Bad Blood หนังสือแฉเบื้องหลังบริษัท Theranos (อ่าน สรุปเรื่องราวในข่าวเก่า ) ระบุถึงประวัติของบริษัทที่เต็มไปด้วยความผิดปกติตั้งแต่แรกเริ่ม และเนื้อหาส่วนหนึ่งพูดถึงการวิจัยเทคโนโลยีของ Theranos ในเมืองไทย เมื่อปี 2010 เพื่อวิจัยเทคโนโลยีเพื่อการตรวจโรคไข้หวัดหมู (swine flu)
การวิจัยในไทยเกิดหลังจาก Theranos ไปทำวิจัยในเม็กซิโกก่อนหน้านั้นแล้วแต่กลับไม่ประสบความสำเร็จนัก โดย Sunny Balwani ประธานบริษัท (หนังสือระบุว่ามีความสัมพันธ์กับ Elizabeth Holmes ผู้ก่อตั้งและซีอีโอ) ได้บินมายังประเทศไทยเมื่อปี 2010 เพื่อทำงานวิจัยไข้หวัดหมู โดยพนักงานทั่วไปไม่ทราบข้อมูลนักว่าเป็นงานวิจัยที่ใดและได้รับอนุญาตจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการนำเข้าอุปกรณ์และทำวิจัยหรือไม่ มีข่าวลือในหมู่พนักงานว่า Sunny จ่ายเงินสินบนเพื่อขอใช้ตัวอย่างเลือดของคนไข้ และหลังจากทีมงานกลับจากประเทศไทย มีพนักงานรายหนึ่งลาออกทันที
หนังสือระบุว่าสไตล์การบริหารของ Holmes ที่เน้นแต่ความภักดีกับตัวบุคคล และมักแสดงตัวเลขให้กับบอร์ดและนักลงทุนอย่างไม่ตรงไปตรงมา หรือแม้กระทั่งการนำเสนอข้อมูลกับพันธมิตรอย่าง Walgreen ก็มักแสดงข้อมูลที่ไม่ตรงความจริง เช่น อ้างว่าเครื่องสามารถตรวจเลือดได้ข้อมูลจำนวนมาก แต่ Holmes กลับได้รับการสนับสนุนจากนักลงทุนอย่าง Don Lucas ที่ลงทุนในบริษัทและเป็นประธานบอร์ด
หนังสือ Bad Blood เริ่มวางจำหน่ายเมื่อปลายเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา และได้รับความนิยมอย่างสูง พร้อมกับคำชมเป็นวงกว้าง ใน Goodreads ได้รับคะแนนเฉลี่ยถึง 4.7 คะแนน จากกว่า 2,000 รีวิว และ John Carreyrou เพิ่งเข้าไปตอบคำถามใน Reddit วันนี้
เนื้อหาที่เกี่ยวข้องกับเมืองไทยอยู่ในบทที่ 8 ของหนังสือ โดยเนื้อหาส่วนใหญ่เป็นการวิจัยไข้หวัดหมูในเม็กซิโกที่ Theranos ได้รับอนุญาตให้นำเข้าอุปกรณ์ไปทำวิจัยได้
Comments
อยากดูหนังเรื่อง Theranos แล้ว
Theranos ต้องลึกกว่านี้อีกเยอะ
เค้าก็คงไม่อยากให้ล้มเหลวหลอก แต่ตัวเขาเองขาดประสอบการและผู้ช่วยผู้บริหารอาจจะไร้ความสามารถ ทั้งๆที่มีทุนเยอะขนาดนั้น เพราะเจ้าอื่นที่ทำทีหลังยังสามารถเอาไอเดียไปสร้างขายได้ แสดงว่าไม่ได้ผิดที่ไอเดีย แต่ผิดที่การดำเนินงานและประสบการณ์ในการบริหาร
ส่วนตัวคิดว่า เรื่องแบบนี้ไม่น่าจะตั่งใจหลอกลวง มันลวงโลกยากเพราะผลมันเกิดกับคน คงประมาณฝูงแล้งลง พวกที่เห็นเงินแล้วเข้ามาหาผลประโยชน์มากกว่าจะทำงาน เพราะความสารถไม่มี ผลเลยออกมาเป็นแบบนี้ ไวรัสหมูก็น่าจะเป็นวิทีผลาญเงินของพวกแล้งอีกแบบหนึ่ง แทนที่จะทำผลิตภันหลักให้ดีใช้งานได้ทั่วถึง กลับเอาเงินมาผลาญในทางอื่น
ภาพรวมเทคโนโลยีอาจจะ "ไม่ตั้งใจหลอกลวง" ก็คงพอพูดได้ครับ
แต่ความก้าวหน้าแต่ละขั้น จนกระทั่งเซ็นสัญญาพันธมิตรกับ Walgreen นำผลแล็บให้ผู้ป่วยไปใช้งานทางการแพทย์ พวกนี้ "ตั้งใจหลอกลวง" ค่อนข้างแน่ ของไม่เสร็จเอาไปขายเอาไปใช้งาน หมอหลงเชื่อเอาไปวินิจฉัยโรคจริง
lewcpe.com , @wasonliw
ผมคิดว่า เปิดด้วยวาดไอเดียสุดเจ๋ง
คุยไปเยอะ รับเงินทุนไปเยอะหาคนมาทำ แต่ทำไม่สำเร็จ (ดีไม่ดีทำไม่ได้ตามที่พูดเลยด้วย) แต่รับเงินมาหมดแล้ว ก็ make ผลงานซะเลย
แถมดันเจรจาดี คนเชื่อหมดเลย
จะมีใครเอาเข้ามาแปลไทยมั้ยครับนี่