Starling Home Hub เป็นอุปกรณ์สมาร์ทโฮมที่ช่วยเชื่อมอุปกรณ์ตระกูล Nest หรืออุปกรณ์ที่ใช้ระบบของ Google Home เข้ากับอุปกรณ์ระบบ HomeKit ของ Apple และควบคุมผ่าน Siri ได้ รวมถึงมี Developer Connect API เชื่อมอุปกรณ์อื่นๆ ได้อีก

ก่อนหน้านี้ Starling Home Hub ยังไม่รองรับการเล่นวิดีโอหรือเพลงผ่าน Apple AirPlay บนอุปกรณ์เช่น Google Nest Speaker หรือ Nest Smart Display แต่ปัจจุบันทำได้แล้วผ่านอัพเดตเวอร์ชั่น 9.0 หลัง Apple เพิ่มความสะดวกให้ผู้ใช้ที่ใช้ทั้งอุปกรณ์ฝั่ง Android/Google และฝั่ง iOS/HomeKit หลัง Apple อัพเดตให้ Apple Music เล่นบนอุปกรณ์ Google Home ได้ และล่าสุดเพิ่งอัพเดตให้แอป Apple TV ดาวน์โหลดได้บนทีวี Android ส่วนใหญ่ เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา

Logitech เปิดตัว Circle View Camera กล้องนิรภัย ที่รองรับโปรโตคอล Apple Homekit และรองรับ Homekit Secure Video ระบบกล้องนิรภัยของ Apple

Circle View Camera เป็นกล้องนิรภัยความละเอียด 1080p มุมมอง 180 องศาพร้อมแสงอินฟราเรด มองเห็นได้ไกลถึง 15 ฟุต และสามารถปัดกล้องลง หรือกดปุ่มปิดเสียงและภาพชั่วคราวได้ หากต้องการความเป็นส่วนตัว

Homekit Secure Video ของ Apple จะใช้ระบบตรวจสอบบนเครื่องเพื่อระบุว่ามีบุคคล ยานพาหนะ หรือสัตว์ เคลื่อนไหวอยู่ในกล้อง ก่อนจะบันทึกวิดีโอลงบน iCloud โดยไม่กินพื้นที่ความจุของผู้ใช้ และสามารถดูวิดีโอที่บันทึกได้ผ่านแอป Apple Home

คู่มากับข่าว Amazon, Apple, Google, Zigbee พัฒนามาตรฐานเชื่อมต่ออุปกรณ์สมาร์ทโฮมร่วมกัน แอปเปิลยังเปิดซอร์สบางส่วนของแพลตฟอร์ม HomeKit ออกมาให้ใช้กัน

ส่วนที่เปิดซอร์สคือ HomeKit Accessory Development Kit (ADK) เป็นชุดซอฟต์แวร์ที่ให้ผู้ผลิตฮาร์ดแวร์ทั้งหลายใช้เขียนเพื่อเชื่อมต่อสินค้าของตัวเองเข้ากับ HomeKit ผ่านโปรโตคอล HomeKit Accessory Protocol (HAP)

ก่อนหน้านี้ Samsung เป็นรายแรกที่ ประกาศ รองรับ AirPlay 2 ไปแล้ว ซึ่ง Apple ก็บอกใบ้ ว่าจะมีผู้ผลิตทีวีอีกหลายรายรองรับ AirPlay 2

ล่าสุดเป็นผู้ผลิตทีวี Vizio ประกาศเปิดตัวแพลตฟอร์มสมาร์ททีวีของตัวเองคือ SmartCast เวอร์ชันใหม่ 3.0 โดยมีฟีเจอร์ที่น่าสนใจคือรองรับ AirPlay 2 เพื่อให้ผู้ใช้ Apple สตรีมมิ่ง AirPlay มายังทีวี SmartCast ของ Vizio ได้โดยตรง รวมถึงรองรับ HomeKit แพลตฟอร์มสมาร์ทโฮมของ Apple เพื่อให้ผู้ใช้ควบคุมทีวีผ่านแอพ Home หรือจะสั่ง Siri ก็ได้

IKEA เตรียมเพิ่มฟังก์ชันให้กับหลอดไฟแอลอีดีอัจฉริยะ TRÅDFRI ให้ผู้ใช้สามารถควบคุมได้ผ่านการสั่งงาน Amazon Alexa, Google Assistant, Siri เพื่อตั้งค่าและจัดการหลอดไฟ รวมถึงรองรับการใช้งานกับระบบ HomeKit ของ Apple เพื่อให้สามารถใช้งานกับแอพ Home ด้วย แต่เดิมที่ต้องใช้แอพเฉพาะในการควบคุมเท่านั้น โดยฟีเจอร์ดังกล่าว IKEA เผยว่าจะเริ่มปล่อยออกสู่ตลาดจริงในช่วงฤดูร้อนนี้

หลอดไฟอัจฉริยะของ IKEA วางจำหน่ายแล้วเฉพาะในอเมริกาเหนือและยุโรปเท่านั้น ซึ่งปกติแล้วราคาของระบบไฟอัจฉริยะมักจะมีราคาแพง เช่น Philips Hue Bridge 2.0 ที่ 60 ดอลลาร์ แต่​ระบบของ IKEA จะมีราคาเพียงครึ่งเดียวที่ 30 ดอลลาร์เท่านั้น (แต่ของ Philips ก็มีความสามารถมากกว่า)

เก็บตกจากฟีเจอร์ของ iOS 9 เพิ่มเติมสำหรับแพลตฟอร์มของแอปเปิลทั้ง HomeKit และ HealthKit ว่ามีฟีเจอร์อะไรเพิ่มเติมมากับอัพเดตใหญ่ครั้งนี้บ้าง

ในส่วนของ HomeKit บน iOS 9 จะรองรับการควบคุมผ่าน iCloud สำหรับใช้ควบคุมอุปกรณ์ในบ้านได้ แม้ว่าจะไม่ได้อยู่ในบ้าน และอาจไม่ต้องใช้ Apple TV เป็นฮับสำหรับควบคุมอีกต่อไป นอกจากนี้ HomeKit ยังรองรับอุปกรณ์เพิ่มเติมอย่าง บานเกล็ดหน้าต่าง เซนเซอร์จับการเคลื่อนไหว และระบบความปลอดภัยอื่นๆ รวมถึงอุปกรณ์สำหรับผู้พิการทางสายตาอีกด้วย

แอปเปิลเคยเกริ่นมาแล้วว่า จะเริ่มมีอุปกรณ์สมาร์ทโฮมที่รองรับ HomeKit วางขาย ภายในเดือนนี้ ล่าสุดผู้ผลิตหลายเจ้าเริ่มเปิดตัวอุปกรณ์ชุดแรกออกมาแล้ว

นอกจากภายในเดือนหน้าจะมีอุปกรณ์ที่รองรับ HomeKit เริ่มลงตลาดแล้ว ใน iOS 9 รุ่นต่อไปที่กำลังจะเปิดตัวก็จะมีตัวช่วยสำหรับจัดการอุปกรณ์ผ่าน iPhone ในชื่อ Home มาด้วย

การทำงานของแอพ Home บน iOS 9 จะใช้สำหรับสั่งงานแบบพื้นฐาน เช่น ค้นหาอุปกรณ์ในเครือข่ายที่รองรับ HomeKit และติดตั้งอุปกรณ์ครั้งแรก จัดรวมอุปกรณ์แบ่งไว้ตามห้องต่างๆ เพื่อง่ายต่อการจัดการ และมีหน้าสำหรับแนะนำอุปกรณ์ หรือแอพ HomeKit ให้อีก

ดูคร่าวๆ แล้ว การทำงานของแอพ Home จะคล้ายกับแอพ Health ที่ใส่มาใน iOS 8 โดยเปลี่ยนจากข้อมูลสุขภาพมาเป็นเครื่องใช้ภายในบ้านแทน โดยมี Apple TV เป็นฮับกลางสำหรับเชื่อมทุกอุปกรณ์เข้าด้วยกัน

รวมสองข่าวของ HomeKit ที่ออกมาไล่ๆ กัน เรื่องแรกคือแอปเปิลออกมาประกาศว่าอุปกรณ์ที่รองรับ HomeKit แพลตฟอร์มสำหรับจัดการเครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้านที่เปิดตัวมาเกือบปี ใกล้จะเริ่มวางขายในเดือนมิถุนายนนี้แล้ว หลังจากมีข่าวออกมาว่าจะเลื่อนไปเป็นช่วงปลายปี

ในขณะที่ผู้ผลิตชิปเซ็ตอย่าง Broadcom ที่มีแพลตฟอร์มสำหรับ IoTs อยู่แล้วในชื่อ WICED ก็ออกมาปล่อย SDK ตัวใหม่ที่รองรับการทำงานร่วมกับ HomeKit อย่างสมบูรณ์เช่นกัน โดยฟีเจอร์หลักๆ ของ แพลตฟอร์มนี้คือการรองรับ Wi-Fi 802.11ab/g/n และ Bluetooth Smart, กินหน่วยความจำน้อย, มีชุดพัฒนามาให้ในตัว, มีระบบการทำงานที่น่าเชื่อถือ และปลอดภัย รวมถึงสามารถอัพเกรดไร้สายได้

ใกล้ถึงคิวออกโรงของ HomeKit แพลตฟอร์มสำหรับสั่งงานเครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้านที่เปิดตัวมาพร้อมกับ iOS 8 ที่ตอนนี้มีผู้ผลิตชิปรายใหญ่อย่าง Marvell ออกมาปล่อยบอร์ดสำหรับพัฒนาอุปกรณ์ HomeKit เป็นครั้งแรกแล้ว

ในบอร์ดของ Marvell จะประกอบไปด้วยชิปไมโครคอนโทรลเลอร์ 88MC200, ชิป Wi-Fi รหัส 88W9901 และตัวซอฟต์แวร์สนับสนุนอย่าง EZ-Connect รวมถึง SDK สำหรับพัฒนา โดยทาง Marvell เคลมว่าเป็นเจ้าแรกที่ออกบอร์ดมาสนับสนุน HomeKit ทั้งฮาร์ดแวร์ และซอฟต์แวร์

สำหรับแพลตฟอร์ม HomeKit แม้ว่าจะเปิดตัวมาตั้งแต่ปีก่อน แต่ฝั่งผู้ผลิตเองยังขยับตามไม่มากนัก ส่วนหนึ่งมาจาก HomeKit นั้นเลือกพาร์ทเนอร์คล้ายกับโครงการ Made for iPhone (MFi) ที่ต้องปรับแต่งอุปกรณ์ให้ใช้งานได้กับของแอปเปิลก่อนวางขายจริงนั่นเอง

หลังจากที่เปิตดัว HomeKit แพลตฟอร์มสำหรับควบคุมอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าทั้งหลายในบ้านไป ล่าสุดมีข่าวลือว่าทางแอปเปิลกำลังพัฒนาฮาร์ดแวร์สำหรับใช้ในบ้านออกมาด้วย โดยคาดว่าแอปเปิลจะผลิตอุปกรณ์ที่สามารถใช้งานได้อย่างแพร่หลายอีกด้วย

แอปเปิลเปิดตัว HomeKit เป็นโปรโตคอลสำหรับการสื่อสารระหว่างอุปกรณ์ iOS กับเครื่องใช้ในบ้านนับแต่ประตู หลอดไฟ ไปจนถึงกล้องวงจรปิด

แอปเปิลระบุว่าตัวโปรโตคอลจะทำให้โทรศัพท์และเครื่องใช้ในบ้านจับคู่กันโดยมีความปลอดภัย ทำให้โทรศัพท์เฉพาะเครื่องของเราเท่านั้นที่จะควบคุมประตูหรือหลอดไฟในบ้านได้ ขณะที่ฟีเจอร์เมื่อควบคุมเครื่องใช้ทั้งหมดแล้ว เราจะสามารถจัดกลุ่มเพื่อเซ็ตค่าเป็นชุดๆ ได้ เช่น เมื่อจะเข้านอนก็สามารถล็อกประตู ปิดไฟ และปรับอุณหภูมิห้อง

ผู้ผลิตที่ประกาศจะรองรับ HomeKit แล้วมีตั้งแต่ผู้ผลิตอุปกรณ์ไฟฟ้าโดยตรงอย่าง Haier, Honeywell, หรือ Philip ไปจนถึงผู้ผลิตชิปอย่าง Texas Instrument และ Broadcom

Financial Times เผยว่าแอปเปิลกำลังสร้างแพลตฟอร์มที่จะทำให้ไอโฟนกลายเป็นรีโมทสำหรับควบคุมเครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้านทั้งหมด ตั้งแต่ระบบแสงไฟจนถึงอุปกรณ์อื่น ๆ อย่างแอร์และโทรทัศน์ โดยทุกวันนี้อุปกรณ์อย่าง Philips Hue และ Nest สามารถควบคุมผ่านไอโฟนได้แล้วผ่านแอพพลิเคชันของตัวเอง แต่แอปเปิลต้องการทำแพลตฟอร์มที่รวมเอาการควบคุมทุกอุปกรณ์ให้มีประสบการณ์ใช้งานรูปแบบเดียวกัน