Shuhei Yoshida อดีตหัวหน้า PlayStation Studios ที่เกษียณอายุจากโซนี่ไปเมื่อปลายปี 2024 ไปออกรายการช่อง Kinda Funny และตอบคำถามที่หลายคนสงสัยกันมายาวนาน
ประเด็นสำคัญคือ Yoshida พูดถึง PlayStation Vita เครื่องเล่นพกพารุ่นที่สองของโซนี่ โดยให้เหตุผลของการล้มเหลวว่าเป็นเพราะฝั่ง PlayStation Studios ไม่มีกำลังทีมงานมากพอมาทำเกมลง PS Vita ให้ เนื่องจาก Vita ออกมาช่วงปลาย PS3 เป็นรอยต่อยุค PS4 ทำให้โซนี่เลือกทำเกมลง PS4 ที่เป็นตลาดหลัก จึงต้องตัดสินใจยุบโครงการทำเกมลง Vita หลายโครงการไป
Yoshida ชื่นชมนินเทนโดที่เลือกทุ่มกำลังทั้งหมดไปที่ Nintendo Switch เพียงแพลตฟอร์มเดียว ไม่ต้องแยกกำลังไปทำคอนโซล-เครื่องพกพา ทำให้ผลิตเกม first party ออกมาได้อย่างเต็มที่ ส่วนเครื่อง PlayStation Portal เขาเป็นกลุ่มที่สงสัยว่าเครื่องมันจะขายได้เหรอ และบอกทีมงานไปว่ามันจะขายได้ก็ต่อเมื่อเราตั้งราคา 199 ดอลลาร์เท่านั้น ซึ่งทีมงานก็สามารถทำได้จริงๆ แล้วก็ขายดีเกินคาด
นอกจากเรื่องซอฟต์แวร์เกม Yoshida ยังเล่าประเด็นฮาร์ดแวร์ของ Vita หลายเรื่องด้วย
- การตัดสินใจใช้เมโมรี่การ์ดเฉพาะตัวของ Vita เป็นสิ่งที่ผิดพลาด เพราะผู้เล่นไม่อยากจ่ายค่าเมโมรี่การ์ดราคาแพงเพิ่มอีก
- ทัชแพดด้านหลังเครื่องเป็นสิ่งที่รู้สึกดีมากๆ ทีมงานทุกคนเลยมองว่านี่คือฟีเจอร์ที่ควรมี แต่สุดท้ายไม่มีใครใช้ และกลายเป็นการเพิ่มต้นทุนฮาร์ดแวร์
- เครื่อง Vita ต้นแบบมีฟีเจอร์ต่อจอนอกด้วย แต่ถูกตัดออกไปด้วยเหตุผลเรื่องลดต้นทุน แม้ลดได้แค่ไม่กี่เซนต์ก็ตาม
ประเด็นอื่นๆ ที่ Yoshida พูดถึงคือ
- เหตุผลที่เกม Bloodborne ไม่เคยถูกรีเมคหรือรีมาสเตอร์ใดๆ แม้แฟนๆ เรียกร้องกันมาก เขาสันนิษฐาน (เอาเอง) ว่าน่าจะมาจากผู้กำกับเกม Hidetaka Miyazaki รักเกมนี้มาก จนไม่อยากให้คนอื่นมาอัพเดตเกม แต่ตัวเขาเองก็ยุ่งกับโปรเจคเกมอื่นๆ จนไม่สามารถมาทำเองได้
- ประเด็นเรื่องโซนี่พยายามทำเกม live service เขาบอกว่าถ้าหากเขายังเป็นหัวหน้า PlayStation Studios อยู่ เขาจะพยายามทัดทานฝ่ายบริหารของโซนี่ที่จะไปในแนวทางนี้ แต่ตอนนี้ตำแหน่งนี้เป็นของ Hermen Hulst ซึ่งฝ่ายบริหารคงบอกว่า ให้ทำเกมเล่นคนเดียวแบบเดิม แต่เพิ่มงบเข้ามาให้ทำเกม live service ขนานกันไปด้วย
ที่มา - VGC
Comments
เครื่อง Vita เป็นเครื่องที่ผมจับแล้วยังรู้สึกได้ถึงความหนักแน่น และมาก่อนกาลของมันมาก ยังเป็นเครื่องเก่าที่ยังตามหาสีแปลกๆ อยู่เรื่อยๆ ถ้าได้สภาพดีๆ สีที่ชอบก็เอา เพราะ Community ของเครื่องก็แข็งแกร่งมาก มีอะไรแปลกๆ มาให้เล่นเรื่อยๆ สำหรับคนที่ root แล้วมีของเล่นบานเลย แถม Emulator ของ PSP ยังมีการจำลองที่ดีกว่าเล่นบนเครื่องจริงอีก เพราะปุ่มบน Vita มันจับถนัดกว่า แถมลื่นปรี๊ด ไม่มีปัญหาภาพกระตุกเหมือน Emulator บน Android ในเครื่องระดับสองหมื่นด้วย แถมถ้าใส่ Filter ดีๆ ภาพสวยกว่า run บนเครื่องจริงอีก เรียกว่าเป็นเครื่องนึงที่ซื้อมาแล้วรู้สึกว่ามันยังทันสมัยถึงทุกวันนี้ นอกเหนือจาก New 3DS ที่นั้นเข้าขั้นของ Rare ไปแล้ว
จริงๆเยอะกว่านั้นนะ
โซนี่จะเทตั้งแต่ PSP แล้วแต่ได้มอนฮันมาต่อชีวิตไว้ เลยยังขายตลาดญี่ปุ่นได้ แต่ตลาดนอกญี่ปุ่นยังสาหัส(ขนาดมี GTA3 ,FF7,Metalgears ฯลฯเป็นเกมชูโรงช่วงแรก)
พอมา PS Vita ยังคิดมักง่ายว่า ทำแบบเดิมก็ขายได้แถมอัดสเป็กราคากะเกทับนินไว้เต็มที่ แต่กลายเป็นยิงใส่ขาตัวเอง
PSVita เหมือนเป็นฟางเส้นสุดท้ายของ sony เกมฝั่งญี่ปุ่นที่แพ้ให้กับ sonyเมกา
เครื่องเหมือนจะถูกแต่เล่นบังคับเมมการ์ดสุดแพง(แถมใช้กับอยทางอื่นก็ไม่ได้)ไม่งั้นก็เซฟเกมไม่ได้
มีซิมเนต3G กลายเป็นของสิ้นเปลือง กินแบต
สเปคแรงแต่ฮาร์ดแวร์เดียวกับมือถือ เลยเกิดการเปรียบเทียบได้ง่าย แป็บๆเจอมือถือแซงไปไกล
ขายตลาด Otaku กลายเป็นว่ากลุ่ม Otaku ย้ายไป Gacha Smartphone
ตลาดต่างประเทศขายเกมไม่ออก ส่วนตลาดญี่ปุ่นยิ่งออกเหมือนยิ่งรอวันตายโดยเฉพาะค่าย/ซี่รี่ย์เกม ที่จงรักกับ sony ไม่เคยออกเกมเครื่องนิน (บางค่ายกว่าจะยอมมานิน ก็จะออก Switch 2 แล้วเนี่ย)
ช่วงแรกๆเวลารายงานยอดขายเครื่อง Vita ต้องเอายอด PSP มารวมกัน
เสีย มอนฮัน 4 ไปให้ 3DS
สถานะปัจจุบันตลาดญี่ปุ่น เหมือนเสียให้กับนินเทนโดไปแล้ว ประมาณถามเด็กประถม จะรู้จักนินเทนโดแต่ไม่รู้จักเพลย์สเตชั่น
มันเหมือน วินโดว์ในมือถือ โอ้วว้าว ต่อไปก็ทำงานตรงนี้เลย
แต่ส่วนใหญ่ ต้องการ "จอใหญ่" เล่นเกมภาพสวยแต่จอเล็ก เขาไปเน้น PS แทนดีกว่า
ปัญหาหลักคือไม่มีเกมให้เล่นนั่นแหละ
แถม hardware ทำมาต้นทุนแพงเละเทะมาก touch ด้านหลังไร้ประโยชน์ กล้องก็ไม่รู้มีทำไม แถมมีทั้งหน้าหลังอีกต่างหาก แทนที่จะเอาไปทำปุ่ม L2 R2 จะยังดีซะกว่าจะได้เล่นเกม PSX และพวกเกม PS2 ที่พอร์ต มาสะดวกกว่านี้หน่อย
หลายคนพูดไปหมดละ 55คิดเหมือนเดิม ทำเหมือนเดิม แต่โลกมันไม่เหมือนเดิม คิดว่าแค่ออกเครื่องสเปคแรงมา เดี๋ยวก็มีคนทำเกมลงเอง แต่เครื่องราคาแพง เกมราคาแพง เมมราคาโคตรแพง ในขณะที่ Smartphone สเปคแรงขึ้นทุกปี (2-3 ปีก็ตามทันแล้ว) เกมฟรีเน้นจ่ายในแอพ เมมราคาถูก
จะผูกขายเมมคนเดียวแบบ Pro Duo ที่ไปไม่รอด (แต่ก็จะทำอีกอยู่ดี)
ก็งงรู้ทั้งรู้ว่าไม่มีปัญญาทำเกมมาลงแต่ก็ยังจะเข็นเครื่องรุ่นใหม่ออกมาเพื่อ ซื้อมาทับกระดาษเหรอเครื่องเกมที่ไม่มีเกมให้เล่นเนี้ย
Sony นี่แม่งไม่เข็ดเรื่อง Memory card จริงๆ
เมื่อก่อนกล้อง Cybershot ดีๆหลายรุ่นก็ตายเพราะ MemoryStickปัจจุบัน Alpha ก็ดันผ่าไปใช้ CFexpress Type A ที่ไม่มีใครใช้ (เจ้าอื่นใช้ Type B กันหมด) ราคา Type A ก็แพงกว่า Spec ก็กากกว่า ไม่รู้อะไรดลใจให้ผ่าไปใช้ Type A
ยังดีหน่อยที่ยังใช้ SD UHS-II ได้ แต่ถ้าอยากใช้ video bitrate สูงๆ หรือใช้ All-I ยังไงก็หนีไอ้เจ้า Type A ไม่พ้น
ผมว่าเหตุผลคือ Type A มันเล็กกว่าแหละครับ
ใช่ครับ นิดนึง เอาจริงๆผมว่ายัด Type b ลง Body alpha ได้ไม่ลำบาก เพราะค่ายอื่นๆก็ทำกันได้
แต่นั้นแหละ ถ้าเหมือนคนอื่น ก็ไม่ใช่ชาวอารยธรรมสิ
ผมว่าเค้ารอ อัพ type B อีกทีให้ซื้อใหม่อีกรอบ 😆