ทันทีที่เกิดเหตุข้อมูลหลุดและกรณีระหว่าง Facebook และ Cambridge Analytica ทาง Facebook ก็เร่งแก้ไข และสัญญาว่าจะทำฟีเจอร์ความปลอดภัย Clear History ออกมาใช้ นับจาก วันที่ประกาศ จนถึงตอนนี้ก็ 7 เดือนแล้ว
ฟีเจอร์ Clear History ที่ Facebook อธิบายไว้คือ เป็นฟีเจอร์ที่ช่วยให้ผู้ใช้รู้ว่ามีเว็บหรือแอพใดส่งข้อมูลผู้ใช้กลับไปยัง Facebook โดยผู้ใช้สามารถปิดการส่งข้อมูลได้ แต่เดิมข้อมูลที่ส่งมานี้ใช้เพื่อการทำตลาดอย่างเจาะกลุ่ม Facebook ประกาศตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคมที่ผ่านมาว่าจะใช้เวลาสร้างฟีเจอร์นี้ 2-3 เดือนแต่จนตอนนี้ก็ยังไม่สามารถเปิดให้คนทั่วไปใช้งาน
ภาพจาก Facebook Newsroom
Recode สอบถามไปยัง Facebook ได้คำตอบจาก Erin Egan ผู้ทำหน้าที่ซีพีโอหรือ Chief Privacy Officer ว่า ฟีเจอร์ยังคงไม่พร้อมภายในช่วงระยะเวลาอันใกล้นี้ และจะทดสอบฟีเจอร์ดังกล่าวช่วงฤดูใบไม้ผลิปี 2019
David Baser ผู้อำนวยการผลิตภัณฑ์ อธิบายเหตุที่ฟีเจอร์ล่าช้าเพิ่มเติมว่า ข้อมูลผู้ใช้ไม่ได้ถูกเก็บในแนวทางเดียวกับตอนที่ได้ข้อมูลมา และยังมีข้อมูลหลายชุด เช่น ข้อมูลระบุตัวตนของผู้ใช้ เว็บไซต์ที่ผู้ใช้เข้า และเมื่อไรที่การเก็บข้อมูลนั้นเกิดขึ้น เป็นต้น ซึ่งบางครั้งข้อมุลเหล่านี้ มันถูกเก็บแยกกัน ซึ่งเป็นความท้าทายที่จะต้องหาทางออกต่อไป
Baser อธิบายเพิ่มว่า ตอนนี้ Facebook มีข้อมูลวันที่และเวลาที่ผู้ใช้เข้าใช้งานเว็บไซต์อื่น แต่ไม่ได้ระบุถึงขนาดว่า เวลานี้ ใครเข้ามาใช้ มันจึงยากในการจับคู่เวลาที่เข้าใช้งานกับผู้ใช้แต่ละราย เท่ากับว่า Facebook ต้องสร้างระบบใหม่ซึ่งไม่ง่ายเลยในทางปฏิบัติ
ที่มา - Recode
Comments
มีปัญหาจริงหรือแค่ข้ออ้างถ่วงเวลาเนี่ย ไม่มีความน่าเชื่อถือเลยจริงๆ
ความล้มเหลว คือจุดเริ่มต้นสู่ความหายนะ มีผลกระทบมากกว่าแค่เสียเงิน เวลา อนาคต และทรัพยากรที่เสียไป - จงอย่าล้มเหลว
น่าจะถ่วงเวลานะ เพราะตอนนี้แทบไม่มีความน่าเชื่อถือเหลืออยู่ละ ที่ยังใช้อยู่ก็เพราะ group+commu ในไทยเนี่ยล่ะ
ผ่ามมมมม จริงๆ แค่ซ่อนไว้
deletefacebook