Kai Fu Lee อดีตผู้อำนวยการของกูเกิลสาขาประเทศจีน และย้ายไปทำงานบริษัท Innovation Works ของเขาเอง เขาเป็นหนึ่งในคนจีนที่มีคนตามจำนวนมากใน Sina Weibo เว็บ microblogging ที่ได้รับความนิยมสูงสุดในจีน โดยล่าสุดมีคนตามถึงสามสิบล้านคน แต่การออกมาวิพากษ์วิจารณ์รัฐบาลจีนในช่วงหลังทำให้เขาถูกลงโทษแบนจากเว็บไปสามวัน
ตัว Kai Fu Lee ยอมรับว่าวิจารณ์รัฐบาลในหลายประเด็น เช่น
- คัดค้านการบล็อก GitHub.com จนในที่สุดเว็บสามารถเข้าได้จากจีนในไม่กี่ชั่วโมงต่อมา
- คัดค้านการตรวจจับโปรแกรมตรวจตั๋วรถไฟ ที่มีข่าวลือว่าทางการจีนจะแบนโปรแกรมเหล่านี้
- กล่าวถึงการเลือกตั้งประธานาธิปดีไต้หวัน อธิบายถึงบรรยากาศแห่งประชาธิปไตยที่ไต้หวันมี และกระบวนการที่ต้องทำก่อน หากจีนจะเปลี่ยนแปลงไปเหมือนกัน
- อธิบายถึงสาเหตุของมลพิษในอากาศ
- ช่วยเปิดโปงการทุจริตและการปราบปรามประชาชนด้วยการส่งต่อภาพ
ตอนนี้ Kai Fu Lee ย้ายมาใช้งานทวิตเตอร์ที่ @ kaifulee แทน และเรียกร้องให้รัฐบาลเปิดกว้างต่อการวิจารณ์มากขึ้น
【习近平:对中国共产党而言,要容得下尖锐批评】习近平6日下午与党外人士共迎新春时说,要继续加强民主监督。对中国共产党而言,要容得下尖锐批评,做到有则改之、无则加勉;对党外人士而言,要敢于讲真话,敢于讲逆耳之言,真实反映群众心声,做到知无不言、言无不尽。
— Kai-Fu Lee (@kaifulee) February 17, 2013
ที่มา - LinkedIn , TechCrunch
Comments
เจ้าตัวอยู่ในอเมริกานี่นา
ป.ล. 1 การเอาทวีตมาใส่ในข่าวทำยังไงเหรอคับ? ตอนแรกนึกว่าแคปภาพมาใส่ซะอีกป.ล. 2 "หากจีนก่อนจะเปลี่ยนแปลงไปเหมือนกัน" ?
ช่างไฟสมัครเล่น (- -")
เดี๋ยวนี้ใส่ได้แล้วครับ ก็อป blockquote มาบรรทัดเดียวไม่ต้องใส่บรรทัดที่แท็ก script ก็ขึ้นเลย
lewcpe.com , @wasonliw
จีนบลอคทวิตเตอร์เหมือนกันครับ ดังนั้นถ้าอยุ่จีนคงจะเล่นไม่ได้ (ด้วยช่องทางปกติ)
จีนนี่ เหมือนจะรุ่งเรืองและเศรษฐกิจดีนะครับ แต่คนจีนยังคงพยายามหนีออกจากประเทศจีนกันอยู่ เพราะช่องว่างทางสังคมและการกดขี่จากรัฐบาลยังมีสูงมาก ใครโชคดีเกิดมาอยู่ในวรรณะดีก็ชอบใจ ใครเกิดมาในวรรณะแย่ก็ก้มหน้ารับกรรมไปไม่มีปากเสียง เอ๊ะพูดไปคล้ายๆ ประเทศสารขัณฑ์ชอบกล
โชคดีว่ายุคนี้เทคโนโลยีข่าวสารดีมากขึ้น ทำให้เรามีโอกาสรับข่าวรับความเห็นอีกด้านแบบนี้ได้บ้าง ไม่ใช่รับฟังข่าวล้างสมองจากทางการจีนหรือดูกันแต่ตัวเลข GDP ประเทศเขาอย่างเดียว ปรากฎการณ์นี้เกิดขึ้นได้เพราะเทคโนโลยีไอที เราน่าจะภูมิใจในวิชาชีพของพวกเราให้มากขึ้นนะครับ
มันเป็นธรรมดา ของประเทศที่การพัฒนาในแต่ละด้านไม่สมดุล...
สารขัณฑ์(ประเทศทางใต้ของจีนประเทศหนึ่ง ไม่ระบุพิกัด)ก็เป็น เป็นหนักกว่าจีนด้วย แต่เรา...อุ๊บ...เค้าสิ...แต่เค้าและคนของเค้าปิดหูปิดตา อยู่ในมโนภาพของตัวเค้าเอง ว่าประเทศเค้าเลิศเลอเพอร์เฟค ทั้งวัฒนธรรมสูงส่ง ประวัติศาสตร์ยาวนาน ประชาธิปไตยเข้มแข็ง เสรีภาพยอดเยี่ยม ทุกคนเท่าเทียมกัน...
ขณะที่ จีน อย่างน้อยเค้าก็รู้ตัวว่าประเทศเค้ายังด้อยหลายด้าน...
ประเทศที่ผู้คนมีต้นกำเนิดมาจากเทือกเขาอัลไตหรือเปล่า? อิ_อิ
-1ผมไม่ชอบการจิกกัดแบบนี้ มันดูเหมือนเราดูถูกตัวเราเอง
เราควรอยู่กับความจริงมากกว่าที่จะหนีอดีตของบรรพบุรุษตัวเองครับ
เราควรอยู่กับความจริงครับ เหมือนกับเราดำเนินชีวิตตัวเอง เราก็ต้องบอกข้อเสียตัวเองได้ การอยู่ร่วมกันก็ต้องบอกข้อเสียของกลุ่มตัวเองได้ว่ามีข้อบกพร่องอะไร จะได้ไม่หลับหูหลับตาหมู่ และจะได้แก้ไขตัวเองไปสู่จุดที่ดีกว่า ไม่ใช่การดูถูกตัวเอง
ซึ่งเรา เอ้ย ประเทศสารขัณฑ์ มันก็มีแนวโน้มจะเป็นอย่างนั้นจริงๆ คนยังอยู่กับมโนที่สวยงามกันอยู่มาก เช่นประโยค "ที่ไหนก็ไม่เท่าเมืองไทย" มองไทยว่าดีที่สุดแล้ว แล้วก็ทำตัวแบบเดิมๆ ใครติก็หาว่าดูถูก เลยเข้าภาวะวนในอ่างอย่างปัจจุบัน
ส่วนการใช้คำพูดจิกกัด แม้จะไม่เป็นบวกเท่าไหร่ แต่เป็นการแสดงภาวะเบื่อหน่าย/สุดจะทน ของใครหลายคนครับ
แต่ทุกวันนี้คนจีนก็ยังหนีมาประเทศสารขัณฑ์อยู่นะครับ
ประเทศสารขัณฑ์เราดีกว่าจีนมากแล้วครับ ดูอย่างกฎหมายไอทีก็พอได้ มีเซ็นเซอร์เหมือนกัน แต่ของเราก็ยังไม่แย่ขนาดจีน
คือเอาจริงๆ นะประเทศเรา ถ้าอยากอยู่ไปวันๆ ไม่ดิ้นรนก็อยู่ได้สบายๆ ไม่เดือดร้อนไม่มีใครมาทำอะไร ในขณะที่จีนนั้น ไม่ดิ้นรนล่ะอดตายแน่ๆ ส่วนคนที่ขยันในบ้านเราก็ยังพอเจริญได้ อาจจะไม่ได้เหมือนอเมริกาหรือยุโรปที่ถ้าคุณเก่งแปลว่าคุณรุ่งชัวร์ บ้านเราอาจต้องเพิ่ม wet skill พวกแผล็บๆ หรือพวกน้ำลายแตกฟองไปบ้าง แต่ก็พอเจริญได้อยู่ แต่ของจีนนั้น ถ้าเก่งแต่ไม่เหี้ยมด้วย ก็จะอยู่ยาก คนจีนเก่งๆ หัวก้าวหน้า ถึงหนีไปอเมริกาไปยุโรปกันหมด (เพื่อนผมที่เป็นคนจีนบอกมาอีกที)
เห็นด้วยหลายๆ อย่างเลยนะครับ แต่มีจุดนึงที่ผมมองว่าประเทศไทยในปัจจุบันอยู่ในสภาวะดิ้นรนเหมือนกัน ถ้าซักวันเราลดตัวไม่ทำอะไรเราก็แย่แน่ๆ
เอาจริงๆ บ้านเราก็ดิ้นรนพอตัวเหมือนกันเลยเป็นที่สามในอาเซียนได้ GDP บ้านเราก็ถือว่าดีมากทีเดียวถ้าเทียบกับสิบชาติอาเซียนด้วยกัน คนบ้านเรามีงานมีการทำกันทั้งประเทศ
ที่ว่าเราอาจไม่อดตายเพราะเราทำการเกษตรปลูกเองกินเองได้ แต่ฟิลิปปินส์ก็เป็นตัวอย่างว่าแม้เขาจะทำการเกษตรแบบบ้านเรา แต่เขาก็ไม่ได้ดิ้นรน เศรษฐกิจเขาค่อนข้างนิ่ง จนกลายเป็นประเทศที่คนส่วนใหญ่ยากจน อาชญากรรมเต็มเมือง GDP เขาทิ้งห่างกว่าไทยเยอะ จากดัชนีต่างๆ บอกได้เลยว่าไทยพัฒนาไปไกลกว่าเยอะมากๆ
ผลก็คือ ตอนนี้คนฟิลิปปินส์เองก็หนีออกมาทำงานต่างประเทศกันเยอะมาก บ่งบอกว่าต่อให้เป็นประเทศที่ทำการเกษตรเองได้แต่ก็เอาปากท้องคนไม่อยู่ เทียบกับบ้านเราที่ไม่ค่อยมีให้เห็นแล้วถ้าเทียบกับเมื่อก่อน (ยกเว้นภาคนึงยังพอมีอยู่ ก็ต้องแก้ไขกันไป)
ผมเป็นคนหนึ่งที่หนีมาอยู่ประเทศจีนได้ปีนึงละครับ
อยู่จีน เดินทางสบาย ขนส่งมวลชนดี ราคาถูก ปลอดภัยและครอบคลุม
ไม่ต้องใช้ชีวิตบนถนน กทม วันละ 3-4ชั่วโมง อยู่จีน ไม่เกินครึ่งชั่วโมงก็ถึงที่ทำงาน อากาศก็ดี บ้านเมืองสะอาดสะอ้าน ขี่จักรยานสบาย ไม่มีแผงลอย
ที่สำคัญ วิชาชีพของผม อยู่ไทย ถ้าไม่โดนโกง ก็โดนกดราคา เป็นอาชีพที่มีกฏระเบียบหยุมหยิม แต่คนไทยไม่เห็นค่า ในวงการก็ต้องเจอแต่คนขี้โกงทั้งกระบวนการ
มาทำงานจีน เงินเดือนดีขึ้นเกิน 3เท่า แต่ค่าครองชีพแพงกว่าไทยแค่นิดหน่อย เพิ่งรู้สึกว่าอาชีพเราเป็นอาชีพมีเกียรติก็ตอนมาอยู่จีนครับ
ที่สำคัญ คนจีนมองคนไทย มองประเทศไทยในแง่ดี ให้เกียรติ ไม่ดูถูก ไม่เหมือนบางประเทศที่คนไทยมองเป็นเมืองสวรรค์ แต่คนประเทศนั้นมองเมืองไทยเหมือนอะไรสักอย่สง
เมืองไทยเอง จริงๆก็มีเรื่องที่ห้ามพูดห้ามถามห้ามวิจารณ์อยู่ ไปอ่านกฏเวบบอร์สาธารณะทุกเวบในประเทศไทย ก็มีข้อห้ามนี้อยู่ แต่เมืองไทยเราไม่ใหญ่และไม่มีปัญญาพอที่จะสร้างระบบบริการของตัวเอง
ไทยเราไม่สามารถสร้าง youku มาใช้แทน youtubeได้
ไม่สามารถสร้าง weipo มาใช้แทน facebook ได้
ไม่สามารถสร้าง baidu มาปทน google ได้
เราจึงทำได้แค่เซนเซอร์ ไล่ปิดทีละหน้า ทีละเวบ
เมืองจีน ตราบใดที่ไม่ไปแตะพรรคคอมมิวนิสต์ ชีวิตก็ไม่มีปัญหา เหมือนกันนั่นล่ะครับ แต่ละประเทศก็มีบริบทต่างกัน
เมืองจีนกับเมืองลาวเหมือนครง ตราบใดที่ไม่ไปแตะพรรคคอมมิวนิสต์ ชีวิตก็ไม่มีปัญหา เช่นกันครับ
ถามต่อว่า ช่องทีวีของจีนเขา มีส่ง SMS แบบทีวีเมืองไทยไหมครับ เพราะที่ลาว มีส่ง SMS เหมือนไทยแล้วครับ
จีนที่ผมทำงานด้วยโคดดูถูกคนไทยเลยครับ ประมาณว่าเขามาจากประเทศที่ใหญ่และมีอารยธรรมมายาวนานกว่าเราเยอะ
คนไทยขี้เกียจตัวเป็นขน โง่ และ เก่งแต่นั่งกินเหล้า อันนี้เขาพูดกันเองในรถ โดยที่ไม่รู้ว่าพวกผมมีคนที่ฟังจีนได้
ซึ่งที่เขาว่ามาผมก็ว่าจริง แต่ก้อไม่ชอบอยู่ดี
นั่นมันจีนยุคหนีคอมมิวนิสมาตั้งรกรากในไทยกระมังครับ พ่อผมก็ชอบพูดแบบนั้น
จริงๆ แล้วคนแต่ละประเทศมันก็มีหลายกลุ่มหลายก้อน คนไทยกันเองก็ยังดูถูกคนไทยด้วยกันเอง
คนนี้มาจากอีสาน (นี่คนประเทศเดียวกัน)
ไอ้คนนี้มาจากคลองเตย (ขนาดคนกรุงเทพด้วยกัน)
คนนี้มาจากซอย 13 (นี่คำพูดจริงของคนในหมู่บ้านผม ขนาดหมู่บ้านเดียวกันยังมีแบ่งแยก)
ฉะนั้นอย่าไปกำหนด stereotype ของใครเป็นดีที่สุดครับ มองเป็นคนๆ ไปจะดีกว่า
อย่างที่เค้าบอกว่าจีนสะอาด ... นี่เป็น 1 ใน 100 มั้งที่บอกว่าจีนสะอาด พ่อผมไปเซี่ยงไฮ้ยังบอกว่าสกปรก
@ Virusfowl
I'm not a dev. not yet a user.