ความคืบหน้าของโครงการแท็บเล็ตเพื่อการศึกษาหรือ OTPC ครับ หลังจาก บริษัทสโคปส่งแท็บเล็ตล็อตแรก 2,000 เครื่องมาตั้งแต่เดือนก่อน ทางคณะกรรมการของกระทรวงไอซีทีก็ดำเนินการตรวจรับตามระเบียบราชการ แต่เจอปัญหาเอกสารเลยล่าช้ามาเรื่อยๆ จนเสร็จเมื่อวันที่ 12 มิ.ย. ที่ผ่านมา
ผลการตรวจรับของคณะกรรมการบอกว่าสเปกที่กำหนดในราคาเครื่องละ 82 ดอลลาร์ถือว่าดีมาก แต่ยอมรับว่ามีปัญหาเรื่องซอฟต์แวร์ เพราะซอฟต์แวร์เพื่อการศึกษาเขียนเพื่อคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะเป็นหลัก เมื่อนำมาแปลงให้ทำงานบนแท็บเล็ตได้จึงออกมาไม่ดีนัก โดยปีหน้าจะมีโครงการให้ครูแข่งขันพัฒนาซอฟต์แวร์การเรียนการสอนต่อไป
เนื่องจากกระทรวงไอซีทีตรวจรับช้า ทำให้ต้องขยายสัญญาการผลิตให้บริษัทสโคป ว่าต้องส่งเครื่องทั้งหมด 400,000 เครื่องในวันที่ 3 ส.ค. นี้ (ขยายอีก 25 วัน)
ที่มา - ไทยรัฐ
Comments
วันก่อนเห็นข่าวจากไทยรัฐเหมือนกันว่าแท็บเล็ตบางส่วนเจ๊งตั้งแต่ยังไม่ใช่ สัมผัสไม่ไปมั่ง ไม่ตรงจุดมั่ง
มีประกัน 2 ปี คงไม่เป็นไรมั้ง
samsung ใหญ่แค่ใหน ?https://youtu.be/6Afpey7Eldo
ต่อให้ประกันตลอดอายุการใช้งานแต่รับ ๆ ส่ง ๆ ซ่อมก็ไม่ไหวนะครับ
on site เปลี่ยนเครื่องถึงที่ รร. นาน 1 ปี ช่อมภายใน 5 วันทำการ โดยมีเครื่องสำรองระหว่างช่อม 1% ของที่ขายไม่ไช่เหรอครับ
samsung ใหญ่แค่ใหน ?https://youtu.be/6Afpey7Eldo
เอาข้อมูลที่ว่ามาจากไหนครับ แล้วคิดว่ามันทำได้จริง?
อย่างที่คิดเอาไว้ปัญหาไม่ใช่ H/W แต่เป็น Content คนที่บอกให้รอดูไปก่อนไม่รู้ยังอยู่แถวนี้หรือเปล่า
หา link เก่าไม่ใด้ เอา link ใหม่ไปละกัน ...
http://www.thairath.co.th/content/edu/235477
"ผู้ขายต้องรับประกันอุบัติเหตุ อุบัติภัยเป็นระยะเวลา 2 ปี นับตั้งแต่วันตรวจรับ พร้อมทั้งต้องให้บริการ ณ สถานที่ติดตั้ง (One Site Service) เป็นเวลาอย่างน้อย1ปี แต่ในกรณีที่แท็บเล็ตเครื่องหนึ่งเครื่องใดเสียใช้การไม่ได้ ผู้ขายต้องเปลี่ยนเครื่องใหม่ภายใน 5 วันทำการ นับจากวันที่ผู้ขายได้รับแจ้งและต้องเข้าไปตรวจสอบและบำรุงรักษาทุก 6 เดือนอย่างน้อยตลอดระยะเวลา 1 ปี นับตั้งแต่วันส่งมอบ รวมทั้งต้องจัดให้มีศูนย์บริการตอบปัญหาการใช้งานและแจ้งเครื่องมีปัญหาที่สามารถติดต่อได้ 24 ชั่วโมง อย่างไรก็ตามในกรณีที่เป็นการจัดซื้อจัดหาจำนวนมากกว่า 1,000 เครื่องในคราวเดียวกันผู้ขายต้องจัดเครื่องสำรองให้แก่ผู้ซื้อ จำนวนไม่น้อยกว่าร้อยละ 1 ของจำนวนที่จัดซื้อในคราวเดียวกัน"
samsung ใหญ่แค่ใหน ?https://youtu.be/6Afpey7Eldo
http://www.blognone.com/node/32874
อันนี้ครับ
Coder | Designer | Thinker | Blogger
ไม่ไหว ครับ ซื้อมาแล้วไม่ได้ใช้
2 เดือน ส่งเคลม (เคลมแต่หละครั้ง ล่อไป 30-60 วัน)
แล้วซื้อมาทำไม (ได้แต่ดูบิลเคลมสินค้า และนับเวลาไปวันๆ เมื่อไรเครื่องจะได้ใช้เนีย??)
ไม่อยากจะคิดเลยว่านี้มันโครงการของรัฐ (รู้ๆ กันอยู่ว่ารัฐ มันงานกันยังไง)
........รอดูอยุ่ห่างๆ.......มันจะได้อยู่ที่พูดหรือเปล่า(ผู้รับผิดชอบทั้งหลาย)
ผมว่าเปิดให้นักพัฒนาภายนอกร่วมพัฒนา software ด้วยดีกว่าทำเป็น OTPC market ไปเลย
ผมเชื่อว่ามีนักพัฒนาอยากจะทำ software ให้เด็กฟรีๆ อยู่เยอะนะ ผมเองก็อยากทำให้เหมือนกัน
ในนั้นมี App.store แล้วครับ
Coder | Designer | Thinker | Blogger
ผมคนหนึ่งรอร่วมพัฒนา software เหมือนกัน.......รอ....รอ...รอ..ๆๆๆ
จริงๆ พวกนี้ทำได้เลยไม่ต้องรอรัฐนะครับ คือแท็บเล็ตเอกชนคงมีออกมาแข่งเยอะ และทุกตัวคงเป็น Android หมด ดังนั้นสันนิษฐานว่าทำบน Android และเน้นผู้ใช้กลุ่มเด็กประถมก่อน ก็ไม่น่าเสี่ยงอะไร
ส่วนช่องทางการตลาดเบื้องต้นก็เน้นไปที่แท็บเล็ตเอกชน หรือผู้ปกครองซื้อให้ลูกก่อน พอตลาดรัฐเปิดค่อยลุยต่อไปอีกที
มีเว็บนึงเริ่มแล้วครับ ไม่รู้เหมือนรีวิว หรือ เป็น app store บนเว็บ
แต่ยังโหลดอะไรไม่ได้ แต่เห็นหน้าตาคร่าวๆ แล้ว
สอบถามนิดนึงครับ อันไหน ถูกอะครับ หรือว่าได้ทั้งคู่ครับ "ซอฟต์แวร์" หรือ "ซอฟท์แวร์"
ซอฟต์แวร์ ครับ
ขอบคุณครับ
ซอฟต์แวร์ครับ
แต่ไม่โครซอฟท์ เป็นชื่อเฉพาะ ใช้ตามบริษัทใช้
May the Force Close be with you. || @nuttyi
กว่าจะได้ใช้จริงๆ คงประมาณเทอมหน้าแน่ๆ
ไม่มีลายเซ็น
อิ่มกันเลยใหมจ๊ะ
555 ราคานี้อิ่มมากเลย
อิ่มฮับคุณครู 55
ผมสงสัยนิดนึงครับ
ซอฟต์แวร์ที่แปลงมาจาก desktop มันให้ user experience ที่ห่วยเมื่อเอามารันบน tablet
มันเกี่ยวกับ อิ่ม / ไม่อิ่ม ตรงไหนครับ (ผมเข้าใจว่าพูดถึงเรื่องการทุจริต แต่ผมไม่รู้ว่ามันเชื่อมโยงกันยังไงครับ)
เอาซอฟต์แวร์มาใช้ก็ต้องเสียงบประมาณนะครับ ไม่ฟรีแน่ ๆ
ทำไมไม่ทดสอบก่อนว่าใช้กับ tablet ได้หรือเปล่าตั้งแต่ตอนแรก
เสร็จแล้วก็ต้องเสียงบประมาณไปจัดทำให้ใช้กับ tablet ได้อีกที
อ้อครับ ... ข้างล่างมีคำตอบแล้วครับ
มันฟรีครับ แต่ผมก็ไม่คิดว่ามันฟรีหมดหรอกนะ แต่ยังไม่เข้าใจว่าเกี่ยวอะไรกับการทุจริตอยู่ดี
ก็แค่พอร์ตมาไม่สมบูรณ์ งานมันลนตูดน่ะครับ
ถ้าไม่มีอะไรป้อนให้อิ่ม ก็ไม่น่าจะรีบร้อนสั่งมาขนาดนี้นะครับ
kurtumm
ผมไม่ได้เข้าข้างรัฐบาลนะ ... ข้อเข้าเรื่องการเมืองตรงๆ ครับ
แต่ผมมองว่าทุกอย่างมันก็ต้องมีรุ่นบุกเบิก และรุ่นต่อๆ ไป
คำถามคือ อะไรที่เรียกว่ารีบ? เพราะโครงการนี้มันไม่ใช่เพิ่งมามีรัฐบาลนี้นะครับ ถ้าสมมติว่ามีการทุจริตจริงๆ ... ผมไม่เข้าใจว่ามันเกี่ยวอะไรกับการรีบทำ รีบสั่งซื้อ
อีกอย่าง ... โดยพื้นฐานแล้ว กระบวนการทุจริตยิ่งนานยิ่งอิ่มครับ ดูได้จาก BTS เป็นตัวอย่างที่รัฐบาล ปชป. เตะถ่วงจนไม่รู้จะถ่วงอีท่าไหนแล้วก็ยังเตะถ่วงไปเรื่อยๆ
ผมไม่ได้รังเกียจอะไร ปชป นะ ... แต่เคยให้โอกาสแล้ว ... แล้วทำให้ผมผิดหวังมาก กับการเชื่อน้ำคำของชายหลอกลวง
เศร้า ... /me: นั่งทรุดกับพื้นในท่าพับเพียบ
netbook ubuntu คราวก่อนหลายๆ โรงเรียนยังเก็บ lock ไว้ในตู้อยู่เลยครับ
? มีด้วยหรือครับ ตอนนั้นผมยังไม่ได้ตามข่าว
พอมีข้อมูลมั้ยครับ
โครงการ OLPC(One Laptop per Child) สมัยพี่นายกคนปัจจุบันน่ะครับ จำได้ว่าแจกให้โรงเรียนไปเยอะอยู่น่าจะหลายแสนตัว เป็นรุ่น Dell Latitude 2100 ซึ่งผมลองหาข่าวดูตอนนี้หายไปหมดเลยครับแปลกดี
ใครงการที่คณะรัฐประหารยุบทิ้งไปโดยบอกว่าไม่สนับสนุน opensource เพราะไม่มีคุณภาพ รึเปล่าครับ?
ขอบคุณครับ
คือในตอนแรกผมก็ทราบมาว่าโครงการมันมีมานานแล้วตั้งแต่รัฐบาลโน้นนนนนน แต่ไม่นึกว่ามีการแจกจ่ายไปเยอะขนาดนี้
ยังอยู่ดีครับ ต้องถามไปที่ คณะวิศวะ มช. เพราะทางนั้นทำวิจัยเกี่ยวกับการใช้ OLPC แล้วได้ผลสรุปที่เป็นที่มาของ Tablet ป.1 ครับ
คำตอบของข้า คือ ประกาศิต
นั้นเป็น 1 ในเหตุผลที่ otpc ต้องแจกเป็นของส่วนตัวของเด็กครับ
samsung ใหญ่แค่ใหน ?https://youtu.be/6Afpey7Eldo
ถ้าของแพงผมจะไม่สงสัยเลย ว่าส่วนต่างราคาจะไปไหน
แต่ขายราคานี้ เงื่อนไขการรับประกันแบบนี้
แล้วยังมีปัญญาเอาส่วนต่างไปให้นักการเมืองได้
ผมว่าให้เขาไปเถอะ
แค่สงสัยว่าได้ข้อมูลแต่ใดมานั่งเทียนคิดเอง? หรือนักการเมืองทุกคนเป็นเหมือนตัวเอง?
ส่วนใหญ่เค้าก็เขียนใหม่กันหมดไม่ใช่หรอ แปลงจากคอมทำไม?
สื่อการสอนพวกนี้ทำกันมานานมากแล้ว ส่วนใหญ่ใช้แฟลชทำ แล้วก็ใช้ทรัพยากรหน่วยความจำกันอย่างไม่ยั้งด้วยเพราะทำกันไว้เล่นบนคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ ที่สำคัญคือ event mouse ต่างๆมันทำมาเพื่อเมาส์ ไม่ได้สร้างมาให้ทำงานกับทัชสกรีน เมื่อ convert ไปลงบนแอนดรอยด์แบบชุ่ยๆ ผลที่ได้ก็คือ UI ที่ไม่เหมาะกับอุปกรณ์ การใช้หน่วยความจำที่เกินกว่าเครื่องจะรับได้ ยิ่งอนิเมชั่นมากก็กินซีพียูหนักเข้าไปอีก สุดท้าย event mouse ที่ไม่ได้โดนแปลงก็จะทำงานได้แบบโง่ๆ ผมเดาว่าทำกันแบบนี้ ชุ่ยมากๆ
+1 เห็นด้วยครับ ผมคิดเอาเองว่าคนที่รับช่วงงานตรงนี้แอบฉลาดว่าตัวเองจะไปเอางานจากที่อื่นมา แล้วมาแปลงลงแท็บ แล้วบอกว่าผมทำเสร็จแล้วนะ ผลที่ออกมาคือชุ่ย (งานง่ายๆเงินสบาย แปลงมันเยอะๆเลย)
แม่นอย่างกับตาเห็น
คำตอบของข้า คือ ประกาศิต
มันจะไหวเหรอครับ สเปกแค่นี้แล้วมารัน flash แค่ pc มันยังจะไม่ไหวล่ะ สงสัยยังไม่อิ่ม
ผมก็เอะใจตั้งแต่ไปลองเล่นดูว่า flash มันจะ run ได้เหรอ หรือตอนแรกเอามาใช้เพราะ แค่รู้มาว่า android run flash ได้
ปัญหาคือเรื่องระยะเวลา กะจะเอาให้ทันภายในเทอมนี้ แต่คอนเทนต์ยังทำไม่ทัน ไม่ได้วางแผนงานไว้ดี เลยเล่นเอาง่ายเข้าว่าไว้ก่อน แถมเรื่องระบบ LSystem ที่คุยไว้ก็ยังไม่เปิดเผยอะไรออกมาเลย จริงๆแล้วน่าจะเปิดเผยให้เป็น Open ให้คนไทยช่วยกันทำ App ไปลงเลยจะดีกว่า ทำให้เป็นที่สงสัยว่ากะจะเก็บไว้ให้บริษัทนี้ทำ App ให้คนเดียวเลยหรือปล่าว
+1
เอาใจช่วยกับโครงการนี้ครับ อยากช่วยพัฒนาซอฟต์แวร์การศึกษา
ครูเขียน ppt ลงแท็บเล็ตสินะ #เอะอะก็พาวพ้อย
Content นี่ของฟรีนี่ ไม่ได้จ้างเขาทำก็อย่าบ่นสิ
ผมว่า content มันสำคัญกว่าตัวแท็บเล็ตอีกนะ มันจะมีประโยชน์มากน้อยมันอยู่ตรงนี้แหละ
ทำไมถึงไม่ลงทุนกับส่วนนี้ด้วย ไม่เข้าใจ :/
+1 ถ้า Content ไม่ดีมันก็แค่ tablet จีนกิ๊กก๊อกอันนึงเท่านั้นเอง หรือคิดแค่ว่ายืนยิ้มแจกๆ ไปได้ผลงานแล้ว ที่เหลือหน่วยงานราชการเอาไปทำต่อเอง
ไหนๆก็กล้าทุ่มซื้อเครื่องแล้ว ทุ่มแข่งขันพัฒนา software ด้วยเลยดีกว่า
ของที่มันจับต้องไม่ได้ มันเอามาหาเสียงลำบากครับ
+1 ครับ
รอดูความชัดเจนเรื่อง Content แต่ดีหน่อย Content Update ได้ง่าย ค่อย ๆ ทยอย ๆ ปล่อยออกมาเป็นตอน ๆ ได้ไม่เหมือน Hardware ที่แก้ไขเปลี่ยนแปลงได้ยาก
ผมดูแล้วอย่างน้อยก็มีหนังสือเรียนครบ (น่าจะ PDF) นักเรียนไม่ต้องแบกหนังสือหลังแอ่นแล้ว
หรือแต่ Content ที่สร้างความแตกต่างคือ Interactive และ Free Style ทั้งหลายคือตัว Content มีระดับหนึ่งแล้ว เพียงแต่ยังไม่เหมาะกับ Tablet ที่ไม่มี Mouse และเล่น Flash ได้ไม่ดี
ตอนนี้คงต้องทนใช้ไปก่อน เท่าที่ใช้ได้
ส่วนการพัฒนา Content ก็ทยอยแปลง หรือสร้างใหม่เลียนแบบของเดิมทำเป็น HTML 5 หรือ Native ก็ว่ากันไป
ปัญหาอยู่ที่งบประมาณยังไม่ตั้งขึ้นมา เข้าใจว่ากำหนดรูปแบบไม่ลงตัวว่าจะเป็นลักษณะใด จึงให้เอกชน (3 คน)
เอากล่อง (เครดิต) ไปก่อน ถือว่าช่วยสนับสนุนการศึกษา เห็นใจทีมงานมาก แต่เชื่อเถอะ ถ้าให้งบประมาณให้เอกชนนี้
ก็คงมีข้อกล่าวหาอีกว่า เอื้อประโยชน์ ทั้ง ๆ ที่สมควรจะได้ เพราะเขาช่วยลงแรงให้ตั้งแต่แรก
โครงการนี้ยังไงก็ต่อยอดแน่ ๆ ไม่ได้ทำแล้วทิ้งกินมูมมามเหมือนบางรัฐบาลแน่นอน ผมเชื่อผลงานที่ผ่านมา(ขออภัยที่พาดพิงรัฐบาลเก่าบางรัฐบาล)
html5 น่าจะเป็นคำตอบ?
ลองเขียนละยังครับถึงบอกว่าคือคำตอบ
แล้วลองหรือยังครับ
คำตอบของข้า คือ ประกาศิต
ผมไม่เชื่อว่าการขอความร่วมมือ หรือทำอะไรแบบนี้จะทำให้ได้เนื้อหาดีๆ ในแท็บเล็ตครับ
คนทำแอพให้มันต้องเลี้ยงตัวได้ มันรายได้มีกำไร งานดีๆ มันถึงจะพัฒนางานต่อไป มีอะไรใหม่ๆ ออกมาครับ
ถ้าลองดูเนื้อหาและความน่าสนใจจากบริษัทที่เชี่ยวชาญด้านนี้จริงๆ จะรู้เลยว่าของเรามันก็เหมือนหนังสือธรรมดาที่มายัดลงเครื่องเท่านั้นแหละ
http://www.touchpress.com/
(อยากให้ติดต่อหรือมีใครแปลแอพจากค่ายนี้จริงๆ มันใช้สอนเด็กได้เยอะมาก สนุกด้วย)
content มีปัญหาตอนนี้แต่บอกว่าปีหน้าจะมีการแข่งขันสำหรับครู ? ทำไมผมอ่านแล้วรู้สึกว่ามันคนละเรื่องเดียวกัน เหมือนตอบคำถามเลี่ยงประเด็นอย่างไรก็ไม่รู้
เข้าใจว่าการแข่งขันที่จะจัดขึ้นเป็นหนึ่งในทางเลือกในการพัฒนา content ของปีหน้านะครับ แต่ไม่น่าจะใช่ทางแก้ปัญหาที่ตรงจุดอย่างยั่งยืนเลย ที่ผมสนใจคือจะทำยังไงให้ content มีคุณภาพโดยเริ่มต้นตั้งแต่ตอนนี้มากกว่า เพราะไม่แน่ว่าครูที่แข่งปีหน้านั้นจะทำ content ออกมาดีเพียงพอจนเหมาะสมกับการเรียนการสอนเสมอไป
ตอบแบบนี้ผมงงเหมือนกันนะ ถ้า 2,400 บาทไม่ได้ทั้ง hardware และ software ที่ดีแล้วต้องกี่บาทถึงจะได้ และราคามันต่างจาก 2,400 บาทมากหรือน้อยแค่ไหน ถ้ามันต่างไม่มากแล้วทำไมจึงไม่เลือกที่ราคานั้น ? จะมีประโยชน์อะไรที่เด็กมี tablet แต่ไม่มี content ในการเรียนการสอน หรือจะให้เด็กป.1 ค้นหาข้อมูลเอาจาก internet เองผ่าน Google ?
ส่วนตัวแล้วผมว่าน.อ.สรุพลตอบคำถามได้ ... มาก
That is the way things are.
คือนโยบายเขาคือ แจกแท๊บเบล็ต แต่ไม่ได้พูดถึงเรื่องคอนเทนท์เลย - -' พอแจกเสร็จก็ถือว่าบรรลุนโยบายแล้ว
ผมว่าเป็นเรื่องน่าเศร้านะ
1+
Happiness only real when shared.
+1024768
จริงๆถ้าบอกตั้งแต่แรกว่าจะแจกแท็บเล็ต ทำไมไม่ทำคอนเทนต์ให้มันเสร็จๆตั้งแต่แรกหรือไม่ก็ประกาศไปเลยว่า แจกแท็บเล็ตให้เด็ก ป.1 จะมีเนื้อหาการเรียนการสอนครบทุกวิชา อะไรประมาณนี้ซึ่งมันไม่มีเลย เหอะๆ เหมือนกับว่าเอาแท็บเล็ตที่แจกมามาทิ้งไว้งั้น ไม่ก็กลายเป็นที่ทับกระดาษดีๆนี่เอง
แค่มนุษย์คนนึงที่อยากรู้เกี่ยวกับวงการไอที
เขาปูทางไว้ให้รัฐบาล สมัยหน้ามาพัฒนาต่อครับ อิอิ
ผมไม่เศร้าครับ เพราะเห็น ๆ กันอยู่ว่ามีข่าวการพัฒนา Content อย่างที่อ่านในข่าวนี้
ที่น่าตำหนิก็คือ ถึงตอนนี้แล้วทำไมยังไม่ทำโครงการต่อยอดพัฒนา Content ให้ชัดเจนขึ้นมามีแต่ข่าว ว่าจะเป็นรูปแบบโน้น รูปแบบนี้
ถ้าหยุดอยู่เพียงแค่นี้ แล้วรัฐบาลไม่คิดจะทำอะไรต่อ
อย่างน้อยต้องวางโครงสร้างให้โครงการเลี้ยงตัวเองได้
มีหน่วยงานรัฐ เอกชนมารับช่วงต่อ แล้วรัฐบาลค่อยส่งเสริม โปรโมตให้ก็ยังดี
จะรอดูว่ารัฐจะต่อยอดโครงการในรูปแบบไหนกันแน่ ถ้าไม่มีเลยสมควรด่าให้หนัก ๆ
ผมอยากให้ National Software Contest รับหน้าเสื่อนี้ไปครับ
คำตอบของข้า คือ ประกาศิต
ผมมองว่าการจัดการประกวดแข่งขัน เป็นการแก้ปัญหาที่ตรงจุด มันได้ประโยชน์หลายทาง การปล่อยให้ทางกระทรวงจ้างบริษัทเอกชน หรือ หน่วยงานในมหาวิทยาลัยบางแห่งเป็นผู้ดำเนินการทั้งหมด เป็นการสิ้นเปลืองงบประมาณไปอย่างมากและไร้ค่า การให้อาจารย์ที่สอนตามมหาวิทยาลัย หรือ โรงเรียน เป็นคนทำแล้วเอามาแข่งกัน ทำให้รัฐจ่ายเงินน้อย ได้ของดี และผู้พัฒนาก็ยังได้มีชื่อเสียงจากที่โนเนม คนก็จะรู้จักกัน เปิดโอกาสให้มหาวิทยาลัยและโรงเรียนในประเทศได้แข่งขันอย่างเท่าเทียม ได้สร้างชื่อเสียงให้สถาบันของตนเอง และยังช่วยให้เด็กฝึกวิชาชีพครูได้มี project จบทำด้วยครับ
คำตอบของข้า คือ ประกาศิต
ถ้าเครื่องไม่ทนก็แปลว่าโอกาสได้ใช้งานจริงๆน้อยมาก
กลัวครูๆปวดหัวจนทนไม่ไหว
เห็นหลาย ๆ ความเห็นก็ไม่พ้นการตำหนิ
ผมว่ามองกว้าง ๆ หน่อยก็ดีครับ มันไม่มีอะไรที่สมบูรณ์แบบหรอกครับ
แต่สิ่งที่ดีคือ ต้องเริ่มทำ ไม่ใช่ กลัวที่จะทำเลยไม่ได้ทำอะไรสักที
เรื่องโกง ราคา ตัวละ 2000+ เทียบกับมาเลสิครับ ตัวละเกือบหมื่น
พ้นเรื่องราคาก็มาเรื่องคอนเท้นต์ ก่อนที่จะเห็นคอนเท้นก็ยังด่ารัฐว่า คงจะแสกนเอาเอกสารมาเป็น PDF เด็กจะฝึกทักษะอะไร
พอเห็นว่ามันไม่ใช่ก็ว่าห่วย แปลงมาไม่สมบูรณ์ มีบัก นู่นนั่นนี่
ก็อย่างว่าแหล่ะ อคติ
ผมเคยชื่นชมรัฐบาลที่แล้ว คิดดีมากเรื่อง ต้นกล้าอาชีพ แต่สุดท้าย .....
เห้อ สุดท้ายก็ไม่พ้นการเมืองสินะครับ
มองในมุมกลับ ผมว่า คนทำงานต้องใจกว้างมองคำติว่าเป็นประโยชน์ครับ
ถ้าเกิดว่าคนไม่เอาแล้ว เขาไม่ติให้เสียน้ำลายหรอกครับ เขาก็แค่มองข้ามไป ไม่ต่างอะไรกับก้อนกรวดริมฟุตบาท
ชอบครับ จะนำไปใช้ส่วนตัวด้วย
แต่เบื่ออยู่อย่างครับ เบื่อลูกอีช่างติ ว่าๆ ไม่มีดีสักอย่าง ... พอถามว่าแบบไหนดีก็ไม่รู้
การมองเพียงแค่ว่า "อย่างน้อยเราก็ได้เริ่ม" นี่เรียกว่าเป็นการมองที่กว้างแล้วเหรอครับ ? ผมไม่เคยเห็น CEO บริษัทคนไหนคิดแค่นี้ตอนที่กำลังจะออก product ใหม่เลยนะ อย่างน้อยก็ต้องคิดมากกว่านี้เยอะก่อนจะตัดสินใจดำเนินการไปจริง ๆ
ขนาดบริษัทเอกชนที่ผลกระทบมีไม่มากยังคิดเยอะขนาดนี้ แต่นี่นโยบายระดับประเทศที่กระทบกับการศึกษาของเด็กวัยเพียง 7 ขวบกลับคิดได้เพียงแค่นี้ แล้วยังจะให้คนอื่นที่เห็นปัญหาที่เกิด "มองกว้าง" ตรงไหนอีกเหรอครับ คือผมสงสัยว่ามันยังมีอะไรที่ไม่กว้างพออีกอย่างนั้นหรือ ?
หรือผมควรจะดีใจและคิดเพียงแค่ว่า "อย่างน้อยเราก็ได้เริ่ม" แล้วก็จบไปไม่ต้องคิดอะไรต่อ ? ถ้าเป็นอย่างนั้นสงสัยว่านิยามคำว่า "มองกว้าง" ของคุณกับของผมมันคงจะมีความหมายคนละอย่างแล้วล่ะครับ
ไม่อยากจะเชื่อเลยจริง ๆ ขนาดตำหนิจากผลงานที่เกิดขึ้นจริง ณ ปัจจุบัน มีหลักฐานการแสดงความคิดของผู้รับผิดชอบอย่างชัดเจนผ่านสื่อที่ได้รับการยอมรับยังจะหาว่าคนตำหนิใช้เพียงแค่อคติอีก ผมอดสงสัยไม่ได้ครับว่าฝ่ายไหนกันแน่ที่ใช้ "อคติ" ในการมองเรื่องที่เกิดขึ้น
That is the way things are.
+111111
ก่อนนี้คนช่วยติเพื่อก่อ มีเยอะนะครับ เช่น เด็ก ป.1 เด็กไปไหม เนื้อหาเป็นยังไงเอามาดูหรือยัง ทดลองใช้ในโรงเรียนตัวอย่างสักปีก่อนไหมจะได้รู้ว่า ฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์มีปัญหาอะไรไหม เรื่องปลั๊กจะเอาไงกำหนดใน TOR หรือยังว่าจะเอาสองหัวหรือสามหัวแน่ เรื่องชาร์ตอีกจะชาร์ตที่ไหน ส่งซ่อมยังไง ฯลฯ
รัฐบาลก็ใจกว้างมาก บอกจะจัดการให้ แต่โผล่มาอีกทีก็เซ้นสัญญาสั่งซื้อไปแล้ว T^T
Happiness only real when shared.
ถ้ายังไม่พร้อมก็ไม่รู้จะรีบร้อนไปทำไม ช้าอีกนิดนึงดีกว่าโดนด่าเป็นไหนๆ นี่แค่เริ่มต้นเอง ต่อไปปัญหามากกว่านี้แน่ จะไม่เสียแค่ทีละเครื่อง ครูอังคณารับเรื่องไม่ไหวหรอก
ผมมองว่าที่รีบๆ กันนี่ไม่ใช่ปัญหาโกงกินหรอกครับ
แต่น่าจะเป็นปัญหา "ไม่ทันกิน" มากกว่า ... ไม่ทันกินหมายความว่า ถ้ามัวแต่พัฒนาจนสมบูรณ์ รัฐบาลอาจหมดวาระไปก่อนก็เป็นได้ (ด้วยทีมงานพัฒนา 3 คนนั้นแหละ)
ชอบคำว่า "ไม่ทันกิน" จริง ๆ ครับ ไม่เข้าใจครับว่าทดสอบและเซ้ตระบบอุปกรณ์ทุกอย่างสักปีนึงมันนานอะไรนักหนา อย่าน้อยเราก็จะได้รู้ปัญหาทุกขั้นตอน ไม่ใช่รีบ ๆ ไปซะหมดเช่น กำหนด TOR ปลั๊กเป็นสามขา พอเขาส่งมาเป็นสองขาบ้างสามขาบอก ดันบอกไม่ใช่เรื่องใหญ่ -__-"
นี่ก็เปิดเทอมแล้วแต่เด็กยังไม่ได้ใช้งานจริงเลย เชื่อว่าเด็กจะได้ใช้จริงก็คงเป็นเทอมสองโน่น พร้อมกับปัญหาอีกบานตะไท ไม่เข้าใจครับว่าถ้าทดสอบปีหนึ่งในโรงเรียนต่าง ๆ สัก4000-5000 เครื่อง แล้วปีหน้าค่อยสั่งล๊อตใหญ่ มันจะไม่คุ้มกว่าเหรอ?
"ไม่ทันกิน" เพราะกลัวอะไรกันเหรอ กลัวรัฐประหาร กลับยุบสภา หรือกลับปรับ ค.ร.ม.
Happiness only real when shared.
กลัวที่ว่ามาทั้งหมดล่ะครับ
กลัวอีกอย่างก็คือรัฐบาลเปลี่ยนขั้ว ... อย่าว่าแต่รัฐบาลนี้กลัวเลยครับ
ผมเองก็กลัวครับ ... ให้พวก conservative ที่ต่อต้าน OTPC มาดูแล ... ไม่รู้ว่ามันแย่หรือดี ... แต่ในความรู้สึกส่วนตัวบอกว่า "แย่แน่ๆ"
https://play.google.com/store/apps/details?id=com.otpc_lo.android
อันนี้น่าจะเป็นลิงค์ไปยัง app ทดลองใช้ เพื่อตรวจสอบความถูกต้อง
เคยเปิดไปเจอครับ ความรู้สึกส่วนตัวคือ ทำไมถึงทำได้แค่นี้ เพราะคนไทยที่พัฒนาแอนดรอยด์ได้ดีก็มีเยอะแยะ แต่กลับต้องมาใช้ webview เพื่อไปดึงจากเว็บมาโชว์
ตามข่าว ไม่มี google play หรือ google market ติดตั้งมาด้วยไม่ใช่เหรอครับ แล้วจะเอามาลงได้ยังงัย
ใช้ apk ไปลงที่เครื่องได้เลยครับ ไม่ต้องโหลดผ่าน google play
ส่วนลิงค์ที่โพสนั้น ผมก็ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าเวลาเอาไปใช้จริงจะดึงมาด้วย webview อย่างแอปนี้หรือเปล่าแต่ถ้าดึงมาด้วย webview จริงๆ ผมก็ไม่เห็นด้วย เพราะมันก็เท่ากับสร้าง webview มาแปะเฉยๆ
อยากเห็นทุกรัฐบาล เวลาจะทำโครงการอะไรเกี่ยวกับการศึก อยากให้ศึกษาข้อดีข้อเสียก่อนที่เริ่มใช้งานจริง ไม่อยากให้มาทดลองกับเด็ก ให้เด็กเป็นหนูทดลอง ผมว่าควรปรับปรุงหลักสูตร เนื้อหาวิชา และครูผู้สอนเสียก่อน ถ้าดีแล้วเครื่องมือที่จะมาช่วยเสริม อย่างแท็ปเล็ตค่อยทำก็ได้ และงบประมาณเข้าใจว่าไม่ใช่เงินของรัฐบ่าล เพราะฉะนั้นจะใช้ทำอะไรใ้ห้มันคุ้มค่าด้วยครับ