ข่าวดีสำหรับแฟนเกม Half-Life ซึ่งอาจจะคิดถึงบรรยากาศการต่อสู้เพื่อเอาชีวิตรอดใน Black Mesa ศูนย์วิจัยลับสุดยอดของรัฐบาลสหรัฐอเมริกา สถานที่ที่เป็นต้นกำเนิดของเหตุการณ์ทุกอย่างในจักรวาลของเกม
เมื่อทีมพัฒนา Crowbar Collective ได้ออก Black Mesa เวอร์ชัน 1.0 เกมซึ่งเป็นการรีเมค Half-Life ภาคแรกเป็นที่เรียบร้อย หลังจากที่ใช้เวลาพัฒนาเกมมาถึง 8 ปี นับจากการเปิดตัวครั้งแรกในฐานะ mod ที่พัฒนาโดยแฟนเกม ซึ่งในขณะนั้นเปิดให้ดาวน์โหลดไปเล่นได้ฟรีหากผู้เล่นมีเกม Half-Life 2 ติดตั้งอยู่แล้ว
และแม้ว่า Black Mesa จะเป็นผลงานที่ได้รับการพัฒนาโดยทีมงานอาสาซึ่งเกิดจากการรวมตัวกันของแฟนเกม ตัวเกมเวอร์ชัน mod ก็ยังได้รับคำชมอย่างล้นหลามมาตั้งแต่ช่วงต้นๆ ของการพัฒนา จนในปี 2015 ทางทีมก็ได้รับอนุญาตจาก Valve ค่ายเกมที่เป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ภาคต้นฉบับให้สามารถวางขายในฐานะเกมตัวเต็ม (standalone) อย่างเป็นทางการ และได้เริ่มวางขายแบบ Early Access บนหน้าร้าน Steam ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา
ภาพจาก Crowbar Collective
การมาถึง Black Mesa เวอร์ชัน 1.0 ทำให้ตอนนี้ตัวเกมอยู่ในสถานะเสร็จสมบูรณ์ ส่วนของใหม่ที่ผู้เล่นจะได้รับก็ไม่ใช่เพียงแค่การอัพเกรดภาพกราฟฟิกไปใช้ Source Engine เวอร์ชันปรับปรุงจาก Half-Life 2 เท่านั้น ทาง Crowbar Collective ยังได้ปรับปรุงระบบการเล่น, ความฉลาดของ AI ศัตรู, ออกแบบฉากบางส่วนใหม่ ตลอดจนยังได้ เพิ่มเนื้อหาในช่วงท้ายของเกม (ฉาก Xen ที่แฟนเกมส่วนใหญ่เห็นพ้องต้องกันว่าภาคต้นฉบับทำได้ไม่ดีเท่าไหร่นัก) ให้อีกด้วย
สำหรับผู้ที่ไม่เคยเล่น Half-life ภาคแรก (1998) เป็นเกมเดินหน้ายิงเกมแรกๆ ที่ใช้เทคนิคการเล่าเรื่องผ่านการวางสคริปต์เหตุการณ์ซึ่งได้รับการออกแบบมาอย่างดี จนเป็นนวัตกรรมที่ส่งผลให้ Half-Life เป็นที่ชื่นชอบอย่างมากในสมัยนั้น
ผู้เล่นจะได้รับบทเป็น Gordon Freeman นักฟิสิกส์ผู้เผชิญหน้ากับการบุกรุกของเอเลี่ยน ซึ่งมีต้นตอมาจากความผิดพลาดของการทดลองในศูนย์วิจัย Black Mesa ทำให้ Gordon ต้องต่อสู้, เอาตัวรอด ร่วมมือกับผู้รอดชีวิตเพื่อหยุดยั้งการรุกรานของเอเลี่ยน
ที่มา - The Verge , Steam Community ( 1 , 2 )
Comments
ดูๆแล้วน่าจะกินสเปคเครื่องไม่มาก ว่าแต่ดีแบบนี้ Opposing Force ต้องตามมาแล้วว
ชอบภาค Opposing Force มากกว่า ตรง NPC ช่วยเหลืออาวุธครบมือมาก ปืนกล ระเบิด เพราะเป็นทหารนี่นะ
และอีกเรื่องคือทำให้ตอนเล่นกลัวที่จะเดินต่อในที่มืดๆเลยฮ่าๆ จำได้เลยตอนลงท่อระบายน้ำ ถึงกับต้องปิดเดมไม่กล้าเดินในท่อไปหลายวันเพราะเอเลี่ยนตัวใหญ่มากคับท่อระบายน้ำเลย อยู่ไกลมันยิงเลเซอร์ใส่ อยู่ใกล้มันจะโดดตระคลุบแถมต้องเดินไปใกล้ๆถึงจะเห็นตัวอีกต่างหาก ขนาดใส่แว่นมองในความมืดแล้วก็ตาม สรุป เอาปืนกลยิงสวนตอนที่มันชาร์ดเลเซอร์ยิงเลเซอร์ แบบมองไม่เห็นตัวมันนั่นหล่ะ เพราะกลัวที่จะต้องเดินไปหามันจริงๆ พอไม่มีแสงเลเซอร์ยิงมาแล้ว ก็ให้คิอว่ามันคงตายแล้ว ดีที่ AI สมัยนั้นไม่ฉลาดพอที่จะแกล้งตายล่อให้เราเข้าไปใกล้ก่อน
ตอนเด็กๆเล่นนี่ เราโดดเข้าประตูวาปตาม ตัวเอกภาคแรกนี่ตายแล้วตายอีกสรุป ห้ามตามเฉยเลย มันหลอกเราฮ่าๆ
ชอบ opposing force มากกว่าภาคหลักเหมือนกันครับ ด้วยเหตุผลเดียวกันเลยว่าเรามีเพื่อนทหารมาช่วยลุยด้วย(สมัยนั้นรู้สึกว่ามันว้าวมาก) คือเป็นคนเล่น FPS แบบเดินไปทีละนิดๆ (กลัวตัวอะไรโผล่มา ฮ่าๆ) พอมี NPC มาช่วยเลยรู้สึกอุ่นใจ
ช่ายๆ พอมีเพื่อแล้วกล้าลุย แชร์ดาเมทกันหน่อยฮ่าๆ แต่พอลงท่อมืดๆแล้วเพื่อนไม่ตามนี่ ใจแป้ว เลยหล่ะ
ภาค Opposing Force นี่บรรยากาศต่างกันจริงๆ ครับ เพื่อนทหารช่วยให้ความน่ากลัวลดลงไปพอสมควรเลย
ของภาคแรกนี่ยามประจำศูนย์วิจัยช่วยได้พักเดียว พอเปลี่ยนฉาก Gordon ก็ต้องลุยเดี่ยวอีกแล้ว ทำเอาเล่นไปได้ไม่เท่าไหร่ ผมก็ใส่สูตรโกงแหละ (สมัยนั้นยังเล่นไม่เก่งด้วย)
แต่ถ้าจะรอรีเมคของ Opposing Force นี่ไม่รู้จะได้เล่นเมื่อไหร่เหมือนกันนะครับ (หรือถ้าเร็วก็อาจจะไม่ใช่ของทีมนี้) พอดีเห็น Crowbar Collective บอกว่าแผนต่อไปคือ ยังคงปล่อยอัพเดตให้ Black Mesa เพื่อขัดเกลาตัวเกมต่อ
Achievement Unlocked: Being a Blognone's Writer
เป็นงานแฟนสร้างที่ทำดีไม่น้อย