Scribd แพลตฟอร์มสำหรับอ่าน PDF และอีบุ๊คออนไลน์ ประกาศเข้าซื้อกิจการ SlideShare ซึ่งปัจจุบันมี LinkedIn เป็นเจ้าของ ด้วยมูลค่าที่ไม่เปิดเผย โดย SlideShare จะอยู่ภายใต้ Scribd มีผลตั้งแต่วันที่ 24 กันยายน เป็นต้นไป

LinkedIn ซื้อกิจการ SlideShare ไปเมื่อปี 2012 และต่อมา LinkedIn ก็ถูก ไมโครซอฟท์ซื้อกิจการ ไปในปี 2016

Trip Adler ซีอีโอ Scribd ให้ความเห็นว่าแม้สองบริษัทนี้จะมีผลิตภัณฑ์คล้ายกัน คือเป็นแพลตฟอร์มอ่านและแชร์เอกสาร แต่ในรายละเอียดก็แตกต่างกัน โดย Scribd เน้นที่ PDF, Word และบทความขนาดยาว (long-form) ขณะที่ SlideShare จะโฟกัสกับ PowerPoint และผู้ใช้งานธุรกิจมากกว่า

เราเห็นบริษัทไอทีหลายรายออกมาช่วยสนับสนุนผู้คนในช่วง COVID-19 ระบาด เช่น GOG แจกเกมฟรี , Audibles เปิดหนังสือเสียงบางส่วนฟรี

ล่าสุด Scribd แพลตฟอร์มอ่านอีบุ๊ก แมกกาซีน หนังสือเสียง ก็ประกาศเปิดคลังหนังสือทั้งหมดฟรีเป็นเวลา 30 วัน โดยไม่จำเป็นต้องกรอกข้อมูลบัตรเครดิตก่อนด้วย

ผู้ที่ต้องการอ่านฟรีต้องเข้าไปกดโค้ดที่ลิงก์ Scribd Read Free โดยมีเงื่อนไขว่าเฉพาะลูกค้าใหม่ที่ไม่เคยจ่ายเงินให้ Scribd มาก่อนเท่านั้น (ใช้ฟรีได้ถึง 17 เมษายน)

วงการอีบุ๊กแม้จะดูไม่สดใสมากนัก แต่ก็ใช่ว่าจะไม่มีคนใช้ เมื่อ Scribd ที่ให้บริการอีบุ๊กแบบสมัครสมาชิกรายเดือนระบุว่ามีสมาชิกแตะ 1 ล้านรายแล้ว ซึ่งแม้จะห่างไกลจากตัวเลขของ Spotify (87 ล้าน) และ Netflix (150 ล้าน) แต่ตัวเลขดังกล่าวก็พอสะท้อนความนิยมในตลาดนี้ได้ระดับระดับหนึ่ง

Scribd เริ่มให้บริการอีบุ๊กแบบสมาชิกรายเดือนตั้งแต่ 2013 ก่อนจะเพิ่ม ออดิโอบุ๊กในปีถัดมา และปรับโมเดลการอ่านและฟังอีบุ๊กรายเดือนมาเป็นแบบไม่จำกัดเมื่อปีที่แล้ว ซึ่ง Scribd บอกว่าได้รับเสียงตอบรับดีมากด้วยอัตราการเติบโตของสมาชิกแบบปีต่อปีถึง 40% ส่วนออดิโอบุ๊กก็มีผู้ใช้งานเพิ่มขึ้นจากปีก่อนเกิน 100%

ก่อนหน้านี้ Spotify ร่วมกับ Hulu ทำโปรโมชั่นสองแพลตฟอร์มราคาเดียว 12.99 ดอลลาร์ต่อเดือน และล่าสุด ดูเหมือนว่าความร่วมมือจะไม่หยุดแค่นี้ เมื่อ Spotify อาจเพิ่ม อ่านอีบุ๊ก Scribd เว็บไซต์รับฝากไฟล์ PDF เข้ามาในแพ็กเกจพรีเมี่ยมด้วย

Scribd บริการฝากไฟล์ PDF ที่ตอนหลัง เริ่มขยายการให้บริการมาในด้านอีบุ๊ค ตอนนี้ได้เพิ่มนิตยสารใหม่เข้ามาในระบบให้สมาชิกได้เข้าถึงแบบไม่จำกัดหลายเล่ม ทั้ง Bloomberg Businessweek, Fortune, Money, New York, People และ Time ซึ่งนิตยสารเหล่านี้จะมาเป็นฉบับเต็ม

หนังสือเหล่านี้จะปรากฎเป็นลิงก์มาตามสิ่งที่ผู้ใช้สนใจ หรือขึ้นมาเป็นบทความแนะนำตามสิ่งที่ผู้ใช้กำลังอ่านอยู่ โดยผู้ใช้ Scribd ที่จ่ายเงินค่าสมาชิก 8.99 ดอลลาร์ต่อเดือนสามารถเข้าไปอ่านได้ทันทีโดยไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม

ที่มา - Engadget

เว็บฝาก PDF อย่าง Scribd มีแนวทางหาเงินคือ การขายหนังสือมาตั้งแต่ปีที่แล้ว ตอนนี้ก็เพิ่มหมวดสินค้าเป็นออดิโอบุ๊กเพิ่มเข้ามาถึง 30,000 รายการ กลายเป็นคลังอีบุ๊กและออดิโอบุ๊กที่ใหญ่ที่สุด

ค่าบริการยังคงเดิมคือ 8.99 ดอลลาร์ต่อเดือนสามารถฟังและอ่านได้ไม่จำกัด

คลังหนังสืออาจจะไม่ใหญ่เท่า Kindle แต่ราคาก็ถูกกว่ามาก เช่น Audible นั้นค่าสมาชิกรายเดือนเริ่มต้นเดือนละ 14.95 ดอลลาร์ แถมเป็นระบบเครดิตคือได้หนังสือมาเลยแต่ต้องเลือกเดือนละเล่ม

ที่มา - Scribd

หลังจากที่ปล่อยให้ผู้ใช้ฝั่งวินโดวส์ต้องใช้งานผ่านหน้าเว็บมานาน ตอนนี้ทาง Scribd ก็ได้เปิดตัว Universal Windows Apps ให้ใช้งานกันแล้วครับ

เว็บ Scribd เป็นเว็บที่หลายคนใช้ค้นหาเอกสาร PDF กันบ่อยๆ แต่ตอนนี้ผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตรายหลักๆ ของไทยก็บล็อค Scribd แล้ว

ผมตรวจสอบการบล็อคของทรูพบว่าเป็นการบล็อคพอร์ต 80 ของไอพี 199.27.77.175 ของ Scribd โดยตัว DNS ยังคงตอบค่าอย่างถูกต้อง แต่ข้อมูลที่ได้มานั้นกลับมีเพียง "302 Moved Temporary" โดยสั่งให้เบราว์เซอร์เข้าไปยัง tcsd.info แทน

ผมตรวจสอบดูพบว่ามีบางหน้ายังคงเข้าใช้งานได้ แต่หน้าแรกของเว็บนั้นกลับไม่สามารถใช้งานได้แสดงว่าไม่ได้เป็นการบล็อคทั้งโดเมน แต่ทำไมจึงเลือกบล็อคตั้งแต่หน้าแรกก็ยังไม่ชัดเจนนัก

น่าเสียดายที่ Scribd ไม่เปิดบริการ HTTPS ดังนั้นตอนนี้หากใครจำเป็นต้องใช้งานคงต้อง VPN กันอย่างเดียวครับ

เว็บไซต์รับฝากไฟล์เอกสาร Scribd เปิดตัวธุรกิจแขนงใหม่เป็นการให้บริการอ่านอีบุ๊กแบบเหมาจ่ายรายเดือน โดยลูกค้าจ่าย 8.99 ดอลลาร์ต่อเดือนแล้วสามารถอ่านอีบุ๊กได้ไม่จำกัดจำนวน (คล้ายๆ กับ Netflix แต่เปลี่ยนจากภาพยนตร์เป็นอีบุ๊กแทน)

Scribd ประกาศว่าตอนนี้มีสำนักพิมพ์ใหญ่อย่าง HarperCollins เข้าร่วมโครงการแล้ว และมีสำนักพิมพ์รายเล็กๆ เข้าร่วมอีกหลายราย

ธุรกิจของ Scribd ตอนนี้ไปได้แล้วในแง่จำนวน มีผู้ใช้งานเฉลี่ย 80 ล้านคนต่อเดือน เอกสารและหนังสือกว่า 40 ล้านรายการ ขั้นต่อไปคงอยู่ที่การสร้างรายได้จากผู้ใช้เหล่านี้นั่นเอง

ที่มา - Scribd Blog

ประเด็นเรื่อง Flash ยังเป็นที่ถกเถียงกันอย่างเคย และยังไม่น่าจะจบง่ายๆ

ล่าสุด Scribd เว็บไซต์ฝากไฟล์เอกสารที่สามารถนำมาแปะบนเว็บไซต์อื่นๆ ผ่าน Flash (Blognone เองก็เคยใช้บริการอยู่บ่อยๆ) ได้ประกาศว่าเตรียมเลิกใช้ Flash และจะแปลงเอกสารทั้งหมดเป็นเว็บเพจแบบ HTML5 แทน

Jared Friedman ผู้ก่อตั้งบริษัทให้สัมภาษณ์ว่า Scribd จะยกเลิกแพลตฟอร์ม Flash ที่พัฒนามา 3 ปี และเสี่ยงกับเทคโนโลยี HTML5 เพราะเขาเชื่อว่า HTML5 ให้ประสบการณ์ในการอ่านเอกสารดีกว่า Flash