นักวิทยาศาสตร์จาก North Dakota State University ในสหรัฐอเมริกา ประสบความสำเร็จด้านการพัฒนาระบบ RFID โดยการใส่วงจรดังกล่าวลงในเนื้อกระดาษได้แบบเนียนๆ ซึ่งจะช่วยเปิดโอกาสในการประยุกต์เพื่อใช้งานในเชิงพาณิชย์ได้อีกหลากหลาย
วงจร RFID เป็นวงจรที่ใช้เพื่อจำแนกวัตถุหรือบุคคล โดยใช้วงจรที่มีลักษณะเฉพาะไม่ซ้ำกัน อาศัยการตรวจสอบความเป็นเอกลักษณ์ของแต่ละวงจรด้วยสัญญาณคลื่นวิทยุ ซึ่งปัจจุบันนิยมใช้กันหลากหลาย ทั้งในบัตรประจำตัว, หีบห่อสินค้า เป็นต้น
ทั้งนี้การนำวงจร RFID ใส่ในกระดาษนั้น มีการทำอยู่ก่อนแล้วเช่นกัน แต่ผลลัพธ์ที่ได้ คือกระดาษที่มีความหนาอย่างไม่เป็นธรรมชาติ อีกทั้งสภาพกระดาษแข็งจนรู้ได้ทันทีว่ามีวงจรพิเศษฝังอยู่ในเนื้อกระดาษ
ด้วยเทคนิคใหม่ในการทำแผงวงจรให้มีขนาดที่บางลง โดยอาศัยการใช้พลังงานจากลำแสงเลเซอร์เปลี่ยนสภาพของแผ่นเวเฟอร์ที่ใช้เตรียมวงจร และใช้พลังงานจากลำแสงเลเซอร์เช่นเดียวกันในการฝังเสาอากาศลงสู่แผงวงจร
ทีมงานนักวิทยาศาสตร์ได้ระบุเพิ่มเติมว่า เทคนิคการผลิต RFID แบบใหม่นี้ มีต้นทุนในการผลิตที่ถูกกว่าการทำวงจร RFID แบบเดิมๆ เพื่อเครื่องไม้เครื่องมือที่ถูกกว่าและการใช้วัตถุดิบในการผลิตที่น้อยกว่า ที่สำคัญคือ เทคนิคในการผลิตวงจร RFID แบบใหม่นี้มีความเร็วในการผลิตที่สูงกว่าแบบเดิมด้วย
ด้วยเทคนิคการใช้ RFID ฝังในเนื้อกระดาษนี้ จะทำให้การพิมพ์ธนบัตร, เอกสารทางกฎหมาย, ตั๋วคูปองต่างๆ รวมไปถึงฉลากหรือป้ายอัจฉริยะหลากหลายรูปแบบ สามารถเพิ่มคุณสมบัติพิเศษคือสามารถยืนยันความเป็นของแท้ และมีระบบการจำแนกข้อมูลเฉพาะวัตถุและบุคคลด้วย
ที่มา - BBC News
Comments
นึกถึงซีรี่ย์ฝรั่ง ตามรอยแบงค์แกงค์มาเฟีย อีกหน่อยแทรกไมค์+ติด GPS+แนบกล้อง 8 ล้านพิกเซล -_-'
my blog
ฝังไว้ในคนตั้งแต่เกิดเลย
แก้หน่อยครับ ทีสูงกว่า -----> ที่สูงกว่า (ตรงคำว่า "ที่" ไม้เอกหายครับ)
อัจริยะ => อัจฉริยะ
น่าจะไปอยู่ใน Jusci นะ
สงสัยจังเว็บนี้เวลาพิมพ์อะไรผิดทำไมไม่ส่งข้อความ private ไปบอก
ตามที่เคยชี้แจงกันไว้ คือส่วนมากเป็นอะไรที่คนผิดกันเยอะแล้วไม่ใส่ใจ ถ้าเห็นผ่านตาบ่อย ๆ ก็คงช่วยให้ตระหนักถึงความสำคัญกันได้บ้างครับ่
อีกส่วนนึง เพราะเว็บนี้ไม่มีระบบข้อความไงครับ :p
เคยมีกรณีอย่างนี้แล้วคนข้างนอกไม่รู้บอกว่าไม่อยากเล่น blognone เพราะชอบมีคนมาจับผิด แค่พิมพ์ผิดนิดหน่อยก็ไม่ได้ ด่าอย่างโน้นอย่างนี้ ผมก็งงว่าคนอย่างนี้ก็มีด้วยนะ ไม่รู้เหตุผลของมันจริงๆแต่ก็ขอใช้อคติส่วนตัวตัดสินไว้ก่อนว่าผิดหรือถูก คนเรา
เรื่องจริงที่ประสบกับตัวเองมาครับ
ขณะที่สอบวิทยานิพนธ์อยู่
ประธานกรรมการ: (โมโหมาก) นี่คุณ อาจารย์เห็นคุณพิมพ์ไม้ยมกแบบนี้แล้วหงุดหงิดมาก อาจารย์บอกนักศึกษาเสมอว่าให้พิมพ์ไม้ยมกเว้นหลังอย่างเดียวห้ามเว้นหน้า เพราะเว้นแล้วมันจะตัดคำแย่ ๆ แปลก ๆ บางทีไม้ยมกก็ไปอยู่หน้าประโยค
ผม: ตามหลักของบัณฑิตยสถานแล้ว เขาประกาศไว้ว่าให้เว้นทั้งหน้าและหลังครับ แต่การเว้นแค่หลังอย่างเดียวเป็นการใช้แบบสมัยนิยม เพราะปัญหาการตัดคำแบบที่อาจารย์พูดนั่นแหละครับ
ประธานกรรมการ: (ตกใจ อึ้งไปนิดนึง แล้วใจเย็นลง) อ้าวเหรอ... คุณแน่ใจเหรอ...
ผม: ครับ เมื่อก่อนผมเคยเขียนแบบอาจารย์บอกนั่นแหละครับ แต่ได้มารู้ทีหลังว่าจริง ๆ แล้วมันผิด (รู้จากที่นี่แหละ) ผมเลยเปลี่ยนเป็นแบบที่ถูกต้อง แม้ว่าในเว็บไซต์ต่าง ๆ จะนิยมแบบที่ผิดก็ตาม (ที่นี่อนุญาตให้ใช้ทั้งสองแบบ แล้วแต่ถนัด) ตกลงอาจารย์จะให้ผมยึดตามอันไหนครับ?
ประธานกรรมการ: ถ้าเธอยืนยันว่าราชบัณฑิตบอกแบบนั้นก็ให้ยึกตามราชบัณฑิตก็แล้วกัน
ผม: ได้ครับ เดี๋ยวสอบเสร็จผมจะหาข้อมูลให้อาจารย์ดูนะครับ
ประธานกรรมการ: ขอบใจมาก ครูจะได้เอาไปบอกนักศึกษาให้ใช้ให้ถูกต้อง
ผม: ยินดีครับ ^^
หลังจากนั้นบรรยากาศที่คุมาตั้งแต่แรกก็ดีขึ้นเป็นกอง ผลคือผมผ่านมาได้แบบเบา ๆ จากที่เก็งไว้ว่าจะหนักโคตร ๆ
นี่คือประโยชน์ที่ผมได้รับมาเต็ม ๆ จากการอ่าน-เขียนบทความที่นี่ครับ
ป.ล.ในวิทยานิพนธ์ผมเขียนผิดน้อยมาก ในขณะที่คนอื่นตัวแดงกันแทบทุกหน้า
เทคโนโลยีไม่ผิด คนใช้มันในทางที่ผิดนั่นแหละที่ผิด!?!
+∞ ผมก็ได้ประโยชน์จากการเม้นคำผิดใน bn นี่เยอะเหมือนกัน ยอมรับว่าแต่ก่อนเป็นคนที่(คงจะ)เขียนภาษาไทยได้แย่มาก (ไม่รู้อ. ท่านต่างๆ ในม. ปล่อยผ่านมาได้อย่างไร?) เนื่องจากพฤติกรรมส่วนตัวที่ใช้การฟังเป็นหลัก ดังนั้นเรื่องตัวสะกดนี่ "มั่วมาก" แต่จากการอ่านข่าวใน bn + อ่านคอมเม้นทุกเม้น(เท่าที่จะเป็นไปได้ ตอนนี้ใช้เทคนิคว่าตามอ่านย้อนหลังเอา อิอิ) ผมคิดว่าตอนนี้ภาษาไทยผมดีขึ้นกว่าตอนจบมหาลัยมาอย่างมากเลยครับไม่ใช่แค่เรื่องตัวสะกด การอ่านข่าว+คอมเม้นจากที่นี่ ยังให้ความรู้อีกหลายๆ อย่าง ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบการเขียน มารยาทที่ดีบนโลกอินเทอร์เน็ต ฯ ไหนจะพวกข้อมูลเทคนิคเชิงลึก ที่มีถกเถียงกันเนืองๆ ในหลายๆ ข่าวอีก ดังนั้น ถ้าอ่าน blognone แล้วไม่อ่านคอมเม้น เหมือนไม่ได้อ่าน blognone ครับ 555
ตอนนี้เลยกลายเป็นว่าผมติดโรคชอบจับ(คำ)ผิด แบบในนี้ไปใช้กับที่อื่นๆ ด้วยแฮะ ซึ่งก็กลายเป็นว่า เจอว่าหลายๆ คน ก็ยอมรับไม่ค่อยได้ (แค่ทักคำผิดนี่มันจะอะไรนักหนา?) แสดงความไม่พอใจอย่างกับเราไปกล่าวหาเขาว่าทำความผิดอายาร้ายแรงอย่างนั้นแหละ เหอๆ ปัญหาที่เจอมากๆ เดี๋ยวนี้คือคนมักผันวรรณยุกต์ผิดรูปกันเยอะมากเลยครับ ไม่รู้ความรู้ภาษาไทยพื้นๆ เรื่องอักษรสูง กลาง ต่ำ สมัยประถมหายไปไหนกันหมดแล้ว หรือเพราะภาษาพูดที่ชอบใช้กันในแชทมันทำให้คนนำมาใช้กันจนเข้าใจว่ากลายเป็นสิ่งที่ถูกต้องกันไปหมดแล้วก็ไม่รู้...
@ Virusfowl
I'm not a dev. not yet a user.
ความผิดอายา ?
O.K. ครับ "อาญา" :( (ดีนะที่ไม่ได้เรียนนิติ) 55
@ Virusfowl
I'm not a dev. not yet a user.
ถ้ารับไม่ได้ก็อย่าเขียนข่าวที่นี่ครับ
แต่เห็นน้องๆที่มหาลัยผมก็ชอบบ่นกัน พอผมไปแอบอ่าน draft เล่มแดงเท่านั้นแหละ หึหึ
ถ้ารำคาญก็ปิดคอมเม้นประเภทแก้ไขเนื้อหา (ซึ่งตามมารยาทแล้วมักจะมีัอันเดียวแล้ว reply ต่อกันไปเรื่อย ๆ ) ที่ปุ่ม toggle บนคอมเม้นท์ได้แครับ
ถ้าในไทยได้ใช้บ้าง คงจะลดอัตราที่ว่าเจอแบงค์ปลอมไปได้เยอะเลยล่ะ
แค่มนุษย์คนนึงที่อยากรู้เกี่ยวกับวงการไอที
ทำไมเหมือนดีขึ้นหมดทุกอย่าง แล้วขนาดใหญ่หรือเล็กลงครับ?
ไม่ต่างกับการติดอุปกรณ์ติดตามบุคคลเลยน่ะเนี้ย เพราะเวลาเดินผ่านอุปกรณ์ตรวจสอบ RFID ก็จะรู้ได้เลยว่าคนที่มีธนบัตรที่มีหมายเลข RFID เหล่านี้ได้ผ่านประตูนี้มาแล้ว ทำให้สามารถติดตามเป้าหมายที่ไม่รู้ตัวได้อย่างง่ายดาย อย่างงี้จะเรียกว่าละเมิดสิทธิส่วนบุคคลหรือเปล่า
ถ้าไม่อยากถูกตามก็ต้องโยนเงินทิ้ง แต่ถ้าใช้บัตรเครดิตก็โดนรู้อีกว่าอยู่ที่ไหน หนังสายลับคงซับซ้อนขึ้นอีกจมเลย :)
แต่เครื่องอ่าน RFID ที่อ่านได้ไกลขนาดนั้นก็แพงอยู่นะครับ
คุ้น ๆ ประเด็นเรื่อง RFID กับธนบัตร คือ มีการต่อต้านการใช้ RFID กับธนบัตร เพราะทำให้คนร้ายสามารถใช้เครื่องอ่าน RFID เข้าไปใกล้เหยื่อ แล้วรู้ได้ว่าเหยื่อมีเงินมากคุ้มกับความเสี่ยงหรือไม่
แต่เอาเข้าจริง มันไม่น่าจะง่ายขนาดนั้นนะ
Jusci - Google Plus - Twitter
มิน่าถึงได้มีกระเป๋าป้องกันคลื่น RFID ขาย
แล้วตอนคุณพุชายที่ชอบพับเงินเป็นอันเล็กๆ แล้วสอดใส่ตามช่องต่างๆ ของกระเป๋าตัง มันจะทำให้วงจรเสียหายมั้ยล่ะเนี่ย XD
อ่านอันนี้แล้วคิดได้ว่า
ต่อไปถ้าเทคโนโลยีนี้ไปอยู่บนธนบัตรได้คงซ่อนเงินยากขึ้นอีกเยอะ...
คุณภรรยาทั้งหลายคงลงทุนซื้อเครื่องอ่านมาเก็บไว้ประจำบ้านแน่นอน 55+
กำลังจะเม้นแบบนี้อยู่พอดีเลย
หมดกัน อุตส่าห์หาที่ซ่อนเงินแทบตาย!!!
เอาอลูมิเนียมฟลอยด์ห่อไว้
งั้นแบบนี้คุณตำหนวดจราจรก็สะดุ้งสิครับ
เปลี่ยนเป็นให้โอนเงินผ่านมือถือแทน...เงิบ