True Money ผู้ให้บริการทางการเงินแบบดิจิทัล เปิดให้ผู้ใช้งานแกนจ่ายเงินผ่านร้านค้าที่รองรับ Alipay+ ที่ฮ่องกงได้แล้ว โดยนักท่องเที่ยวชาวไทยสามารถสแกนจ่ายที่ร้านค้ากว่า 90% ทั่วฮ่องกง ที่มีสัญลักษณ์ Alipay+ หรือ AlipayHK ซึ่งครอบคลุมทั้งร้านอาหาร, ร้านค้าปลีก, ร้านสะดวกซื้อ และอื่น ๆ ได้
เพียงแค่เปิดคิวอาร์โค้ดบนแอป True Money เลือกประเทศและสแกนจ่ายโดยไม่ต้องแลกเงินค้างไว้ในบัญชี เพราะระบบจะแปลงเงินบาทในบัญชีตามสกุลและอัตราแลกเปลี่ยนคงที่รายวันตามประเทศที่เลือกให้ใช้จ่ายได้ทันที ไม่มีค่าธรรมเนียมใด ๆ เพิ่มเติม และได้สิทธิพิเศษจาก Alipay+ Rewards ด้วย
TrueMoney จับมือ Alipay+ เปิดบริการใหม่ให้คนไทยที่เดินทางไปยังประเทศจีนสามารถใช้แอป TrueMoney ชำระเงินได้แล้ว
แอป TrueMoney จะใช้ชำระเงินได้ตามร้านค้าในจีนที่รองรับ Alipay+ โดยผู้ใช้สามารถสแกน QR Code ของ Alipay+ ได้ตามหน้าร้านค้า หรือหากร้านค้าไม่มี QR Code สามารถกดเข้าหน้าชำระเงินในแอป เลือกแท็บ Alipay+ และประเทศที่เดินทางไป แอปจะเปลี่ยนเงินบาทเป็นเงินหยวนและหน่วยเงินอื่นให้อัตโนมัติโดยไม่มีค่าธรรมเนียมเพิ่ม
บริษัท แอสเซนด์ มันนี่ จำกัด ประกาศรองรับการใช้แอพ TrueMoney Wallet สแกนจ่ายเงินในต่างประเทศ 8 ประเทศ ได้แก่ ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ สิงคโปร์ มาเลเซีย สหราชอาณาจักร อิตาลี เยอรมนี ฝรั่งเศส โดยจ่ายได้กับร้านค้าที่รองรับเครือข่าย Alipay+ ที่เป็นพาร์ทเนอร์กัน
ใน เว็บไซต์ของ TrueMoney ระบุว่าอัตราการแลกเปลี่ยนจะตายตัวในแต่ละวัน เห็นอัตราแลกเปลี่ยนจริงขณะจ่าย และไม่คิดค่าธรรมเนียมใดๆ เพิ่มเติม
ตัวอย่างร้านค้าที่จ่ายได้คือ Family Mart, Lawson, Don Quijote, Tsuruha, BicCamera ในญี่ปุ่น และ 7-11 ในสนามบินสิงคโปร์
Alipay ประกาศความร่วมมือกับพิพิธภัณฑ์ในจีน 24 แห่งสร้าง NFT บนแพลตฟอร์มบล็อคเชนของตัวเองที่ชื่อว่า Jingtan หรือชื่อนอกจีนว่า AntChain สามารถซื้อ NFT ได้ทางแอป Topnod (鲸探) ของ Alipay เองเท่านั้น
จากปรากฏการณ์รัฐบาลจีนคุมบริษัทเทคโนโลยีหลายราย และอาลีบาบาถือเป็นรายแรกที่โดนควบคุม ล่าสุด Financial Times รายงานว่าหน่วยงานกำกับดูแลของจีน สั่งให้ Ant Group จับแยก Alipay ออกเป็นส่วนๆ โดยให้แยกส่วนของธุรกิจให้กู้ยืมสองแห่งคือ Huabei ซึ่งคล้ายกับบัตรเครดิตแบบดั้งเดิมและ Jiebei ให้สินเชื่อขนาดเล็กที่ไม่มีหลักประกันออกจากบริการการเงินส่วนอื่นๆ ที่เหลือ และเปิดให้มีนักลงทุนภายนอกเข้ามาถือหุ้น
ธนาคารกลางประเทศจีนหรือ PBOC กำลังเตรียมออกคำสั่งใหม่ที่กำหนดให้ผู้ให้บริการระบบชำระเงินจะต้องรายงานเหตุการณ์ที่มีนัยสำคัญทางธุรกิจให้ทางธนาคารกลางรับทราบล่วงหน้าด้วย
สำหรับเหตุการณ์ที่มีนัยสำคัญต่อธุรกิจ ในเบื้องต้นระบุว่ามีทั้ง IPO, เพิ่มทุน, เปิดตัวผลิตภัณฑ์หรือบริการใหม่ ไปจนถึงการร่วมเป็นพาร์ทเนอร์กับบริษัทที่ไม่ใช่บริษัทจีนเพื่อให้บริการชำระเงินระหว่างประเทศ ทั้งหมดนี้จะต้องรายงานภายใน 5 หรือ 30 วันล่วงหน้า ขึ้นกับการตัดสินใจทางธุรกิจ ส่วนถ้าเป็นเหตุการณ์อย่างข้อมูลรั่วไหลหรือการฟอกเงินจะต้องรายงานภายใน 2 หรือ 24 ชั่วโมง ขึ้นกับว่าพบเหตุการณ์ครั้งแรกเมื่อไรและเป็นเหตุการณ์ลักษณะอย่างไร ถ้าบริษัทไม่สามารถทำตามได้จะถูกปรับโดย PBOC
ประธานาธิบดีโจ ไบเดน เซ็นคำสั่งประธานาธิบดี (Executive Order) ยกเลิกคำสั่งแบนแอพจีน WeChat, TikTok, Alipay, WeChat Pay, QQ, QQ Wallet, SHAREit, CamScanner, VMate, WPS Office ในยุคของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์
คำสั่งเดิมที่ทรัมป์เซ็นไว้ในปี 2020 อ้างเหตุผลด้านความมั่นคงในการแบนแอพเหล่านี้ ส่วนคำสั่งใหม่ของไบเดน ยกเลิกวิธีการแบนของทรัมป์ แต่ยังเฝ้าระวังเรื่องความมั่นคงอยู่
ไบเดนมอบหมายให้กระทรวงพาณิชย์ของสหรัฐ หาวิธีประเมินความเสี่ยงที่ดีกว่าเดิม และต้องมีหลักฐานมาสนับสนุนการแบนแอพที่มีความเสี่ยงด้วย (เช่น เจ้าของแอพต้องมีความเชื่อมโยงกับกองทัพหรือหน่วยข่าวกรองต่างชาติ) โดยให้เวลาทำงาน 180 วันร่างแนวทางการประเมินความเสี่ยงกลับมาเสนอประธานาธิบดี
ธนาคารกลางจีน (People's Bank of China - PBOC) เตรียมเพิ่มมาตรการในกฎหมายต้านการผูกขาดสำหรับอุตสาหกรรมเพย์เมนต์จากบริษัทที่ไม่ใช่ธนาคาร (non-bank payment) อย่างเช่น Alipay หรือ WeChat Pay
ร่างกฎหมายใหม่นี้จะให้อำนาจ PBOC สามารถยื่นเรื่องและทำงานร่วมกันคณะกรรมการต่อต้านการผูกขาดได้ง่ายขึ้น ในการจัดการบริษัทเอกชนที่ใช้อำนาจเหนือตลาด ซึ่งจะเข้าข่ายก็ต่อเมื่อบริษัทใดบริษัทหนึ่งมีส่วนแบ่งตลาดระบบจ่ายเงินอิเล็กทรอนิค (ทังเว็บและโมบายล์) เกิน 1/3 หรือ 2 บริษัทมีส่วนแบ่งตลาดรวมกันเกินครึ่ง และจะเข้าข่ายผูกขาดเมื่อบริษัทเดียวมีส่วนแบ่งตลาดเกินครึ่ง
โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีที่กำลังจะออกจากตำแหน่ง ลงนามคำสั่งแบนแอปพลิเคชั่นจากจีนเพิ่มอีก 8 แอป รวมถึงแอปจ่ายเงินตัวดังอย่าง Alipay, WeChat Pay นอกจากนี้ยังมี CamScanner, QQ Wallet, SHAREit, Tencent QQ, VMate และ WPS Office
รัฐบาลจีนสั่งเบรก การขายหุ้น IPO ของ Ant Group บริษัทลูกในเครือ Alibaba ตามแผนเดิมที่จะเริ่มขายหุ้นในวันพฤหัสที่ 5 พฤศจิกายนนี้
ถ้าเป็นไปตามแผน การขายหุ้นของ Ant Group จะเป็น IPO ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก มูลค่า 3.7 หมื่นล้านดอลลาร์ (1.15 ล้านล้านบาท) แต่เมื่อวานนี้ ตลาดหลักทรัพย์เซี่ยงไฮ้เรียก Jack Ma เข้าพบ และเสนอให้เลื่อนกำหนด IPO ออกไป ด้วยเหตุผลว่าติดเงื่อนไขด้านการกำกับดูแลบางอย่าง ซึ่งยังไม่ระบุชัดว่าคืออะไร
ทาง Ant Group แจ้งขอโทษนักลงทุน และระบุว่าจะสื่อสารกับหน่วยงานกำกับดูแลของจีน เพื่อแก้ปัญหาเรื่อง IPO ต่อไป
ต่อจากข่าว รัฐบาลอินเดียแบนแอพจีนระลอกแรก 59 ตัว และ ระลอกสอง 47 ตัว วันนี้อินเดียประกาศแบนแอพระลอกสาม ชุดใหญ่ 118 ตัว
ในจำนวนนี้มีแอพดังๆ อย่าง PUBG Mobile, Baidu, Alipay, VOOV, Youku, Taobao, Arena of Valor (AoV) และแอพตระกูล APUS รวมถึงแอพสายเบราว์เซอร์ ฟังเพลง แกลเลอรี และเกมจีนอีกจำนวนมาก (รายชื่อทั้งหมดอ่านได้จากที่มา)
การแบนแอพจีน 3 ระลอก มีแอพโดนแบนไปแล้ว 224 ตัว โดยใช้อำนาจตามมาตรา 69 ของกฎหมาย Information Technology Act ของอินเดีย
รัฐบาลหลายเมืองในประเทศจีนเตรียมตรวจสอบประวัติความเสี่ยงของประชาชนทุกคนผ่านทางแอปใน Alipay โดยให้ประชาชนเข้าไปกรอกแบบสอบถามว่ามีประวัติความเสี่ยง จากนั้นแอปจะให้ความเสี่ยงเป็นสีเขียว, เหลือง, แดง โดยต้องได้สีเขียวจึงจะเดินทางได้อิสระ หากได้สีอื่นจะถูกสั่งให้กักตัวเอง 7-14 วัน
Kaikai Shi ผู้อาศัยในเมืองหังโจวระบุว่าระบบนี้ผิดพลาดง่ายมาก โดยหากกรอกข้อมูลไม่ครบก็ได้สีเขียวได้โดยง่าย แต่หากใครแจ้งว่าเจ็บคอสักหน่อยก็จะถูกจัดเป็นสีแดงแล้ว โดยทาง Alipay ไม่ได้เปิดเผยว่ากระบวนการตัดสินว่าคำถามใดจะให้สีใด
วันอังคารที่ผ่านมา (5 พ.ย. 2562) Alipay แอพจ่ายเงินของ Ant Financial ภายใต้เครือ Alibaba เปิดให้นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติใช้ชำระเงินภายในประเทศจีนได้แล้ว สมัครเป็นแบบ Tour Pass ใช้ได้ครั้งละ 3 เดือน สามารถเติมเงินเอาไว้ในแอพได้สูงสุด 2,000 หยวนหรือราว 8,600 บาท ถ้าใช้ไม่หมดระบบจะคืนเงินให้อัตโนมัติ
วิธีสมัครใช้เบอร์โทรต่างประเทศ, Visa และบัตรจากธนาคาร แอพนอกจากใช้ซื้อสินค้าทั่วไปยังรองรับการเรียกแท็กซี่, ซื้อตั๋วรถไฟและจองโรงแรมและอื่น ๆ ได้อีกด้วย
South China Morning Post รายงานความเคลื่อนไหวของวงการระบบจ่ายเงิน (Payment) ในจีน จากที่ผ่านมาเราพอทราบกันว่า QR Code เป็นเทคโนโลยีหลักในการจ่ายเงิน แต่ตอนนี้สองค่ายใหญ่ทั้ง Alipay ของ Alibaba และ WeChat Pay ของ Tencent พยายามผลักดันการจ่ายเงินแบบใหม่ โดยใช้การยืนยันด้วยใบหน้าบุคคลแทน
ปัจจุบัน Alipay มีจุดรับชำระเงินด้วยการใช้ใบหน้าอยู่มากกว่า 300 เมืองในจีน และติดตั้งในซูเปอร์มาร์เก็ตใหญ่ของปักกิ่ง ซึ่งระบบของ Alipay นั้นเรียกว่า Smile to Pay กล่าวคือ ลูกค้าต้องยิ้มให้กล้องก่อนเพื่อยืนยันการจ่ายเงิน
จ่ายเงินแล้วต้องสวยด้วย ระบบจ่ายเงินด้วยการสแกนใบหน้าของ Alipay เพิ่มฟิลเตอร์แต่งหน้าสวยก่อนจ่ายเงิน
ปัจจุบัน การจ่ายเงินด้วยหน้าในประเทศจีนนั้นเริ่มได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อย ๆ และนอกจากความแม่นยำแล้วอาจต้องมีลูกเล่นอื่นเพิ่มเติมด้วย ทำให้ระบบจ่ายเงินด้วยการสแกนใบหน้าของ Alipay เพิ่ม “ฟิลเตอร์แต่งหน้า” ให้สวยพร้อมในขณะกำลังจ่ายเงิน
การเพิ่มฟิลเตอร์แต่งหน้าให้สวยก่อนจ่ายเงินนี้ เพื่อเป็นการลดเสียงบ่นจากผู้ใช้งานที่ว่าระบบรู้จำใบหน้า (facial recognition) ทำให้ผู้ใช้ดูไม่ดี โดย Sina Technology เคยทำโพลสำรวจ พบว่าชาวจีนกว่า 60% คิดว่าระบบจ่ายเงินด้วยใบหน้าทำให้พวกเขาดูน่าเกลียดกว่าการถ่ายภาพจากกล้องธรรมดา
แอปเปิลยังคงหาทางเพิ่มส่วนแบ่งการตลาด iPhone ในประเทศจีนให้มากขึ้น โดยล่าสุดแอปเปิลได้ออกแคมเปญร่วมกับ Alipay แพลตฟอร์มจ่ายเงินบนมือถือของ Alibaba ที่ได้รับความนิยม เป็นแคมเปญซื้อสินค้าแบบดอกเบี้ย 0% สำหรับการซื้อผ่าน Apple Online Store
ทั้งนี้เงื่อนไขคือสินค้าที่ซื้อต้องมีราคาอย่างต่ำ 4,000 หยวน ทำให้ iPhone 8 เป็นต้นไปเข้าเงื่อนไขนี้ โดยระยะเวลาผ่อนชำระอยู่ที่ 24 เดือน ซึ่งถือว่าให้เวลานานมาก เทียบกับของ Apple Online Store ประเทศไทย ที่ให้สูงสุด 10 เดือน
ในช่วงที่ผ่านมา แอปเปิลออกแคมเปญแนวผ่อนชำระดอกเบี้ย 0% ในหลายประเทศ รวมทั้งเพิ่มส่วนกรณีนำเครื่องเก่ามาแลกเครื่องใหม่ ไม่ว่าจะเป็นในออสเตรเลีย หรือญี่ปุ่น
จากอิทธิพลพฤติกรรมการใช้ QR Code จ่ายเงินของคนจีน ทำให้ร้านค้าทั่วโลกต้องปรับตัวเพื่อรองรับสถานการณ์ และล่าสุด Walgreens เชนร้านขายยาขนาดใหญ่อันดับสองในสหรัฐฯ ก็จะสามารถรับจ่ายผ่าน QR Alipay ได้อย่างทั่วถึง โดย Alipay ตั้งเป้าว่า Walgreens จะสามารถรับจ่ายเงินผ่าน QR ของ Alipay 7,000 ร้านค้าให้ได้ภายในเมษายนนี้
ทางบริษัทระบุว่า ปัจจุบันรับจ่าย QR ของ Alipay ราว 3,000 ร้านค้าตามเมืองใหญ่ในนิวยอร์ก ซานฟรานซิสโก ลาสเวกัส ปัจจุบัน Walgreens มีร้านค้าราว 9,560 ทั่วสหรัฐฯ
Alipay บอกว่า มีผู้ใช้งานแอพดังกล่าวจ่ายเงินในสหรัฐฯราว 4 ล้านคนต่อปี และในเดือนกันยายน 2018 บริษัทแม่ Walgreens Boots Alliance ได้เจาเข้าไปยังตลาดจีนเป็นครั้งแรกเปิดตัวร้านค้าแฟล็กชิปใน Tmall Global แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซข้ามพรมแดนของอาลีบาบาด้วย
Alipay แพลตฟอร์มสำหรับจ่ายเงินยอดนิยมของจีน ในเครือ Ant Financial สตาร์ทอัพ FinTech ที่มี Alibaba ถือหุ้นหลัก เปิดเผยจำนวนผู้ใช้งานล่าสุดว่าทะลุ 1 พันล้านบัญชีแล้ว โดยตัวเลขนี้นับรวมผู้ใช้งานใน 10 ประเทศ ที่ Alipay มีความร่วมมืออยู่ด้วย
ที่น่าสนใจคือ Alipay บอกว่า สองประเทศนอกจีนที่มีจำนวนผู้ใช้งานสูงคือ Paytm ของอินเดีย และ ทรูมันนี่ของไทย
ในรายงานผลประกอบการของ Alibaba ไตรมาสที่ผ่านมาระบุว่า ผู้ใช้ Alipay ในจีนมีอยู่ 700 ล้านบัญชี และ 70% ของผู้ใช้งานนี้ สมัครใช้บริการทางการเงินของ Ant Financial อย่างน้อย 3 บริการ
ที่มา: Xinhua
Alipay Financial Services HK ซึ่งเป็นบริษัทที่ให้บริการ Alipay ของฮ่องกงประกาศเตรียมนำระบบจ่ายเงินด้วย QR Code มาให้บริการในสถานีรถไฟใต้ดินของฮ่องกง 91 สถานีภายในปี 2020 ซึ่งทาง AlipayHK นั้นเป็นผู้ชนะประมูลงานของ MTR ซึ่งเป็นผู้ให้บริการรถไฟใต้ดินของฮ่องกง
การใช้ Alipay บนสถานีรถไฟใต้ดินฮ่องกง ผู้ใช้เพียงแค่สแกน QR Code ก็สามารถเข้าสู่ระบบรถไฟได้ทันที ซึ่งการสแกน QR Code นั้นใช้เวลาเพียง 0.4 วินาทีเท่านั้น รวมถึงสามารถใช้งานในสภาพที่อินเทอร์เน็ตไม่อำนวยได้ด้วย ซึ่งแม้ว่าปัจจุบัน MTR จะมีบัตร Octopus ให้ใช้งานอยู่แล้ว และบัตร Octopus ก็ครอบคลุมประชากรฮ่องกงถึง 99% แต่การเพิ่มช่องทางการจ่ายเงินก็ช่วยอำนวยความสะดวกให้ผู้เดินทางจากจีนแผ่นดินใหญ่ให้ใช้บริการ MTR ได้สะดวกยิ่งขึ้น
Zomato เว็บค้นหาร้านอาหารของประเทศอินเดีย ประกาศรับเงินเพิ่มทุนอีก 210 ล้านดอลลาร์ จาก Alipay สิงคโปร์ ซึ่งปัจจุบันเป็นผู้ถือหุ้นของ Zomato อยู่แล้
ก่อนหน้านี้ Zomato รับเงินเพิ่มทุน 200 ล้านดอลลาร์จาก Alipay เช่นกันเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ โดยถึงตอนนี้ Alipay ถือหุ้นใน Zomato ราว 20-22% เป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ที่สุด
Zomato ก่อตั้งเมื่อปี 2008 โดยเริ่มจากเป็นเว็บรวมลิสท์ร้านอาหาร ให้บริการใน 41 เมืองของอินเดีย และขยายไปสู่บริการสั่งอาหารและจองโต๊ะอาหาร มีคู่แข่งหลักในอินเดียคือ Swiggy, Uber Eats และ Foodpanda
ที่มา: NDTV
The Wall Street Journal รายงานว่าบริษัทฟินเทครายใหญ่ของจีน Ant Financial มีกำไรจากผลประกอบการในไตรมาสล่าสุดลดลงมากกว่าครึ่งหนึ่ง โดยตัวเลขอยู่ที่ 355.3 ล้านดอลลาร์ เทียบกับปีก่อนซึ่งอยู่ที่ 762 ล้านดอลลาร์ สาเหตุหลักมาจากค่าใช้จ่ายการตลาดเพื่อเพิ่มและรักษาผู้ใช้งานที่สูงขึ้น
Ant Financial ยังเป็นบริษัทนอกตลาดหุ้นในตอนนี้ แต่เนื่องจากมี Alibaba เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ และมีการรับรู้ส่วนแบ่งกำไร ทำให้มีการ รายงานในผลประกอบการประจำไตรมาส จึงสามารถคำนวณกำไรของ Ant Financial ออกมาได้ แต่จะไม่ทราบรายได้
AlipayHK บริษัทร่วมทุนระหว่าง Ant Financial ที่มี Alibaba ถือหุ้นหลัก และ CK Hutchison Holdings กลุ่มธุรกิจรายใหญ่ของฮ่องกง ประกาศความร่วมมือกับ GCash แพลตฟอร์มบริการชำระเงินของ Globe Telecom ผู้ให้บริการมือถือรายใหญ่ของฟิลิปปินส์ เพื่อให้บริการระบบโอนเงินข้ามประเทศที่อิงกับ Blockchain ทำให้มีต้นทุนที่ลดลง
ปัจจุบันมีคนฟิลิปปินส์ที่ทำงานอยู่ในฮ่องกงจำนวนหลายแสนคน มีตัวเลขว่าคนฟิลิปปินส์ส่งเงินกลับประเทศบ้านเกิดมากกว่า 735 ล้านดอลลาร์ ในปีที่ผ่านมา การพัฒนาแพลตฟอร์มโอนเงินใหม่นี้จะช่วยให้ต้นทุนการโอนเงินถูกลง และเป็นการผลักดัน GCash ในฟิลิปปินส์อีกทางหนึ่งด้วย
ตามที่มีข่าวเมื่อต้นสัปดาห์ว่า Ant Financial บริษัทให้บริการด้านการเงินออนไลน์ ซึ่งมี Alibaba เป็นผู้ถือหุ้นหลักและเคยเป็นบริษัทในเครือ เตรียม ระดมทุนรอบใหม่ ด้วยวงเงินสูงเป็นประวัติการณ์ ล่าสุด Ant Financial แถลงแล้วว่า บริษัทได้ทำข้อตกลงเพิ่มทุนซีรี่ส์ C กับกลุ่มนักลงทุน โดยได้เงินรวมประมาณ 14,000 ล้านดอลลาร์ (450,000 ล้านบาท) สูงกว่าตัวเลขที่ออกมาก่อนหน้านี้ถึง 40%
Ant Financial กล่าวว่าเงินทุนรอบใหม่จะนำไปใช้ขยายบริการ Alipay ให้ครอบคลุมทั่วโลก รวมทั้งพัฒนาเทคโนโลยีด้านการเงินใหม่ ๆ เพื่อตอบสนองความต้องการทั้งสำหรับลูกค้าบุคคล และผู้ประกอบการขนาดเล็กทั่วโลก
สำนักข่าว Reuters รายงานว่า Ant Financial กลุ่มบริษัทให้บริการทางด้านการเงินออนไลน์ ที่ Alibaba เป็นผู้ถือหุ้นหลัก ได้เพิ่มทุนรอบใหม่ด้วยวงเงินที่เป็นประวัติศาสตร์อีกครั้ง สูงถึง 1 หมื่นล้านดอลลาร์ หรือราว 3.2 แสนล้านบาท จากกลุ่มนักลงทุนหลายราย ทำให้มูลค่ากิจการของ Ant Financial ล่าสุดอยู่ที่ 1.5 แสนล้านดอลลาร์
Ant Financial ระดมทุนครั้งล่าสุด เมื่อปี 2016 ซึ่งตอนนั้นมูลค่ากิจการอยู่ที่ 6 หมื่นล้านดอลลาร์
ผู้ลงทุนในรอบนี้มีทั้งกองทุนเพื่อความมั่งคั่งหลายแห่ง ตลอดจนนักลงทุนระดับสถาบัน อาทิ GIC และเทมาเส็กของสิงคโปร์, กองทุน Khazanah Nasional ของมาเลเซีย, Carlyle Group, Sequoia Capital และกองทุน Warburg Pinc ของอเมริกา
นับตั้งแต่เดือนเมษายนเป็นต้นไป แมคโดนัลด์ทุกสาขาในไทยจะรองรับการชำระเงินผ่าน Alipay ซึ่งไทยเป็นประเทศแรกนอกจากจีนที่เชนฟาสต์ฟู้ดจากสหรัฐรองรับการชำระเงินผ่าน Alipay
นอกจากแมคโดนัลด์แล้ว ตอนนี้แท็กซี่เอกชนหลายร้อยคันในกรุงเทพก็เริ่มรับชำระเงินผ่าน Alipay แล้ว โดยทาง Alipay มีแผนจะขยายจำนวนเพิ่มเติมในปีนี้ด้วย
ด้าน Alipay ระบุว่าถึงแม้ปัจจุบัน Alipay จะสร้างเครือข่ายกับผู้ประกอบการจำนวนมากซึ่งครอบคลุมทั้งร้านช็อปปิ้ง ร้านสะดวกซื้อ ร้านอาหาร เครื่องดื่ม โรงแรมและสถานที่ท่องเที่ยวแล้วก็ตาม ประกอบกับอัตราการเติบโตที่สูงมากในไทย ทว่าโอกาสทางธุรกิจก็ยังคงมีอีกมาก โดยยอดค่าใช้จ่ายเฉลี่ยของนักท่องเที่ยวจีนในไทยไม่ตำ่กว่า 64,000 บาท
ที่มา - อีเมลประชาสัมพันธ์
- Read more about แมคโดนัลด์และแท็กซี่ในไทยรองรับการชำระเงินผ่าน Alipay
- Log in or register to post comments