Mark Zuckerberg ซีอีโอ Meta ให้สัมภาษณ์กับ Kane Sutter จากช่อง Kallaway ในหลายประเด็นทั้งเรื่อง AI และแผนการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ของ Meta
ในช่วงหนึ่งของการสัมภาษณ์ซึ่งถามมุมมอง Zuckerberg เกี่ยวกับ AI เขาบอกว่า AI ไม่น่าเป็นสิ่งที่รวมทุกสิ่งทุกอย่างครบในเครื่องมือชุดเดียว โดยพูดถึงบริษัทหนึ่งที่พยายามสร้าง AI ผลิตภัณฑ์เดียวแล้วทำได้ทุกอย่าง เรียกว่าเป็น AI ที่แท้จริง เหมือนกับการสร้างเทพเจ้าขึ้นมา ซึ่งนั่นไม่ใช่สิ่งที่ Meta กำลังทำ และไม่คิดว่าวิธีนั้นจะได้ผลที่ดีด้วย
เขาเสริมประเด็นนี้ว่า ทำไมบางคนในอุตสาหกรรมจึงเลือกสร้าง AI เทพเจ้า นั่นเพราะคนที่ทำงานวิจัย AI จะมองว่าความสามารถ AI นั้นทรงพลังมาก จนเราสามารถสร้างหนึ่ง AI เพื่ออนาคตได้เลย แต่นั่นไม่ใช่วิธีการสร้างสิ่งของต่าง ๆ ขึ้นมา เปรียบเทียบว่าเรากำลังสร้างแอปหนึ่งแอปในโทรศัพท์ ที่ทุกคนจะต้องใช้งาน เป็นครีเอเตอร์คนเดียวในโลกที่สร้างคอนเทนต์ที่ทุกคนจะดู เป็นธุรกิจผลิตสินค้ารายเดียว ที่ทุกคนจะซื้อ ซึ่งมันจะไม่เป็นแบบนั้น
Zuckerberg บอกว่า AI ต้องมีความแตกต่างหลายแบบ เพื่อสะท้อนตามความต้องการความสนใจแต่ละคน แบบนั้นคนจึงเห็นประโยชน์จากการใช้งาน AI มากกว่า นั่นคือวิถีการสร้างวัฒนธรรมขึ้นมา ไม่ใช่มี AI หนึ่งรูปแบบที่บอกว่าทุกคนต้องทำเหมือนกันทั้งหมด
ในการสัมภาษณ์นี้เขายังพูดถึงผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ ด้านโลกเสมือน โดยบอกว่าเฮดเซตโลกเสมือนกำลังจะไปใน 3 รูปแบบ คือ (1) ไม่มีหน้าจอในตัว แต่มีไมโครโฟน ลำโพง กล้อง แบบ Ray-Ban Meta Smart Glasses (2) เฮดเซตครอบศีรษะทั้งหมด มีหน้าจอแสดงผลแบบ Meta Quest และ (3) แบบมีหน้าจอแสดงผลโฮโลแกรม ซึ่งแนวคิดหลังสุดนั้นสามารถเพิ่มเติมความสามารถได้อีกมาก เช่น การควบคุมผ่านคลื่นสมอง การขยับมือ หรือวิธีอื่น
เมื่อถามว่าเฮดเซตโลกเสมือนจะมาแทนที่สมาร์ทโฟนได้หรือไม่ เขาบอกว่าเรื่องนี้จะไม่เกิดขึ้นทันที เพราะเทคโนโลยีใหม่ที่จะมาแทนที่ จนคนเปลี่ยนมาใช้งานกันเป็นปกตินั้น ต้องทำให้คนเลิกใช้ของเดิมด้วย ตอนนี้คนยังใช้สมาร์ทโฟนในทุกกิจกรรม แบบที่ใช้บนคอมพิวเตอร์เมื่อ 10-15 ปีที่แล้ว แต่เขามองว่าแว่นตาอัจฉริยะมีโอกาสมากในเรื่องนี้ เพราะคนสามารถพกพาติดตัวไปร่วมกับสมาร์ทโฟนได้
ที่มา: TechCrunch
ดูบทสัมภาษณ์เต็มที่นี่
Comments
ได้หมดไม่ติด สุดท้ายเดี๋ยวก็มี ai ที่แนะนำว่าเรื่องนี้ควรใช้ ai ไหนทำที
แต่เอไอที่พอเห็นโพสไหนไลค์แชร์คอมเมนต์เยอะหน่อยแล้วลบออกพร้อมบอกว่าเป็นสแปมนี่ก็ไม่ไหวนะ
เอา AI กันสแปมของตัวเองให้รอดก่อนเหอะ
The Dream hacker..
พี่เขาคงคิดในใจ อย่าเพิ่งทำแค่นี้กูก็ตามพวกมึงไม่ทันแล้วววววว🥱
ตานี่ยังน่าเชื่อถืออยู่อีกหรอ อะไรที่ตัวเองทำสู้เค้าไม่ได้ ก็โจมตีเค้า แต่อะไรที่ตัวเองได้เปรียบกลับคุยโม้โอ้อวด
ยิ่งกว่าเด็กน้อยเล่นขายของ ลองถามกลับสักคำ มีอะไรทำได้อย่างที่พูดบ้าง..
คนอื่นสร้างอะไรมาสักอย่าง ยังมีความน่าเชื่อถือหรือความเป็นไปได้มากกว่าหมอนี่เลย..
ถ้ามาร์คบอกว่าไม่ใช่สิ่งที่กำลังทำแสดงว่าสิ่งนั้นมาถูกทางแล้ว
เหรอครับบบบ
แพลตฟอร์มของพี่ไม่เทพเจ้าเลยนะครับ คู่แข่งเค้าทำเน้นอย่างใดอย่างหนึ่ง แต่พี่ลอกเอาทุกอย่างของคู่แข่งมารวมไว้หมดในที่เดียวเลยนะ ครอบจักรวาลเลย
แล้วแอพพี่ขอสิทธิ์เข้าถึงมากที่สุดในเครื่องด้วยครับ 😅
WE ARE THE 99%
ai ยังดีกว่าเจอเว็บพนัน เพจปลอมๆ ที่บูทเพจจาก FB ของพรี่ เพราะ ai มันไม่ทำให้เราเสียเงิน ที่ผ่านมาเคยมีใครโดนโกงเงินเพราะ ai บ้างหล่ะ มีแต่เว็บพนัน เว็บขายของปลอมที่บูทเพจที่อยู่ใน Facebook ของพรี่นี่แหละที่เป็นแหล่งรวมมิจฉาชีพ
AI เฉพาะด้านของพี่ก็ไม่เวิร์คนะโดยเฉพาะ AI กรองสแปม/มิจจี้ 😑
เห็นด้วยกับพี่มาร์ค สากกะเบือก็คราวนี้แหละ
ประเด็นนี้เห็นด้วยกะพี่มาร์คเหมือนกันครับ
+++
AI กรองสแปมไปบล๊อคพวกติดเทรน
แต่พวก scam spam ของจริง ดันผ่านฉลุย (เพราะจ่ายเงิน)ที่สำคัญ report ไปก็ไม่สนใจ
ทั้งพวกปลอมเป็นอมตะ กับพวกปลอมเป็นเพจมั่นคง/แหม่สโพธิ์ดำ
ตอนชัยวุฒิบอกจะบล๊อค fb แอบเห็นด้วยกับความไม่พอใจ แต่ไม่เห็นด้วยกะวิธีการไม่ควรบล๊อคแต่ควรฟ้อง ไม่ก็หาทางปรับมากกว่า
วันนี้วันเดียวกดรายงานไป 20-30 เพจละ ทั้งนม กองทอง กองอมตะ ปลอมเป็นรับแจ้งความผิดทางไซเบอร์ด้วยFb นี่ควรโดนรัฐเรียกความผิดปรับหนักๆ หาเงินเข้าประเทศ แบบเดียวกับที่ eu ทำได้แล้วนะ
AIทำงานกับทุกเพจที่ไม่จ่ายเงินไงครัฟ