EE (Everything Everywhere เดิม) ผู้ให้บริการ 4G LTE รายแรกในสหราชอาณาจักร ซึ่งจะเริ่มเปิดให้บริการในวันที่ 30 ตุลาคมนี้ เผยราคาแพ็กเกจการใช้งาน 4G LTE ต่อเดือนดังนี้ (ทุกแพ็กเกจติดสัญญา 24 เดือน สามารถโทร-ส่งข้อความได้ไม่จำกัด)
- 500MB 36 ปอนด์ (ประมาณ 1,800 บาท)
- 1GB 41 ปอนด์
- 3GB 46 ปอนด์
- 5GB 51 ปอนด์
- 8GB 56 ปอนด์
EE ไม่มีแพ็กเกจแบบไม่จำกัดปริมาณข้อมูลให้เลือก แต่แพ็กเกจข้างต้นก็ไม่จำกัดวิธีการใช้งานข้อมูล เช่น นำไป tethering กับอุปกรณ์อื่นได้
บน เว็บไซต์ของ EE ระบุความเร็วของ 4G LTE ว่าค่าเฉลี่ยจะอยู่ระหว่าง 8-12 Mbps ครับ
ที่มา - Android Central
Get latest news from Blognone
Follow @twitterapi
Comments
แพงจับใจดี
อยากได้ Bandwidth พิเศษมันก็ต้องจ่ายพิเศษกันหน่อย
ต้องไม่ลืมนะครับว่า EE เป็นเพียงแค่ผู้ให้บริการรายแรกและรายเดียว เพราะฉะนั้นตอนนี้เขายังอาจจะหา early adopters เข้ามาในสัญญาราคาสูงก่อน ก่อนที่รายอื่นจะเข้ามาทำตลาด 4G ในช่วงกลางปีหน้า ตอนนั้นค่อยแข่งราคา
@TonsTweetings
อื้ออหือออ ราคา ลมจะจับ
เห็นใน engadget บอกราคานี้รวม unlimited call n text ด้วย แบบนี้ก็พอไหวนะ
แล้วจะใช้ 4G ไปทำไมถ้าจำกัดข้อมูลให้น้อยซะขนาดนั้น
บางช่วงเวลามันก็ต้องการแบบด่วนจี้ดดจริงๆนะครับ คือถ้าเน่าเนี่ยขนาดไฟส์แค่ 1M ยังไม่รอดเลยครับ 55
4G นี่นอกจากจะช่วยลดความหนาแน่นของ 3G แล้ว จุดประสงค์หลักผมว่าสร้างมาเพื่อเน้น "ความเร็ว" ในการเข้าถึงข้อมูล มากกว่า "ปริมาณ" ข้อมูลนะครับ
ถ้าต้องการปริมาณข้อมูล ที่อังกฤษก็มีเน็ตฯ แบบสายไฟเบอร์เข้าถึงบ้าน (150Mbps) ให้นะครับ อันนี้คนลอนดอนเขาบอกมา
500 MB - 1,800 บาท ได้โทรไม่จำกัด+ข้อความไม่จำกัด ตกลงนี่มันแพงที่ไม่จำกัดสองอันนี้ด้วยสินะ
Dream high, work hard.
+1
EE เผยราคา 4G LTE ในอังกฤษ ไม่มีแพ็กเกจไม่จำกัดปริมาณข้อมูล
เจอไม่ 2ตัวแล้วผมชอบงง ชอบนึกถึงคณิตศาสตร์ ลบเจอลบ เป็นบวก
=มี(แต่)แพกเกจจำกัดข้อมูล ฮะ.
แพงได้ใจจริงๆ
จะเทียบแบบนี้ก็ไม่ถูกนะครับ ค่าครองชีพเค้าไม่เหมือนบ้านเรา แถมค่าเงินยังแพงกว่าด้วย
คิดง่ายๆ ค่าแรงที่อังกฤษชั่วโมงละ 6 ปอนด์
คนที่นั่นทำงาน 6 ชม.(ไม่ถึงวัน) ก็ได้ใช้ 4G แล้ว
แต่ที่ไทย ค่าแรงชั่วโมงละ 30 บาท
แพคเกจ 3G ตอนนี้ประมาณ 700 (อันลิมิต)เท่ากับเราต้องทำงานประมาณเกือบ 2 วัน
ถ้านับจำนวนข้อมูล 500mb ราคา 250 บาท เท่ากับทำงาน 8 ชม.
สรุปแล้วค่า 4G เค้าก็ไม่ได้แพงมาก คือน่าจะเทียบได้พอๆกับค่า 3G บ้านเรานี่แหละแถมโทร+ข้อความอันลิมิตอีกต่างาก
ค่าเสา ค่าเครื่อง นี่เขาไม่ได้ขายตามค่าครองชีพแต่ละประเทศนะครับ
lewcpe.com , @wasonliw
ค่าเสาค่าเครื่อง อาจจะไม่ได้ขายตามค่าครองชีพแต่ละประเทศ แล้วค่า ติดตั้ง ค่าดูแลรักษา อื่นๆละครับ ไม่คิดตามค่าครองชีพเหรอครับ
แต่ละประเทศก็คิดตามค่าบริการที่คนในประเทศจะจ่ายไหวถ้ามี 3G แต่วิ่งแค่ 64Kb จะอยากได้กันไปทำไมครับ
ที่เถียงกันมาทั้งหมดนี่ ทุกคนลืมกันไปหมดแล้วว่าเราอยากใฃ้ 3G เพราะเร็วกว่า 2.75G
แต่กลับมีคนบอกว่า มันไม่เร็วหรอกจะให้ Operator ทำให้วิ่ง 42mb ก็ต้องใช้คนเดียวในที่นี้ไม่มีใครเขาคิดว่าจะได้ใช้ 42mb กันจริงๆหรอกครับ
อยากให้มี 3G กันตัวสั่นหน้ามืดตามัว แต่ถ้ามันวิ่งแค่า 345kb 64kb จะต่างกับ Edge ยังไง
อย่าลืมว่าอะไรสำคัญไม่สำคัญ
ประชาชนเขามีกำลังจ่ายไม่เท่ากัน เราควรเปิดโอกาศให้ทุกคนเข้าถึง Internet ได้มากขึ้นและดีขึ้น
ไม่ต้องเป็นห่วงผู้บริการมือถือหรอกครับ แต่ละปีเขามีรายได้ นับแสนล้าน ห่วงตัวเองจะดีกว่า
ผมไม่ได้ห่วงผู้ให้บริการมือถือนะครับ ผมห่วงว่าเราหวังมาตรฐานที่สูงเกินกว่าที่จะเป็นไปได้ด้วยข้อจำกัดทางวิศวกรรมในปัจจุบัน จนกระทั่งเครือข่ายเน่าใช้ไม่ได้กันไปหมด หรือว่าไม่มีใครกล้าให้บริการเลยมากกว่าครับ
เห็นด้วยครับ อะไรสำคัญ
384 kbps มันเข้าถึงไม่ได้ตรงไหนครับ??
เอาจริงมันจะช้ามากก็แค่ตอนเอาไปโหลดบิทนั่นแหละ นอกนั้นมันก็พอใช้ได้เลย เปิดเฟซบุ๊คก็ไม่ได้อืดมาก ดูยูทูบแบบ 320p ก็ลื่นดีไม่กระตุก
ถ้าที่ว่ามาข้างบนไม่พอใจคุณ ก็แปลว่าคุณควรจ่ายเงินเพิ่มครับ ไม่ใช่โลภอยากได้แรงๆแต่ไม่ยอมจ่าย
ผมแนะนำให้คุณกลับไปอ่านบทความเรื่องความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับคลื่นที่คุณลิ่วเขียนก่อนแสดงความเห็นครับ
True ในส่วนโทรศัพท์ ขาดทุนทุกปีครับ dtac ก็กำไร เล็กน้อย
มีแค่ Ais ที่กำไร มหาศาล
ผมคิดราคาจาก iphone 5 ที่อังกฤษไม่ติดสัญญา 529 ปอนด์ (ประมาณ 26500)iphone 5 ในไทยน่าจะเริ่มต้น 21000 อย่างที่เคยตั้งราคามา ต่างกันประมาณ 5500
ถ้าคิดตามโลจิกเดิม คนอังกฤษก็ยังซื้อ ไอโฟน+4G ได้ในราคาที่เอื้อมถึงมากกว่าเราอยู่ดี
ส่วนต่าง 5500 เค้าทำงาน 18 ชม. เราทำงาน 180 กว่าชม.
(นี่หมายถึงคนธรรมดาเลยนะ แบบแรงงานรับจ้างทั่วไป)
ข้อเสียอย่างเดียวที่มีคือเค้าต้องติดสัญญา 2 ปี ในขณะที่ของเราไม่ติดสัญญา
ปล.ที่พูดมาทั้งหมดผมแค่ต้องการจะสื่อว่า ราคาแพคเกจบ้านเค้าตีเป็นเงินไทยอาจจะแพงแต่ถ้าเทียบกับคนในประเทศเค้าแล้วก็ไม่ได้แพงเท่าไหร่ ไม่เกี่ยวกับประเด็น 3G ในบ้านเรานะครับ
การเอาราคาส่วนต่างของสองประเทศ (5500 บาท) มาคิดว่าคนประเทศเค้าทำงานแค่ x ชั่วโมงแต่เราต้องทำงานทั้ง y ชั่วโมงนี่ไม่ได้ทำให้บอกได้เลยนะครับว่าอันไหนถูกอันไหนแพง
ยืนยันว่าแพงครับ ด้วยราคานี้คิดว่าคนที่ติดคงมีส่วนน้อย เฉพาะกลุ่มคนรายได้สูง ฐานะดีเท่านั้น
มือถือราคา £529 แพงมากครับ
ราคาน้ำมันเค้ายังแพงกว่าเราเยอะเลยครับ ทั้งๆที่ราคาซื้อจากประเทศผู้ผลิตเค้าไม่ได้ขายตามค่าครองชีพเหมือนค่าเสา ค่าเครื่องนั่นแหละครับ
คิดเหมือนกัน เช่น... โค๊กที่นอร์เวย์ 0.5 ลิตร ธรรมดา ราคา 20kr. (108บาท)
เอาหน่า ไม่ต้องเถียงกันๆ ผมว่าบ้านเรา 1GB 1,500 กำลังดี