Tags:
Node Thumbnail

สภาผู้บริโภครายงานถึงคดีระหว่างผู้บริโภครายหนึ่งที่ถูกธนาคารฟ้องร้อง หลังจากผู้บริโภครายนี้เป็นเหยื่อของแอปดูดเงิน ติดตั้งแอปจนกระทั่งถูกดูดเงินออกไป และคนร้ายยังเพิ่มวงเงินบัตรเครดิตพร้อมกับถอนเงินจากบัตรเครดิตเป็นเงินสดออกไป

คดีนี้ธนาคารผู้ออกบัตรเครดิตฟ้องร้องเนื่องจากผู้บริโภคไม่ได้ชำระเงินตามรายการที่คนร้ายถอนเงินสดออกไปนั้น หลังจากถูกดำเนินดคี ทางสภาผู้บริโภคสภาผู้บริโภคแต่งตั้งทนายเข้าช่วยเหลือ และศาลแขวงระยองได้พิพากษายกฟ้องเมื่อวันที่ 28 สิงหาคมที่ผ่านมา โดยระบุว่าผู้บริโภคไม่ได้ทำธุรกรรมด้วยตัวเอง และเงินที่โอนออกไปไม่ใช่เงินของผู้บริโภค

ปัจจุบันแนวทางการช่วยเหลือเหยื่อแอปดูดเงินยังพิจารณาเป็นรายกรณีไป โดยเมื่อต้นเดือนที่ผ่านมาธนาคารแห่งประเทศไทยเคยระบุว่า กำลังอยู่ระหว่างการปรับปรุงการบังคับใช้กฎหมาย แต่ก็ยังจำกัดเฉพาะกรณีธนาคารไม่สามารถปิดช่องโหว่ภายใน 1 เดือน ธนาคารจึงรับผิดชอบเต็มจำนวน

ที่มา - สภาผู้บริโภค

No Description

ภาพโดย TheInvestorPost

Get latest news from Blognone

Comments

By: KuroNeko_Hiki
Android Ubuntu Windows
on 18 September 2024 - 12:55 #1322372
KuroNeko_Hiki's picture

ปกติบัตรเครดิตน่าจะคุ้มครองผู้ใช้สินะ แต่นี้โยนเลยสินะ

By: PATalentino
iPhone
on 18 September 2024 - 14:42 #1322394 Reply to:1322372

ถ้าจำไม่ผิดในสัญญาการขอบัตรเครดิต จะระบุไว้เลยว่า "บัตรฯเป็นของธนาคาร(ผู้ถือกรรมสิทธิ์คือธนาคาร) เราเป็นผู้ครอบครอง" ผู้ครอบครอบจะต้องรักษาบัตรแทนธนาคาร ...ถ้าบัตรถูกใช้งานเราไม่ว่าจะด้วยเหตุใดก็ตามแต่(รวมถึงโดนขโมยหรือโดยมิจฉาชีพหลอกด้วย) เราจะต้องเป็นผู้รับผิดชอบในค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นทุกกรณี

ซึ่งอ่านๆแล้วผมเองก็ไม่เห็นด้วยทั้งหมดนะครับ... เข้าใจแหละการรูดบัตรฯคือ ตัวคนใช้เป็นผู้ approve transaction และรับผิดชอบเอง... อย่างน้อยถ้ามีการตรวจสอบในขั้นตอนของธนาคารเพิ่มมาอีกชั้นก็จะปลอดภัยขึ้น

เมื่อก่อน ถ้ามี transaction ที่จ่ายเงินมากผิดปกติ หรือถี่เกินไป... ธนาคารจะโทรมาถามเลยว่า เรามีการใช้บัตรจริงๆตามนั้นหรือเปล่า แต่เดี๋ยวนี้เหมือนจะไม่โทรถามแล้ว

By: Jonathan_Job
Writer iPhone Ubuntu Windows
on 19 September 2024 - 04:16 #1322478 Reply to:1322394
Jonathan_Job's picture

อาจจะเป็นปัญหาหรือข้อจำกัดของข้อกฏหมายไทยที่อนุญาตให้ธนาคารไทยเขียนสัญญาในลักษณะนั้นได้?

เพราะ Visa เองมีกำหนด Zero Liability ไว้ว่า ถ้าผู้ใช้พบ fraud แล้วรายงานภายใน 5 วันทำการ ธนาคาร (issuer) จะต้อง refund เงินคืนให้ผู้ใช้บัตร

Ref: https://usa.visa.com/pay-with-visa/visa-chip-technology-consumers/zero-liability-policy.html

Important things to note
Visa's Zero Liability Policy requires issuers to replace funds taken from your account as the result of an unauthorized credit or debit transaction within five business days of notification.Visa’s Zero Liability Policy does not apply to certain commercial card and anonymous prepaid card transactions or transactions not processed by Visa.

และ

Ref: https://www.visa.co.th/th_TH/products/visa-secure.html

Zero Liability**
วางใจได้ว่าคุณจะ ไม่ถูกคิดค่าบริการที่ไม่ได้รับอนุญาตเมื่อบัตร Visa ของคุณสูญหาย ถูกขโมย ถูกใช้ที่เป็นการฉ้อโกงทั้งออนไลน์หรือออฟไลน์

**นโยบาย Zero Liability ของ Visa ไม่มีผลใช้กับธุรกรรมบัตรเชิงพาณิชย์บางอย่าและธุรกรรมบัตรเติมเงินที่ไม่ได้ระบุตัวตน หรือธุรกรรมใด ๆ ที่ไม่ได้ดำเนินการโดย Visa ผู้ถือบัตรต้องใช้ความระมัดระวังในการปกป้องบัตรของตนเอง และต้องแจ้งให้สถาบันการเงินที่เป็นผู้ออกบัตรทราบโดยทันทีที่มีการใช้งานใด ๆ โดยไม่ได้รับอนุญาต ติดต่อผู้ออกบัตรของคุณสำหรับข้อมูลเพิ่มเติม

แต่ทั้งนี้ผมไม่มั่นใจว่ากฏ Zero Liability ของ Visa นั้น ครอบคลุมเฉพาะในเมกาอย่างเดียวหรือเปล่า หรือว่าคุ้มครองทุกประเทศ

ถ้าเป็นกรณีของผู้ใช้ในเมกา เมกามีกฏหมาย Fair Credit Billing Act (FCBA) คุ้มครองผู้ใช้บัตรอยู่อีกชั้นหนึ่ง โดยกำหนด liability ไว้สูงสุดที่ $50 โดยผู้ใช้จะต้อง report ภายใน 2 เดือน ผมไม่แน่ใจว่าไทยมีกฏหมายคุ้มครองแบบเดียวกันนี้อยู่ไหม แต่คิดว่าอาจจะไม่มี

Ref: https://stjececmsdusgva001.blob.core.usgovcloudapi.net/public/documents/FCBA_Mar_2016.pdf

CARDHOLDER LIABILITY FOR UNAUTHORIZED USE
According to the FCBA, credit card holders are liable for unauthorized use of the card ONLY up to fifty dollars ($50.00)provided that the cardholder notifies the bank/creditor within 60 days of the unauthorized use.

By: willwill
Contributor Android
on 19 September 2024 - 22:57 #1322606 Reply to:1322478
willwill's picture

ในคำพิพากษาศาลของคดีนี้ (ตามลิงค์ที่มา) ศาลปัดตกข้อนี้ในสัญญาไปครับว่าเป็นสัญญาที่ไม่ชอบ

การที่โจทก์จะเอาสัญญาสำเร็จรูปมาอ้างว่าธุรกรรมการเงินที่เกิดขึ้นดังกล่าวถือเป็นการกระทำของจำเลยและจำเลยต้องรับผิดชำระหนี้บัตรเครดิตดังกล่าว ย่อมเป็นการใช้สิทธิที่ขัดต่อ มาตรา ๑๒ แห่งพระราชบัญญัติวิธีพิจารณาคดีผู้บริโภค พ.ศ.๒๕๕๑ ซึ่งบัญญัติว่า "การใช้สิทธิแห่งตนก็ดี ในการชำระหนี้ก็ดี ผู้ประกอบธุรกิจต้องกระทำด้วยความสุจริตโดยคำนึงถึงมาตรฐานทางการค้าที่เหมาะสม ภายใต้ระบบธุรกิจที่เป็นธรรม" อีกด้วย

By: Fourpoint
Windows Phone Android Symbian
on 23 September 2024 - 11:34 #1322846 Reply to:1322478

เมืองไทยรับผิดชอบ1500 บาทไงครับ กรณีจ่ายแบบแตะ paywave หรือจ่ายช่วงเวลา batch processing ที่จะไม่มีการยืนยันกับระบบของธนาคาร ซึ่งมีความเสี่ยงเรื่องการfraud เขาเลยจำกัดยอดเอาไว้

By: Eros on 18 September 2024 - 13:22 #1322378

ต่อไปบริการต่าง ๆ ที่ทำผ่านแอปคงจะใช้งานยากขึ้น

By: ash_to_ash
Android Windows
on 18 September 2024 - 14:10 #1322389 Reply to:1322378

OTP กับ ฺBIOMETRIC น่าจะช่วยได้นะครับ

By: sialsialsial on 18 September 2024 - 13:41 #1322380
sialsialsial's picture

ก็การฝากเงินกับธนาคาร คือการสัญญาว่าธนาคารใจให้เงินคุณตามจำนวนในบัญชี แต่เงินนั้นไม่ใช่ของคุณ เป็นของธนาคาร

แต่พอมีปัญหาเงินหาย ธนาคารกลับจะบอกว่าเป็นเงินของคุณ คุณต้องรับผิดชอบเอง

By: Fourpoint
Windows Phone Android Symbian
on 18 September 2024 - 13:45 #1322381

เคสนี้เป็นบัตรเครดิตผสมด้วย แต่ถ้าทำ e-KYC เองแล้วปฎิเสธได้โดยอ้างว่าไม่ได้ตั้งใจ แบบนี้อีกหน่อยสมัครแอพคงย้อนไปสมัยแรกที่ต้องไปยืนยันตัวที่สาขาด้วยตัวเองเท่านั้นหรือเปล่า?(สมัย internet banking ยุคแรกต้องสมัครที่สาขาเท่านั้น)

By: darkmaster
iPhone Windows Phone Android Windows
on 18 September 2024 - 14:05 #1322388 Reply to:1322381
darkmaster's picture

ตาม Source สาระสำคัญคือ "หลังจากรู้ตัวผู้บริโภคพยายามขอความช่วยเหลือจากผู้ให้บริการบัตรเครดิต แต่ได้รับคำแนะนำให้ไปแจ้งความเพียงอย่างเดียว"เท่ากับว่าธนาคารไม่ดำเนินการในขอบเขตหน้าที่ของตนตั้งแต่แรก และพยายามทำเรื่องให้ยุ่งยากแบบสมัยก่อน

จะแพ้ก็ไม่แปลก

By: Fourpoint
Windows Phone Android Symbian
on 18 September 2024 - 15:34 #1322404 Reply to:1322388

คำถามนะครับ ขอความช่วยเหลือแล้วจะให้ช่วยยังไง? เงินถูกโอนออกไปแล้ว เผลอๆถอนออกไปแล้วจากบัญชีปลายทางด้วย? ถ้าโอนออกไปยังบัญชีธนาคารเดียวกันยังจะพอทำอะไรได้ หรือถ้าแจ้งความทันทีอาจจะอายัดบัญชีปลายทางทัน

แต่แนะนำให้แจ้งความก่อนอันนี้เห็นด้วยนะครับ จู่ๆจะให้ธนาคารไปละเมิดบัญชีปลายทางโดยไม่มีหลักฐานชัดเจน โดนปลายทางฟ้องกลับอีกสิ

อันนี้อาจจะมีpain จาก red tape สมัยก่อน แต่ปัจจุบันเข้าใจว่าเรามีระบบแจ้งความและอายัดบัญชีปลายทางได้ในสองชั่วโมงแล้ว

ไม่งั้นอีกหน่อยคงมีเคส สวมรอยว่าโดนhackแต่จริงๆจงใจเพื่อใช้ช่องโหว่ของเรื่องความรับผิดชอบ หรือต้องทำเรื่องบ้าบอแบบการเรียกร้องให้มีการพักเงินรอตรวจสอบข้ามวันตอนโอนเงินเยอะๆ ธุรกิจเสียหายอีกมหาศาลแน่ๆ ถ้าจะต้องพักเงินจากการโอนแค่หลักหมื่น ย้อนเวลาเหมือนโอนเงินข้ามธนาคารเมื่อสามสิบปีที่แล้วเลยทีเดียว

By: darkmaster
iPhone Windows Phone Android Windows
on 18 September 2024 - 15:56 #1322406 Reply to:1322404
darkmaster's picture

ถ้าคุณพูดถึงบัญชีปลายทาง แสดงว่าคุณเข้าใจคดีนี้ผิดไปอย่างมากครับ

สาระของคดีนี้ มีเพียง 1 ส่วน คือ
"บัตรเครดิตของจำเลย ถูกใช้ในการขอเพิ่มวงเงินและเบิกถอนเงินสด 2 ครั้ง"
ส่วนเรื่องการโอนเงินออกจากบัญชี เกิดขึ้นในคาบเกี่ยวเวลาเดียวกัน แต่ ไม่ได้เป็นสาระสำคัญของคดีนี้

คดีนี้ ธนาคารเป็นโจทย์ ฟ้องเจ้าของบัญชีให้ตกเป็นจำเลย ในคดี "ไม่ทำการชำระบัญชีกดเงินสดออกจาก Credit Card"

เอาแค่นี้ เรื่องอื่นไม่เกี่ยว

ซึ่งจำเลยดำเนินการติดต่อโจทย์แล้วให้อาญัติ Credit Card แต่ โจทย์ปฏิเสธในการดำเนินการ และไม่ดำเนินการใด ๆ ตามขอบเขตความรับผิดชอบ

เมื่อดูองค์ประกอบอื่น ๆ อีก ศาลก็ตัดสินให้ "คำฟ้องตกไป"

By: Fourpoint
Windows Phone Android Symbian
on 23 September 2024 - 11:26 #1322843 Reply to:1322406

ก็ไม่ต่างครับ มีการยืนยันตัวตนผ่าน e-KYC แล้ว โดยปกติถือว่าธุรกรรมถูกต้อง ไม่ต่างการทำ 3d-secure ที่รับ OTP หรือกด PIN เลยเช่นกัน การปฎิเสธยอดทำได้ยาก ยกเว้นจะพิสูจน์ได้ในแง่ว่าเกิดจากความบกพร่องของระบบเอง อันนี้ว่าตามมาตรฐาน card payment โดยทั่วไปไม่ว่าจะเป็น VISA/MASTER นะครับ ไม่ได้พูดถึงข้อกฎหมาย ยอดที่ปฎิเสธได้คือยอดฝ่ายเดียว เช่นการกรอกเลขบัตรเครดิตเฉยๆ แบบนี้ปฎิเสธง่ายและโยนเป็นภาระของทางร้าน merchant ในการพิสูจน์เอง และที่แม้แต่ที่คคห.ข้างบนยกมา ก็รับผิดชอบให้แค่ 50USD หรือ 1500 บาทในบ้านเรา ซึ่งเคสเอาไปแตะ paywave แบบโกงๆที่ญี่ปุ่น มีเคสโกงติดๆกันแบบทำต่อเนื่องช่วงเวลาที่ระบบหยุดเพื่อทำ batch processing หลายแสนเยน

ถ้าการทำ e-KYC ยังไม่สามารถใช้ยืนยันธุรกรรมได้ เพราะมีบรรทัดฐานนี้ก็เตรียมปวดหัวกับการป้องกัน หรือต้นทุนการทำธุรกรรมที่จะเพิ่มขึ้น เพราะเราจะไม่สามารถพิสูจน์กลับได้ว่า ผู้ใช้จงใจใช้แอพที่ดัดแปลงมาเพื่อยกเป็นข้ออ้างในการปฎิเสธยอดหรือไม่?

ความยากคือกรณีนี้ไม่ใช่การปฎิเสธยอดกับร้านค้าภายนอก แต่เป็นการกด cash advance แล้วโอนต่อทันทีนี่แหละ ถ้าเป็นการโกงเพื่อรูดบัตรซื้อของ เงินมันยัง hold ไว้อยู่

By: lancaster
Contributor
on 23 September 2024 - 13:15 #1322861 Reply to:1322843

เอ เหมือนผมจะหาไม่เจอ ที่ว่าผู้ใช้ทำ e-KYC เองแล้วปฎิเสธได้โดยอ้างว่าไม่ได้ตั้งใจ นี่มีเขียนไว้ตรงไหนนะครับ

By: willwill
Contributor Android
on 19 September 2024 - 23:02 #1322607 Reply to:1322404
willwill's picture

คำพิพากษาศาลในคดีนี้เขียนไว้ครับว่าควรจะช่วยอย่างไร

เมื่อโจทก์ได้รับแจ้งเหตุก็ไม่ได้ดำเนินการอื่นใดนอกจากแจ้งให้จำเลยไปดำเนินการแจ้งความติดตามเรื่องด้วยตนเอง ทั้งที่โจทก์เป็นผู้ประกอบธุรกิจให้บริการทางการเงินและเป็นเจ้าของเงินที่ถูกคนร้ายลักไป โจทก์สามารถสร้างเครือข่ายร่วมกับธนาคารหรือสถาบันการเงินอื่นเพื่อดำเนินการระงับยับยั้งหรืออายัดเงินที่ลูกค้าผู้ถือบัตรเครดิตแจ้งเหตุว่าถูกมิจฉาชีพหลอกลวงไว้ชั่วคราวเพื่อทำการตรวจสอบได้โดยง่าย แต่กลับไม่รวมกลุ่มกันเพื่อดำเนินการยกระดับการป้องกันภัยทุจริตดังกล่าว โดยปล่อยให้เป็นภาระของจำเลยซึ่งเป็นผู้บริโภคขวนขวายติดตาม ทั้งที่ในแนวนโยบายการบริหารจัดการภัยทุจริตจากการทำธุรกรรมทางการเงินของธนาคารแห่งประเทศไทย เอกสารหมายเลข ล.๒ ระบุในเอกสารแนบ ๑ การบริหารจัดการภัยทุจริตจากการทำธุรกรรมการชำระเงินผ่านบัตร ข้อ ๓.๒ กำหนดชัดเจนวา "กรณีเหตุการณ์ทุจริตที่มีผู้ถือบัตรได้รับความเสียหายที่เกี่ยวข้องกับการทำธุรกรรมชำระเงินผ่านบัตร และมีเหตุอันเชื่อได้ว่าไม่ได้เกิดจากความผิดของผู้ถือบัตรหรือผู้ถือบัตรไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง ผู้ให้บริการต้องเยียวยาความเสียหายให้แก่ผู้ถือบัตรอย่างครบถ้วน"

By: keanus
Android
on 18 September 2024 - 17:37 #1322431

ความจริงแล้ว เรื่องแกงค์ Call Center
ธนาคารควรจะ Action มากกว่านี้
Transaction ทุกอย่างธนาคารเห็นหมดแต่ไม่ทำอะไร ไม่ Blocked ไม่จัดการ ความผิดปกติ บัญชีไหนที่โอนเงินเข้าอยู่ไม่เกิน1นาทีแล้วโอนต่อๆกันไป ถ้า Tracking จริงๆ ก็น่าจะจับได้แล้วว่ามีบัญชีไหนน่าสงสัยบ้างรวมถึงวงเงินที่วิ่งแต่ละครั้งแต่ละวัน แต่ธนาคารเลือกที่จะไม่จริงจัง

By: Fourpoint
Windows Phone Android Symbian
on 23 September 2024 - 11:32 #1322845 Reply to:1322431

โอนต่อๆกันภายในไม่กี่นาทีนี่ธรรมดาของการทำธุรกรรมเลยครับ ผมโอนเงินข้ามบัญชีตัวเองเพื่อไปจ่ายบัตรเครดิต หรือจ่ายบางอย่างที่มีสิทธิพิเศษเฉพาะbank เป็นประจำ และยอดก็หลักหมื่น ถ้าคิดเหมารวมง่ายๆคงใช้งานลำบากอีกเยอะเลย

By: Mediumrare
Android Windows
on 18 September 2024 - 18:54 #1322440

ทนายเจ้าช่วยเหลือ

ทนาย เข้า? ช่วยเหลือ

By: maxmin on 18 September 2024 - 21:44 #1322452

แอปดูดเงินมีจริงๆหรอ

By: lew
Founder Jusci's WriterMEconomics Android
on 19 September 2024 - 00:05 #1322471 Reply to:1322452
lew's picture