมาจนถึงทุกวันนี้
ผมละขำ... ไปนอนโรงแรม 3-5 ดาว ชอบเอาลำโพง แบบที่มี port universal แบบ iPhone3-4 มาตั้งโชว์ เปลี่ยนพอร์ตบ่อยๆ นึ่ลำบากแฟนบอยมากๆ นะ เขาจะรู้ไม๊ ตั้งแต่เปลี่ยนมาเป็น lightning ก็ตัดความสามารถ tv-out ออกไปด้วย สายต่อ universal ออก AV ยังนอนอย่างสงบในบ้านผมอยู่เลย
ถามจริงๆ มันทำให้ชีวิตดีขึ้นตรงไหนนอกจากเพิ่มความยุ่งยากในชีวิต
/>o</
ใช้ Bluetooth ต่อไป เสียงไม่ดีไม่เป็นไร พอฟังได้ก็พอ
Destination host unreachable!!!
เยี่ยมเลยครับ...
.
.
ผมมีปัญหาเกี่ยวกับการใช้ Bluetooth คือใช้แล้วปวดหัว ถ้าใช้ต่อกันเกินครึ่งชั่วโมง
.
สงสัยถ้าเปลี่ยนเครื่องคงต้องหาหูฟังเพิ่ม
.
เฮร้อ
ผมใช้ Bluetooth มาหลายปีแล้วไม่คิดจะกลับไปใช้สายอีกเลย ตอนนี้ใช้ SONY MDR Extra Bass กับ Beats Wireless เสียงก็ไม่ได้แย่อะไร เน้นเบสตึบๆก็พอ จะตัดออกก็ไม่มีผลอะไรกับผม ช่อง 3.5mm เสียบนับครั้งได้
แต่หูฟังบลูทูธมันคุยโทรศัพท์แบบ stereo ไม่ได้นี่ครับ :D
ถ้า stereo เวลา video call ได้นี่คงได้อารมณ์ดี แต่คนที่มีไมค์ stereo ก็หาได้ยากยิ่งนัก
ถ้าจะอยู่กับเรา
ก็ต้องทำตามเรา
ให้ถึงที่สุด
มันอยู๋ที่ราคาหูฟังครับ
หูฟังพอใช้หน่อยแจ็ค 3.5 ราคาสตาร์ท 400-500
แต่ BT สตาร์ทที่ราวๆ 1500+ (ก็อกแก็กพอใช้ 1000+)
อีกเรื่อง
การที่หูฟังมีหลายๆหัว usb-C/ Lighting /3.5
น่าจะกลับมาจบที่ BT
หันไปมอง Grado 225 , Yuin PK1 แล้วถอนหายใจไปเดินจากไปเงียบๆ
เก็บตังรอซื้อ 3rd party DAC ได้เลยครับ ได้เวลากรีดเลือดเพิ่ม
หวังว่า Android จะไม่ตามเค้าไปนะ เลือกหูฟังก็ปวดกบาลพอละ ขี้เกียดมานั่งเลือก DAC ละ
ตอนนี้ผมแฮปปี้กับ Mi Note มากครับ เป็นโทรศัพท์ไม่กี่เครื่องในโลกที่ขับ Pk1 ไหวโดยไม่ต้องพึ่งแอมป์
ก่อนหน้านี้ตอนใช้ Nexus ถ้าอยากฟัง Pk1 ต้องพกแอมป์ไปด้วย ไปไหนมาไหน ชีวิตลำบาก
ผมนี่ตอน Mi Note ออกมาขาย แทบกระโดดด้วยความดีใจ ES9018 + OPA1612 นี่มันชุดแฮปปี้มีลชัดๆ
PK1 ถ้าไม่มี Amp iPhone มันขับไหวด้วยเหรอครับ - -)?
ผมว่าถ้าจะตัดพอร์ต 3.5mm ออกเพราะอยากให้เครื่องบางลง ถ้าประโยชน์มันมีแค่นี้ก็อย่าทำเลย ตอนนี้ใช้ทั้งหูฟังแบบมีสายกับไร้สาย ต้องยอมรับว่าการมีหูฟังไร้สายช่วยให้การออกไปวิ่งสนุกขึ้นมากจริงๆ ถ้าอนาคตจะตัดพอร์ตต่างๆ ออกจนหมดก็ไม่น่าจะเป็นปัญหาสำหรับผมนะ
พอยอดขายตก รุ่น S จะเอากลับมา.
ตัดไปก็อย่าเพิ่งรีบซื้อ รอ Gen หน้าตัวแปลงน่าจะราคาถูกลงแล้วค่อยซื้อตอนนั้น
เปลี่ยนเครื่องก็ต้องเปลี่ยนอุปกรณ์เสริมด้วย เป็นธรรมเนียมของผู้ใช้สินค้า apple ซึ่งสาวกก็ยังตามซื้อกันอย่างเสมอๆ ถึงแม้จะบ่นๆก็เถอะ
ถ้า jobs อยู่ เชื่อใจแต่ยุคหลังมา ไม่มีอะไรดีเลยนะ
ก็ไม่ถึงขนาดนั้นหรอกครับ iPad mini ถ้าจ๊อบอยู่ก็คงไม่ได้เห็นล่ะครับ ไอโฟนจอใหญ่ๆก็ใช่ แถมเปิดตัวแล้วไม่ต้องรอกันเง๊กกว่าจะมา เทือกๆนี้ก็เห็นจะผลงานทิม คุ๊ก ทั้งนั้น ส่วนที่ว่าสมัยจ๊อบอยู่แล้วบางอย่างมันเฮงซวยจนไม่อยากใช้ก็มีถมไป การ sync เพลงกับคอมก็คือตัวอย่างหนึ่ง
Apple Pencil นี่ก็มีดีเยอะอยู่นะครับ ถึงจะไม่เนี้ยบก็เถอะ
ดินสอภาษาอะไรก้นไม่มียางลบ ปากกาของตาบิลยังมียางลบไว้ลบหมึกได้เลย:P
ผมเชื่อว่าเกือบทุกคนน่าจะเคยใช้ดินสอที่ก้นไม่มียางลบมาบ้างแล้วนะครับ (ถึงมีก็ไม่ค่อยใช้ด้วย ยางลบท้ายดินสอดีๆ นี่หายาก)
ปากกามียางลบอยู่ท้ายนี่เดี๋ยวนี้ก็มีทั่วไปเช่นกันครับ
ใช่ครับแต่ผมไม่เคยใช้หัวดินสอมาลบดินสอที่เขียนไว้มันเลยไม่ชินครับ :P
ปล.แซวขำๆน้า~~~~
พูดอะไรอย่างนั้นครับ ยางลบท้ายดินสอนี่เพื่อนตายของเด็กประถมเลยนะครับ (ยางลบตัวจริงหล่นหายบ่อย ไม่ก็โดนเพื่อนขโมย)
พูดได้ถูกต้องมากครับ 555
ສະບາຍດີ :)
จะอยากให้มันบางไปถึงไหนกันทีไอพอดนาโนตัวล่าสุดบางยังกะหมากฝรั่งแผ่น แต่ก็ยังมีทั้งพอร์ทไลท์นิ่งพอร์ทหูฟัง 3.5 ได้ไลย
คือพี่จะเอาบางกว่านั้นอีกเหรอ?
อีกอย่าง บางแล้วดูดีน่ะใช่ แต่มันก็หักลบกับกล้องนูนไม่ได้หรอก...
ทำอะไรหลายๆอย่างในโทรศัพท์เครื่องเดียวคงเอาใจใครไม่ได้หมดทุกคน เหตุผลง่ายๆ ก็คือ ถ้าอยากฟังเพลงแบบมีมิติก็ไปซื้อไอพอดซะ
นึกถึงยุคที่ Smartphone เข้ามาใหม่ๆ
อารมณ์เดียวกับที่ตัด cdrom ออกจาก notebook หรือเปล่า แรกๆ หลายคนก็ด่า พอมาทุกวันนี้ก็เฉยๆ กัน
การตัดซีดีออกมันทำให้สะดวกมากขึ้นน่ะครับ เพราะว่ามันมีมีเดียมที่สามารถแทนกันได้ง่าย ๆ และราคาไม่แพงมาก
ส่วนการตัดไอ้พอร์ตหูฟังเนี่ย ทางออกมันมีแต่เสียตังค์เพิ่ม (แถมแพงด้วย) คนก็เลยด่ากัน
ทำไมไม่ตัด lighting ออกแล้วชาร์ททาง 3.5 มม
นึกถึง iPod Shuffle Port ดูดีแต่ส่งข้อมูลอย่างอืด
อีกหน่อยคงมีข่าว ไอโฟนเจ็ดหักคากระเป๋ากางเกง
ผมว่าเค้าคิดเผื่อกรณีนี้แล้วนะ...
เอาออกเถอะ ไหว้ล่ะ ชาตินี้อยากเห็นโทรศัพท์ไร้พอร์ต ไร้สาย100%ก่อนตาย จะให้3.5mm อยู่กับเราไปอีกกี่ชาติกันครับ ถ้า Apple ไม่ทำก็ต้องเป็นซัมซุง เจ้านั้นเอาเมมออกสาวกก็ด่าเละเทะต้องเอากลับมา ทั้งที่ ไอโฟนไม่เคยใส่ได้ ถ้าไอโฟนยอดขายตกเดี๋ยวก็เอากลับมาเอง รุ่นนี้ไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนตามเลย หน้าตาก็เหมือนเดิม แต่ผมคนนึงล่ะอยากให้เอาออกมากๆ
เอา 3.5mm ออกไปแล้วช่วยทำให้กล้องหายนูนด้วยได้มั้ยครับทั่น
อันนั้นต้องบอก Sony กับ LG ครับ ว่าให้ผลิตโมดูลกล้องรุ่นใหม่ของ iPhone ให้บางลงกว่านี้อีก
แต่ปกติเขาก็พัฒนาให้โมดูลกล้องบางลงเรื่อยๆ อยู่แล้วครับ
หรือจะให้เขาทำให้เครื่องหนาขึ้น แอปเปิลเขาก็คงไม่ทำ เพราะเสพติดความบางไปแล้วครับ
โดนตรงคำว่าเสพติดความบาง ยุคนี้คงได้แต่ทำใจ
สงสัย Apple มันเสพติดความบาง งั้นพี่ไม่ทำ iPhone 001 ไปเลยหล่ะครับ !!!
มือถือรุ่นเก่าๆไม่มีแจ๊ค 3.5 นะ เวลาจะใช้หูฟังก็เสียบรูเดียวกับที่ชาร์จแบบนี้แหล่ะ ที่ Apple ย้อนกลับไปแบบเก่าเพราะจะทำให้ขายอุปกรณ์ต่อพ่วงได้เพิ่มมากขึ้น ส่วนกลุ่มคนต้องการคุณภาพเสียงดีๆ แบรนด์หูฟังก็ต้องทำรุ่นใหม่ออกมารองรับ iPhone อยู่แล้ว กินเปอร์เซ็นกับคนทำอุปกรณ์เสริม ส่วนคนทำอุปกรณ์เสริมก็ได้ขายของใหม่ Win Win ทั้งสองฝ่ายยกเว้นคนซื้อ
ผมใช้มือถือเล่นเกม แล้วชอบเกมประเภทกดจอตามจังหวะเพลง เล่นทั้ง LLSIF ทั้ง Idolm@ster CGSSถ้าจะต้องกลับไปเสียบหูฟังผ่านพอร์ตที่อยู่ตรงกลางเครื่อง คงไม่เอาด้วยครับ เล่นลำบากกว่าเดิมมาก และการเชื่อมต่อทาง bluetooth ก็ยังไม่ดีพอสำหรับใช้เล่นมิวสิคเกมพวกนี้
คงต้องเบนเข็มไปพิจารณา iPad แทน
ข่าวดีครับ iPad รุ่นใหม่ๆ ก็จะตัดหูฟัง 3.5 ออกเหมือนกัน เพื่อความ คอมแพตติเบิ้ลกับ iPhone LOL