Starbucks เปิดตัวร้านคอนเซปต์ใหม่ Starbucks Pickup with Amazon Go (ชื่อนี้จริง ๆ) โดยเป็นความร่วมมือกับ Amazon ที่นำเทคโนโลยีร้านค้าแบบไม่มีพนักงาน Amazon Go ที่สามารถเลือกสินค้าแล้วเดินออกจากร้านโดยคิดเงินอัตโนมัติ (Just Walk Out) มาใช้ร่วมกับร้านกาแฟ
Katie Young ผู้บริหารจาก Starbucks อธิบายว่ารูปแบบร้านใหม่นี้ เป็นการเพิ่มทางเลือกรูปแบบประสบการณ์ใช้บริการที่ลูกค้าต้องการ ทั้งแบบเร่งรีบ เข้ามาที่ร้าน รับเครื่องดื่ม และเลือกสินค้าเดินออกไปเลยไม่ต้องรอคิว หรือแบบรับเครื่องดื่ม และนั่งโต๊ะทำงานภายในพื้นที่ร้าน ก็มีรองรับเช่นเดียวกัน
ในการสั่งเครื่องดื่ม ลูกค้าจะสั่งผ่านแอปของ Starbucks เมื่อไปถึงร้านก็สามารถรับเครื่องดื่มได้ที่เคาน์เตอร์ (มีพนักงาน) ส่วนสินค้าอื่นในร้านเป็นความร่วมมือกับ Amazon Go โดยใช้โค้ดผ่านเข้าไปในแอป Amazon จากนั้นก็หยิบสินค้าและเดินออกมาได้เหมือนการใช้งานร้าน Amazon Go
Starbucks Pickup with Amazon Go สาขาแรกตั้งอยู่ที่ 59th Street นิวยอร์ก บริษัทมีแผนจะเปิดสาขารูปแบบนี้อีกสองแห่งภายในปี 2022
Comments
ถ้าเปิดในบ้านเราจริงๆ คงมีเปลี่ยนชื่อด้านหลัง
กล้องยุ่บยั่บเลย ^ ^"
จริง ๆ มันเป็นแบบนั้นตั้งแต่ Amazon Go สาขาแรกที่ Seattle แล้วครับ กล้องเต็มไปหมดเพื่อจะได้ดูว่าสินค้าชิ้นไหนที่เราหยิบไปบ้าง และมันจะคิดเงินในแอปไปเลยครับ
Coder | Designer | Thinker | Blogger
กล้องด้านบนดูขัดหูขัดตามาก น่าจะเป็นอีก pain point นึงที่น่ามีคนพัฒนาเพิ่ม ตามนุษย์คู่เดียวสามารถดูแลร้านได้เกือบทั้งร้าน แต่คอมพิวเตอร์ยังจำเป็นต้องใช้กล้องจำนวนมากประมวลผล ถ้ามีใครลดจำนวนกล้องให้เหลือน้อยลงได้ ผมว่าร้านสะดวกซื้อในโลกก็พร้อมต้อนรับคุณในอนาคต เพราะปัญหาการหาพนักงานมาประจำในร้านสะดวกซื้อเป็นอะไรที่น่าปวดหัว
ตามนุษย์คู่เดียวไม่สามารถดูทั้งร้านได้นะครับต้องดูหน้าจอที่มีภาพจากกล้องวงจรปิดอยู่ดี 55555
เออจริงแหะ 555 ผมว่าระบบก็ยังปรับปรุงได้อีกเยอะแหล่ะ กล้องมันเยอะไป เปลืองทั้งทรัพยากรประมวลผล เปลืองทั้งการดูแลรักษา ถ้าใครลดต้นทุนตรงนี้ได้ก็น่าจะมีอีกหลาย brand ที่สนใจ
สมมุติ ติดกล้อง 50 ตัว ตัวละ 10000 ค่ากล้อง 5 แสน ค่าระบบลงทุน 1 ล้านบาท 1.5 ล้าน แคชเชียร์สองคน เงินเดือนเดือนละ 50000 บาท (เรทเมืองนอก) ปีกว่าก็คืนทุนละนะครับ
+1 ค่าใช้จ่ายเรื่องกล้องไม่ได้แพงเลย ถูกและง่ายกว่าจ้างคนเยอะ
จริงๆมันก็มีเทคโนโลยีอื่นๆ ที่แม่นกว่า ดีกว่าแหละครับ แต่มันแพงกว่ามาก และไม่สะดวก (เช่นติด rfid ทุกชิ้น)กล้องนี่ สะดวกสุด ถูกสุด ในบรรดา tech ที่มีทั้งหมดแล้วครับ มันแค่ไม่แม่น 100% (ตอนสมัยแรกๆ amazon ยังยอมให้คนบอกว่า ฉันไม่ได้ซื้อสิ่งนี้ แล้วคืนเงินให้ ต่อให้หยิบมาจริงๆก็ตาม ส่วนนึงคือน่าจะตัดปัญหาเรื่องร้องเรียนกับกลัวคนไม่มาใช้)
คิดว่าแก้ปัญหาจุดอับสายตาครับ แค่คนยันบังมุมกล้อง คุณก็ไม่มีทางแน่ใจจนสิ้นสงสัยว่าลูกค้าคนไหนหยิบอะไรไปกันแน่ ซึ่งกรณีร้านแบบนี้ ระบบต้องประมวลผลให้เสร็จทันทีแบบ real-time
ซึ่งกรณีใช้กล้องวงจรปิดตามร้านค้า บางครั้งเอาคนมานั่งดูยังฟันธงไม่ได้เลยก็มี
มันคงไม่ได้มีแค่กล้อง น่าจะมี infrared ที่คอยscan QR Barcode ตลอดเวลาและในหลายมุม รวมไปถึงระบบ AR ที่คอยให้ระบบส่องคนซื้อได้แบบ Real-time