Opera เปิดตัวเว็บเบราว์เซอร์ Opera One R2 ถือเป็นการอัพเกรดใหญ่ครั้งแรกของ Opera One ที่เปิดตัวเมื่อปี 2023
ของใหม่ที่สำคัญใน Opera One R2 คือระบบธีมแบบไดนามิก ที่ปรับเปลี่ยนสี แอนิเมชัน และเสียงประกอบ! ธีมมีให้เลือก 3 แบบคือ Classic หน้าตาแบบดั้งเดิม, Aurora ธีมสีเข้ม และ Midsommar ธีมสีสว่าง
ผู้ใช้ Chrome เริ่มพบว่า Chrome เริ่มเปิดการทำงานของส่วนขยายที่เขียนด้วย API Manifest V2 ตามแผนที่ประกาศไว้ (ทยอยปิดไปเรื่อยๆ เสร็จสมบูรณ์ช่วงต้นปี 2025) ซึ่งกระทบกับส่วนขยายกลุ่มบล็อคโฆษณา เช่น uBlock Origin
uBlock Origin ตัวบล็อคโฆษณายอดนิยม ประกาศเตือนให้ผู้ใช้บน Chrome ย้ายไปใช้ส่วนขยายอีกตัวคือ uBlock Origin Lite แทน หลัง Chrome เริ่มแจ้งเตือนว่า uBlock Origin จะใช้งานไม่ได้อีกต่อไป (เริ่มใน Chrome 127)
เหตุผลมาจาก นโยบายของ Chrome ที่เริ่มเปลี่ยน API ของส่วนขยายจาก Manifest V2 มาเป็น Manifest V3 ทำให้ผู้ใช้ส่วนขยาย uBlock Origin ตัวต้นฉบับ (รวมถึงส่วนขยายตัวอื่นๆ) ที่เขียนมาแบบ V2 ได้รับการแจ้งเตือนในเบราว์เซอร์แล้ว ผู้ใช้ที่ไม่ได้ติดตามประเด็นเรื่อง Manifest อาจตกใจได้
อภิมหาสงครามระหว่าง YouTube กับชาว ad blocker ยังไม่สิ้นสุดลงง่ายๆ การต่อสู้บทใหม่ล่าสุดคือผู้ใช้ตัวบล็อคโฆษณาอย่าง uBlock Origin เริ่มรายงานว่าเจอปัญหาหน้าจอค้างเป็นสีดำ 6-20 วินาที ถึงแม้ไม่เห็นโฆษณาที่ YouTube ส่งมาให้ แต่ก็ไม่สามารถรับชมวิดีโอได้อยู่ดี ต้องรอจนหมดเวลาช่วงโฆษณา ดูหน้าจอดำๆ ว่างๆ ไปแทน
อาการนี้น่าจะเกิดจาก YouTube ฝังโฆษณาลงในสตรีมวิดีโอจากฝั่งเซิร์ฟเวอร์ ทำให้การบล็อคโฆษณาแบบปิดทิ้งไปเลยทำได้ยากขึ้น ตัวคลิปโฆษณาอาจถูกป้องกันไม่ให้ต้องชมได้ แต่การหาตำแหน่งของสตรีมวิดีโอที่ถูกต้องก็ทำได้ยากกว่าเดิม ผลจึงออกมาเป็นจอดำๆ ว่างๆ ดังที่เห็น
ทีมพัฒนาตัวบล็อคโฆษณา SponsorBlock ที่ใช้บล็อคโฆษณาบน YouTube เปิดเผยว่ากูเกิลกำลังทดสอบการฝังโฆษณาลงในสตรีมวิดีโอมาตั้งแต่ฝั่งเซิร์ฟเวอร์ ซึ่งจะทำให้การบล็อคโฆษณาที่ฝั่งไคลเอนต์ยากขึ้นมาก
ปัจจุบัน YouTube เก็บไฟล์วิดีโอแยกเป็นส่วนๆ (chunk) แล้วปล่อยมาให้ผู้ชมอยู่แล้ว การแทรกโฆษณาที่ฝั่งเซิร์ฟเวอร์จึงเป็นการแทรกคลิปโฆษณาเป็นอีก chunk หนึ่งในสตรีมวิดีโอที่ส่งมายังผู้ชม ฝั่งกูเกิลทำงานไม่ยากนัก
แต่ฝั่งของตัวบล็อคโฆษณาฝั่งไคลเอนต์นั้นไม่มีทางรู้ได้เลยว่า chunk ไหนคือโฆษณาบ้าง และความยาวของคลิปโฆษณามีแค่ไหน ซึ่งทีม SponsorBlock บอกว่ายังไม่มีวิธีหลบเลี่ยงแบบตรงๆ ในตอนนี้
มี รายงานใน Reddit จากคนใช้ YouTube ที่มีตัวบล็อกโฆษณา พบวิธีป้องกันแบบใหม่ โดยตัวเล่นวิดีโอของ YouTube จะกระโดดข้ามไปตอนจบของวิดีโอเลย หากตรวจพบตัวบล็อกโฆษณา แม้พยายามเริ่มต้นจากกลางวิดีโอหรือสั่งเล่นวิดีโอนั้นซ้ำ ก็ไม่เป็นผลเช่นกัน วิธีการเดียวคือต้องปิดการทำงานของตัวบล็อกโฆษณาก่อน
YouTube ประกาศขยายขอบเขตการแบนตัวบล็อกโฆษณาเพิ่มเติม โดยหากผู้ใช้งานดูวิดีโอ YouTube ผ่านแอปภายนอก (3rd Party) ซึ่งมีฟังก์ชันบล็อกโฆษณา อาจพบปัญหาบัฟเฟอร์วิดีโอ หรือพบคำเตือนว่า "The following content is not available on this app" ทำให้ไม่สามารถรับชมวิดีโอได้
ส่วนเหตุผลนั้นก็เหมือนกับที่ YouTube มีแนวทางบล็อกแอป Ad Blocker ทั้งหลาย ตั้งแต่ปีที่แล้ว เพื่อให้ครีเอเตอร์ได้เงินส่วนแบ่งจากผลงาน และแพลตฟอร์มก็มีเงินจากโฆษณามาใช้พัฒนาระบบ ซึ่งหากผู้ใช้งานไม่ต้องการชมโฆษณา ทางเลือกก็คือสมัคร YouTube Premium นั่นเอง
เหตุการณ์ YouTube หน้าเว็บช้าหากใช้ตัวบล็อคโฆษณา ตอนนี้เฉลยแล้วว่าไม่เกี่ยวข้องกับฝั่ง YouTube แต่อย่างใด เพราะสาเหตุกลับมาจาก AdBlock ตัวบล็อคโฆษณายอดนิยมมีบั๊กแทน
AdBlock และ AdBlock Plus (ซึ่งใช้ฐานโค้ดเดียวกัน มีเจ้าของเดียวกันคือบริษัท Eyeo GmbH จากเยอรมนี ) แจ้งกับ 9to5google ว่าพบบั๊กการใช้งานซีพียูพุ่งสูงหากเข้า YouTube และเว็บไซต์อื่นๆ อีกจำนวนหนึ่ง ตอนนี้ทีมงานแก้ปัญหาและออกอัพเดตให้เรียบร้อยแล้ว ผู้ใช้งานควรจะไม่เจอบั๊กแบบเดียวกันนี้อีก
ส่วน YouTube ก็ยืนยันว่าไม่ได้ยุ่งเกี่ยวกับปัญหาหน้าเว็บโหลดช้า มาตรการตรวจจับตัวบล็อคโฆษณาของ YouTube ไม่ได้มีแนวทางในลักษณะนี้
ต่อเนื่องจาก กรณี YouTube เริ่มแบนผู้ที่ใช้ Ad Blocker บล็อคโฆษณา มีผลกับผู้ใช้ทั่วโลก ถึงแม้ ผู้ใช้บางส่วนหาวิธีแก้เกมโดยเปลี่ยนไปใช้ Ad Blocker ตัวอื่นๆ แทน แต่เกมแมวไล่จับหนูของ YouTube ยังดำเนินต่อไป
คราวนี้มี ผู้ใช้ใน Reddit รายงาน ว่า YouTube เริ่มใช้วิธีบีบให้วิดีโอโหลดช้าลงหากมีตัวบล็อคโฆษณา ผู้ใช้ไม่สามารถกดเลื่อนตำแหน่งวิดีโอไปข้างหน้าได้ เพราะบัฟเฟอร์วิดีโอไม่ยอมโหลดให้เหมือนปกติ แต่ปัญหานี้จะหายไปหากปิดตัวบล็อคโฆษณา (ดูคลิปใน Reddit ประกอบ)
กูเกิลเตรียมเพิ่ม userScripts API กลับเข้ามาให้ extension ของ Chrome ใช้งาน หลังก่อนหน้านี้เคยมีฟีเจอร์นี้ใน Manifest V2 แต่ถอนออกไปใน Manifest V3 ตอนนี้เปิดกลับมาแล้ว แต่มีข้อจำกัดเพิ่มเติมหลายอย่าง จุดสำคัญคือผู้ใช้ต้องเปิด developer mode จึงจะใช้งานได้
Google ได้อัปเดต Manifest V3 ใหม่ซึ่งเป็นข้อกำหนดของ Chrome extension ที่เคยถูกวิพากษ์วิจารณ์เรื่องการจำกัดจำนวนตัวบล็อกโฆษณา ซึ่ง Google ประกาศว่าจะเปลี่ยนแปลงจาก Manifest V2 ไปสู่ Manifest V3 ต่อ ด้วยการปรับปรุงข้อกำหนดหลักบางส่วน
หนึ่งในการเปลี่ยนแปลงคือ การปรับปรุงการกรองเนื้อหาสำหรับ Declarative Net Request API ที่ใช้กับ Extension ที่บล็อกโฆษณา ที่ก่อนหน้านี้ Google เสนอให้จำกัดการทำงานของ API นี้ด้วยเหตุผลด้านความปลอดภัย ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อประสิทธิภาพของตัว Ad Blocker ในเบราว์เซอร์ที่ใช้ Chromium ทั้งหมด
ตอนนี้ Manifest V2 [หยุดซัพพอร์ตไปแล้ว] และ Google จะปิดใช้ส่วนขยาย Manifest V2 ในเบราว์เซอร์ของผู้ใช้โดยอัตโนมัติในเดือนมิถุนายนปี 2024 ต่อไป
หลังจาก YouTube เอาจริง กับการบล็อกไม่เล่นคลิป หากพบการใช้ตัวบล็อกโฆษณาที่เบราว์เซอร์ ในระดับวงกว้างกับผู้ใช้ทั่วโลก จากที่ ทดสอบ มาระยะหนึ่ง ตอนนี้เริ่มเห็นผลกระทบบ้างแล้ว แต่ผลกระทบนั้นไม่ได้เกิดกับ YouTube
รายงานของ Wired พบว่านับตั้งแต่ YouTube เริ่มขยายการบล็อกทั่วโลก มีการถอนการติดตั้ง (uninstall) โปรแกรมบล็อกโฆษณาในระดับหลายแสนครั้ง เดือนตุลาคมผู้พัฒนาซอฟต์แวร์บล็อกโฆษณาหลายราย มีจำนวนคนถอนการติดตั้งเป็นสถิติสูงสุดด้วย
YouTube เริ่มแบนการใช้ ad blocker บล็อคโฆษณาในวงกว้าง โดยขึ้นจอดำเตือนว่า "Ad blockers violate YouTube's Terms of Service" พร้อมคำแนะนำให้เปิดโฆษณาคืนมา หรือไม่ก็ลองสมัคร YouTube Premium แทน
มีผู้ใช้จำนวนหนึ่งรายงานบน Reddit ว่าโดน YouTube บล็อคไม่ให้เล่นวิดีโอที่ตัว player เรียบร้อยแล้ว หลังจากใช้ตัวบล็อคโฆษณาที่เบราว์เซอร์
YouTube เคยประกาศมาตรการนี้ไว้ตั้งแต่เดือนพฤษภาคม ว่าหากใช้ ad blocker จะขึ้นข้อความแจ้งเตือนที่ตัว player และอนุญาตให้เล่นคลิปวิดีโอได้เพียง 3 คลิปเท่านั้น ตอนนี้ระบบดังกล่าวเริ่มถูกเปิดใช้งานแล้ว
YouTube เริ่มแจ้งเตือนผู้ใช้ YouTube แบบฟรีว่า ไม่อนุญาตให้ใช้ระบบ Ads blocker เพื่อรับชมเนื้อหาในแพลตฟอร์ม เมื่อเดือนที่แล้ว ล่าสุดดูเหมือน YouTube จะเข้มงวดกับมาตรการบล็อก Ads blocker มากยิ่งขึ้น
เมื่อวานนี้ผู้ใช้ Reddit ท่านหนึ่ง โพสต์ภาพหน้าต่างแจ้งเตือนใน YouTube ขณะใช้ระบบ Ads blocker เพื่อรับชมเนื้อหา การแจ้งเตือนดังกล่าวระบุว่า เครื่องเล่นวีดีโอจะถูกบล็อกหลังจากชม 3 คลิป และจะไม่สามารถเล่นเนื้อหาต่อได้หากยังไม่ปิดการใช้งาน Ads blocker พร้อมตัวเลือกว่า จะยอมรับโฆษณา Youtube Ads หรือ ทดลองใช้ YouTube Premium
เมื่อวานนี้มีผู้ใช้ Reddit โพสต์ภาพสกรีนช็อตจาก YouTube ที่เด้งแจ้งเตือน ไม่อนุญาตให้ใช้งานระบบ Ad Blocker บน YouTube ไม่เช่นนั้นจะไม่สามารถดูคลิปได้ พร้อมตัวเลือกปิด Ad Blocker หรือไปใช้ YouTube Premium ซึ่งก็ชี้ว่า YouTube น่าจะเริ่มจริงจังกับเรื่องนี้มากยิ่งขึ้น
ทาง IGN สอบถามไปยัง YouTube ก่อนได้คำตอบว่าเหตุการณ์ดังกล่าวเป็นการทดสอบเล็กๆ เท่านั้น โดยเปิดทดสอบทั่วโลก ไม่ได้จำกัดเฉพาะที่ใดที่หนึ่ง
- Read more about YouTube เริ่มทดสอบบล็อก Ad Blocker
- 35 comments
- Log in or register to post comments
กูเกิลประกาศปรับแผนการเลิกใช้ API ส่วนขยายแบบเก่า Manifest V2 โดยยืดเวลา จากที่เคยประกาศไว้เล็กน้อย
Mozilla เผยสถิติการใช้งานส่วนขยาย (extension) ของ Firefox ประจำปี 2021 มีการติดตั้งส่วนขยายไปทั้งหมด 109.5 ล้านครั้ง และธีมจำนวน 17.3 ล้านครั้ง (นับตามจำนวน install ต่อเครื่อง) รวม 127 ล้านการติดตั้ง คิดเป็นสัดส่วน 1/3 ของผู้ใช้ Firefox ทั้งหมดประมาณ 400 ล้านคน
ส่วนขยายยอดนิยมอันดับหนึ่งคือ AdBlock Plus มีผู้ใช้เฉลี่ยต่อวัน 6.13 ล้านคน ตามมาด้วย uBlock Origin ที่ 5 ล้านคน โดย uBlock Origin ได้รับความนิยมเพิ่มอย่างรวดเร็ว และถ้ายังสร้างโมเมนตัมได้ต่อเนื่อง อาจแซงหน้า Adblock Plus ได้่สำเร็จในช่วงต้นปี 2022
การเปลี่ยนแปลงสำคัญในเบราว์เซอร์ตระกูล Chromium คือเมื่อปลายปี 2020 Chrome เริ่มใช้ API ส่วนขยายแบบใหม่ที่เรียก Manifest V3 ที่ส่งผลกระทบต่อส่วนขยายกลุ่มบล็อคโฆษณาทั้งหลาย ทำให้เกิดการถกเถียงกันมายาวนาน (ประเด็นถกเถียงสำคัญคือ กูเกิล "ตั้งใจ" เปลี่ยน API เพื่อไม่ให้บล็อคโฆษณาได้เยอะเหมือนเดิมหรือไม่ )
Chrome 88 เป็นเวอร์ชันแรกที่รองรับ Manifest V3 แต่ก็ยังรองรับ Manifest V2 รุ่นเดิมควบคู่กันไปอยู่ โดยกูเกิลบอกว่าจะให้เวลาเปลี่ยนผ่านประมาณ 1 ปี
ล่าสุดกูเกิลออกมาประกาศแผนที่แน่ชัดแล้ว
เมื่อต้นปี 2019 ทีมงาน Chrome เสนอสเปก API ชื่อ Manifest V3 ที่เปลี่ยนพฤติกรรมการควบคุมหน้าเว็บของส่วนขยายเบราว์เซอร์ ตัวบล็อคโฆษณาต้องขอให้เบราว์เซอร์ทำหน้าที่บล็อคโฆษณาให้ ข้อดีคือความปลอดภัยที่เพิ่มขึ้น แต่ส่งผลกระทบให้ตัวบล็อคโฆษณาใช้วิธีเดิมไม่ได้อีก
ข้อเสนอ Manifest V3 เป็นประเด็นถกเถียงกันมากมาย กูเกิลก็ยอมถอยบางก้าว และสุดท้าย เริ่มใช้งานใน Chrome 88 ช่วงปลายปี 2020
วงการเบราว์เซอร์สัปดาห์นี้มีประเด็นใหญ่คือ Chrome 88 Beta เปิดใช้ Manifest V3 ที่ส่งผลกระทบต่อส่วนขยายบล็อคโฆษณาจำนวนมาก
Manifest V3 เป็นประเด็นมาตั้งแต่เดือนมกราคม 2019 หลังวิศวกรกูเกิลเปิดเผยสเปก API ใหม่ ที่ห้ามส่วนขยายแก้ไขหน้าเว็บเพจเองผ่าน webRequest API และให้ไปเรียกใช้ declarativeNetRequest API ที่ให้เบราว์เซอร์เป็นฝ่ายแก้หน้าเพจแทน โดยเหตุผลของกูเกิลคือเรื่องความปลอดภัย ลดโอกาสที่ส่วนขยายจะเห็นข้อมูลส่วนตัวของผู้ใช้บนหน้าเพจ
ไมโครซอฟท์ประกาศทดสอบรองรับ Manifest V3 สเปคส่วนเสริมเบราว์เซอร์ที่ออกโดยกูเกิล โดย Manifest V3 จะถอด API บางส่วนออกจนทำให้ตัวบล็อคโฆษณาหลายยี่ห้อใช้งานไม่ได้ อย่างไรก็ดีไมโครซอฟท์สัญญาว่าจะแก้ข้อจำกัดนี้ก่อนจะถอด API เดิมไปจริงๆ
API เดิมที่ตัวบล็อคโฆษณาใช้งานกันคือ Web Request API ที่เปิดให้ส่วนเสริมสามารถดัดแปลงแก้ไขข้อมูลเว็บก่อนแสดงบนเบราว์เซอร์ได้ ขณะที่ Manifest V3 เพิ่ม Declarative Net Request API ที่เป็นการใส่กฎเพื่อให้เบราว์เซอร์เป็นคนดัดแปลงแก้ไขข้อมูลเอง แนวทางนี้ลดความเสี่ยงส่วนเสริมที่อันตรายลงไปแต่ก็แลกกับความยืดหยุ่นที่น้อยลง โฆษณาสเปคของกูเกิลกำหนดให้ใส่กฎแก้ไขข้อมูลได้ไม่เกิน 30,000 ข้อ
Vivaldi เบราว์เซอร์ทางเลือกเพื่อผู้ใช้ power user โดยอดีตซีอีโอ Opera ได้ประกาศออกเวอร์ชัน 3.0 ที่มุ่งเน้นไปยังฟีเจอร์รักษาความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้ โดยได้เพิ่มทั้งระบบบล็อคโฆษณาและความสามารถในการบล็อคตัวติดตามผู้ใช้งานบนเว็บไซต์เข้ามาในอัพเดตนี้
รายละเอียดของใหม่พอสรุปได้ดังนี้
Chrome เริ่มบล็อคโฆษณา "ที่น่ารำคาญ" มาตั้งแต่ช่วงต้นปี 2018 โดยอ้างอิงนิยามของ กลุ่ม Coalition for Better Ads ที่กูเกิลร่วมกับเฟซบุ๊กก่อตั้งในปี 2016 เพื่อตอบโต้ซอฟต์แวร์บล็อคโฆษณา
ล่าสุดกลุ่ม Coalition for Better Ads ขยายผลเรื่องโฆษณาที่น่ารำคาญมายังวิดีโอ โดยนิยามโฆษณาวิดีโอที่ผู้ใช้ไม่ชอบ 3 รูปแบบ จากการสำรวจความเห็นของผู้ใช้ 45,000 คนใน 8 ประเทศ
Google เปิดตัว ตัวบล็อคโฆษณาบน Chrome มาตั้งแต่ปีที่แล้ว โดยทดลองใช้ในอเมริกาเหนือและยุโรปก่อน ล่าสุดวันนี้ฟีเจอร์นี้ถูกเปิดใช้งานแล้วทั่วโลกตามที่ กูเกิลประกาศไว้
แนวทางการบล็อคโฆษณาของ Chrome จะอิงกับ มาตรฐานของ Coalition’s Better Ads ที่รวบรวมความเห็นจากผู้ใช้หลายหมื่นคน ว่าไม่ชอบประสบการณ์ใช้งานเว็บแบบใด ซึ่งก็มีโฆษณาประเภทที่ใหญ่ทับเนื้อหาในหน้าจอ โฆษณาที่ปิดไม่ได้ต้องรอเวลานับถอยหลัง โฆษณาที่เล่นวิดีโออัตโนมัติแถมเปิดเสียง โฆษณาที่บังเนื้อหาส่วนใหญ่ของจอ เป็นต้น
- Read more about ตัวบล็อคโฆษณาบน Chrome เปิดใช้งานทั่วโลกแล้ววันนี้
- 17 comments
- Log in or register to post comments