หลังจากล้มเหลวกับบริการคลาวด์เกมมิ่ง Stadia จนต้องปิดตัว กูเกิลปรับทิศทางใหม่ นำเทคโนโลยีจาก Stadia มาให้บริการบริษัทเกมอื่นๆ แทน ภายใต้ชื่อแบรนด์ว่า Google Cloud for Live Service Games
บริการภายใต้ร่มของ Google Cloud for Live Service Games เป็นผลิตภัณฑ์ที่กูเกิลมีอยู่ก่อนแล้ว แต่นำมาจัดชุดใหม่ให้เหมาะกับลูกค้ากลุ่มบริษัทเกม ที่ต้องการเซิร์ฟเวอร์ขนาดใหญ่รองรับเกมแนว Live Service ที่มีผู้เล่นจำนวนมหาศาล
- เซิร์ฟเวอร์: ใช้ Google Kubernetes Engine (GKE) ที่มีโหนดได้มากถึง 15,000 คลัสเตอร์ ใหญ่กว่าคลาวด์เจ้าอื่น 10 เท่า และ มีซอฟต์แวร์เซิร์ฟเวอร์เกม Agones รันบน Kubernetes ที่ร่วมพัฒนากับ Ubisoft
- เก็บข้อมูล: ใช้ Cloud Spanner ฐานข้อมูลขนาดใหญ่ที่กระจายตัวไปทั้งโลก ตอบโจทย์ทั้งด้านสเกลและประสิทธิภาพ ไม่ต้องทำ sharding แยกส่วนฐานข้อมูล แยกกลุ่มผู้เล่นอีกต่อไป
- วิเคราะห์ข้อมูล: ใช้ BigQuery ซึ่งเป็นมาตรฐานที่ใช้ในบริษัทเกมขนาดใหญ่อยู่แล้ว พร้อมชูตัวอย่างลูกค้าคือ Square Enix ที่ใช้ทำเป็นแดชบอร์ดวิเคราะห์ข้อมูลผู้เล่นแบบเรียลไทม์
Jack Buser หัวหน้าฝ่ายลูกค้าอุตสาหกรรมเกมของ Google Cloud เคยอยู่ในทีม Stadia มาก่อน เขายอมรับว่าถึงแม้ Stadia ไม่ประสบความสำเร็จ แต่ตัวเทคโนโลยีนั้นก้าวหน้ามาก จึงนำแพลตฟอร์มที่สร้างขึ้นมาให้บริการลูกค้าบริษัทเกมรายอื่นที่มีความต้องการแบบเดียวกัน และประสบปัญหาเรื่องการสเกลเซิร์ฟเวอร์ให้รองรับปริมาณผู้เล่นที่เยอะขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งกูเกิลเชี่ยวชาญเรื่องนี้อยู่แล้วจากการให้บริการ Google Search และ YouTube
Buser บอกว่าเขาเองก็เป็นเกมเมอร์ และเจอปัญหาเซิร์ฟเวอร์เต็มหรือเซิร์ฟเวอร์ล่มอยู่บ่อยๆ ซึ่งมันไม่ควรเกิดขึ้นในยุคนี้ มันเป็นปัญหาที่กูเกิลแก้ไขได้นานแล้ว (These problems are solved problems at Google) ตอนนี้กูเกิลเข้ามาให้บริการเกมใหญ่ๆ ของโลกหลายเกมตั้งแต่วันแรก ซึ่งมันเป็นเรื่องน่าเบื่อมาก เพราะระบบทำงานได้ดีไม่มีพัง (Just bored. Because it just works.)
ที่มา - Google Cloud , VentureBeat
Comments
ไม่ล้มก็ดีแล้ว มีบ่นอีก 😅
ต้องมีใจรัก