หลังจากปล่อยให้ Xbox Series X เปิดเผยสเปกนำไปก่อน วันนี้ Sony ก็มีงานแถลงเปิดตัว PS5 พร้อมเปิดเผยสเปกต่างๆ ในเชิงเทคนิคของตัวเครื่องแบบละเอียดเช่นกัน ซึ่งมีดังนี้
- ซีพียูคัสตอม Zen 2 จำนวน 8 คอร์ คล็อคที่ 3.8GHz
- จีพียูคัสตอม RDNA 2 จำนวน 36 คอร์ (compute unit) สมรรถนะ 10.28 TFLOPS รองรับ Ray Tracing
- แรม 16GB GDDR6 แบนด์วิธ 448GB/s
- SSD NVMe แบบคัสตอม 825GB, ความเร็วการอ่าน I/O Throughput ที่ 5.5 GBps (raw data)
- รองรับการต่อฮาร์ดดิสก์ภายนอก
- รองรับการใส่ NVMe SSD บางรุ่น (ในคีย์โน้ตบอก M.2) ที่ความเร็วและสเปกถึงตามที่ Sony กำหนด
- ตัวอ่านแผ่น 4K UHD Blu-ray
จีพียู Custom RDNA2 จะรองรับ ray tracing ที่ระดับฮาร์ดแวร์เช่นเดียวกับ Xbox Series X และถึงจะมี TFLOPS และจำนวน compute unit (CU) ที่น้อยกว่า แต่ Sony ก็บอกว่าประสิทธิภาพโดยรวม ไม่แย่แน่นอน
Sony ยังโชว์จุดเด่นเรื่อง SSD NVMe PCIe 4.0 ที่มีอัตรา I/O สูงถึง 5.5GB/s (raw data) ที่จะเปลี่ยนโลกการออกแบบเกม เพราะทำให้การโหลดฉากรอบตัวละคร หรือความเร็วที่ตัวละครเคลื่อนที่ไปได้ ไม่ต้องถูกจำกัดโดยเวลาในการอ่านข้อมูลฮาร์ดดิสก์แบบเดิมอีกต่อไป และจะรองรับการต่อฮาร์ดดิสก์ภายนอกแบบทั่วไป สำหรับเล่นเกม PS4 และรองรับการใส่ SSD NVMe PCIe 4.0 ในท้องตลาด แต่มีข้อแม้ว่าต้องเป็นรุ่นที่ความเร็วถึงตามที่ Sony กำหนด และได้รับการรับรองจาก Sony เท่านั้น
PS5 จะมาพร้อมฟังก์ชั่น ‘boost’ ที่ไม่เหมือนกับเทคโนโลยี boost คล็อคของ CPU คอมพิวเตอร์ หรือมือถือ ที่จะปรับคล็อคสปีดและอัตราการกินไฟตามการใช้งาน แต่เป็นการส่งไฟแบบปริมาณคงที่ แล้วใช้ชิปคอยอ่านค่าการประมวลผลของ CPU และ GPU พร้อมปรับคล็อคแบ่งไฟให้อย่างเหมาะสม ตามความหนักในการใช้งาน
นอกจากนี้ยังมีระบบเสียง 3D แบบเน็กซ์เจ็น บน Tempest Engine ที่ Sony คุยไว้ว่าจะสามารถสร้างเสียงของเม็ดฝนที่ตกกระทบรอบตัวละครได้แบบแยกเป็นเม็ดอย่างสมจริง โดยจะใช้ระบบ HRTF (Head-related Transfer Function) ที่จะเป็นการส่งคลื่นเสียงให้เข้ากับรูปทรงหูและศีรษะของผู้เล่นเพื่อสร้างเสียงรอบทิศทางที่สมจริงยิ่งขึ้น
ส่วนรายละเอียดอื่นๆ อย่างดีไซน์และหน้าตา Sony ยังคงอุบเอาไว้อยู่
ที่มา - Eurogamer
Comments
ต้นทุนทะลุ $1000 หรือป่าว55
ขอราคาอย่าทะลุโลกกระโดดจาก ps4 pro ไปเป็นหมื่นก็พอเพราะต้องเก็บตังไว้ซื้อเกมส์ด้วย 555
ทำไมหัวข่าวบอก 3.5 GHz แต่เนื้อข่าวบอก clocked ที่ 3.8 GHz อันนี้ผิดหรือว่า boost clock ครับ
รู้สึกว่า PS5 3.5 XBX 3.8
The Dream hacker..
เข้ามาดู เพราะคงไม่ได้ซื้อ
เพิ่มเติมวัน launch เครื่อง PS5 จะเล่นเกม PS4 top 100 ได้เกือบทุกเกม และอนาคตจะเล่นได้มากขึ้น (แต่ไม่รองรับเกม PS1-3)
รอ PS5 Pro
อยากให้ตัด blu ray ออกตอน ps3 ยังพอได้ใช้ แต่ตอน ps4 แทบไม่ได้ใช้เลย ถ้าไม่ซื้อเกมแบบแผ่นนานๆ ที
คนยังเล่นแบบ physical เยอะครับ (โดยเฉพาะคอนตลาดคอนโซลฝั่งญี่ปุ่นที่ตลาดแผ่นมือสองยังใหญ่อยู่)
ทำเครื่องเปล่า แล้วขาย Blu-ray drive เป็นส่วนเสริมมาเสียบ ก็เข้าท่าอยู่นะ
และถ้ามีขายชุดแปลงใส่ HDD/SSD ช่อง Blu-ray ก็โอเคอยู่ สำหรับคนเน้นที่เก็บเกม
ความล้มเหลว คือจุดเริ่มต้นสู่ความหายนะ มีผลกระทบมากกว่าแค่เสียเงิน เวลา อนาคต และทรัพยากรที่เสียไป - จงอย่าล้มเหลว
ถ้าทำโมเดลแยกแบบของ xbox ก็น่าสนครับ เพราะบางคนไม่ได้เก็บแบบแผ่นเลย
มันดูหนังบลูเรย์ 4K ได้นะ บางคนอาจเอามาดูหนังด้วย มีไดรว์ก็ดีกว่าไม่มี
ต้นทุน Bluray drive น้อยมากครับ 30-40 USD ได้มั้ง ถ้าตัดออกก็ลดราคาเครื่องไม่ได้มาก แต่คนด่ามากแน่นอนครับ
ด่าแบบที่ PSP Go เคยเจอ
อย่าพึ่งรีบตัดเลยครับ คนสายเก็บแผ่นมีเยอะ ผมเองไม่เคยซื้อ digital download เลย
คิดไปคิดมา นอกจาก PS4 ในห้องก็ไม่มีอะไรอ่านแผ่นได้แล้วแฮะ
ส่วนตัวผม ใช้กับแผ่นมือสองได้ ซึ่งมันดีมากสำหรับการลองเกมใหม่ๆ ในราคาที่ไม่แพงมาก พวกซื้อวันแรก เล่นเสร็จแล้วปล่อย เราไปซื้อกับคนกลุ่มนี้ได้หลังจากสัปดาห์ถัดมาในราคาถูกลงพอสมควร หรืออยากแชร์เกมระหว่างกลุ่มเพื่อนก็ง่ายด้วย
อีกข้อคือส่วนตัวเอาไว้ดูหนังจากแผ่น blu-ray ได้ด้วย
เครื่องแทบจะตัวเดียวกัน เจอ X-BOX แล้ว PS5 ก็ไม่หนีกันซักเท่าไหร่(ปล. พรุ่งนี้แล้วสินะ ที่เราจะเห็น เด็กน้อยวัยสะรุ่นน่ารักๆ เดินไปซื้อ Doom Eternal ในร้าน Game Stop ยืนซื้อยู่ข้างๆ กลุ่มคุณน้า คุณลุง หน้าอย่างโหด เหมือนจะมาปล้นร้านแต่ ไม่ใช่ ลุงแค่มาซื้อ Animal Crossing New Horizons เฉยๆ )
เข้ามาขำปล.
เรียกว่า รู้หน้าไม่รู้genre
ผมรอลุ้นว่าไอ้ Tempest Engine ที่เคลมว่าแรงพอ ๆ กับ SPU ของ PS3 ทุกตัวรวมกัน มันจะทำได้ระดับไหน
เห็นว่า ถ้าใช้อัลกอริทึ่มเดียวกับของ PS VR ชิพตัวนี้จะประมวลผลได้ถึงแหล่งเสียงห้าพันจุด ในขณะที่ PSVR ทำได้แค่ 15
edit: จำผิด PSVR ทำได้ 50 จุด และชิพตัวนี้แรงพอ ๆ กับ Jaguar 8 core
เอาจริงๆนะครับ sony ไม่ต้องการพูดถึงเสปคตรงๆ เพราะแพ้ xbox se x ค่อนข้างมาก โดยดูจากรูปแบบการจัดงานก็ใด้
ส่วนที่น่าเป็นห่วงคือการไม่พูดถึง dynamic shader เลย ... น่าจะแปลว่า Microsoft จดสิทธบัตรไปแล้ว
samsung ใหญ่แค่ใหน ?https://youtu.be/6Afpey7Eldo
เรื่องเสียง มันจะประหลาดหน่อย นะครับ
เช่น ...
Head-related Transfer Function
ผมเข้าใจว่า เปลี่ยนตำแหน่งเสียง 360 องศา แล้ว
Encode ไปอออก 2Ch, 5.1Ch, 7.1Ch
พอเป็นแบบนั้น จะมองว่าลำโพงเยอะ ตำแหน่งเสียงจะตรง แต่คุณภาพเสียงไม่ดี
ลำโพงน้อยราคาแพง คุณภาพสียงดี แต่ ตำแหน่งเสียงไม่ตรง
เช่น ถ้าเราซือ ชุดเครื่องเสียง 7.1 ยัดลำโพงลงห้องไป 8 ตัว เต็มฝาผนังไปหมด
ซัก 100,000 (เอาแพงหน่อย จริงๆ สองหมือนก็มีขายแล้วนะ Spec นี้)
กับ Amp 2 Ch อย่าง marantz หรือ NAD หรือ Rotel
แล้วใส่ B&W 606 หรือ 607 ก็พอ
ราคาเท่ากัน อย่างหลังเทพกว่านะครับ ราคานี้ไม่รวม สายลำโพง สายปลั๊กไฟ ตัวปล๊ก สายสัญญาณเข้า แท่นวางเครื่อง DAC แยก ทำผนังห้อง เครื่องกรองไฟ ... และอื่นๆ
คนเล่นเกมน่าจะมองหาเรื่องของทิศทางเสียงนะครับ ซึ่ง 2 Ch เสียงดีกว่าจริงๆ แต่ทิศทางของเสียงมันไม่ชัดเหมือน 7.1 Ch อย่างพวกหูฟังเนี่ย ถึงเป็นตัวเทพ เสียงดีกว่าจริงๆ แต่มันจำลองทิศทางเสียงไม่เป๊ะเหมือนหูฟังเกมมิ่งอ่ะ
ผมเองเวลาเล่นจะใส่หูฟัง หลักๆมีสองตัวเป็น Sennheiser RS 185 ต่อ optical ไว้กับ PS4 กับ Audio Technica ที่เป็นหูเกมมิ่ง (จำชื่อรุ่นไม่ได้) เวลาใช้งานจริงคือ Sennheiser เสียงดีกว่ามากๆ แต่เวลาเล่นเกมที่ต้องจับทิศทางเสียงต้องไปเอา AT มาต่อทุกทีเลย
คืองี้ครับ เค้าก็บอกแต่แรกว่าตอนนี้เป้าหมายสูงสุดเขาอยู่ที่หูฟัง รองลงมาคือสองแชนแนล กับพวกเซอราวนด์น่ะครับ อันนี้น่าจะยังอยู่ในขั้นวิจัย
เค้าไม่ได้พูดถึงคุณภาพเสียงเพราะทุกอย่างในเชนเกี่ยวหมด แต่ถ้าเป็นเรื่องการตอบสนองทางเสียงในแง่ของผู้ฟัง เช่นการทำให้ผู้เล่นรู้ตำแหน่งว่าแหล่งกำเนิดเสียงอยู่ตรงไหนมากกว่าครับ
แต่ ตัว Tempest Engine นี่นอกจากจะเอาไปประมวลเรื่องเสียงสามมิติแล้ว ยังสามารถเอาไปใช้ในการประมวลเสียงทั่ว ๆ ไปได้ด้วย พวกเอฟเฟคที่เกี่ยวกับเสียงก็ไม่ต้องไปทำงานบนซีพียูแล้ว คิดว่าที่ซื้อ AudioKinetics มาก็เพื่อตรงนี้ล่ะครับ เกมพวก RockSmith ก็น่าจะทำได้ดีมากขึ้น (ตัว PS3 เสียงจัดว่าแย่ 555)
ปล.ซื้อเยอะขนาดนั้นระวังเรื่อง Placebo Effect ด้วยก็ดีนะครับ 555
#ทีมลุง เช่นกันครับ แต่ผมพรีกับ Nadz คงต้องรอวันจันทร์อังคารเลย
กลัวอย่างเดียว เครื่องจะแพงมาก กับสเปคแบบนี้
น่าจะเปิดตัวที่ 499 แล้วค่อยไปหาตังจาก PS Plus เอาเหมือนเดิม
ตั้งแต่ผมมี PS4 ผมไม่เคยสมัคร PS Plus เลย
แต่ถ้า PS5 เปิดราคานี้มา แล้วแก้ปัญหา wi-fi ด้วย ผมสมัครแน่นอน รู้สึกสงสารคนทำ 5555
เดาว่า ps5 คงเปิดตัว 649 แล้ว xbox 799
ไม่น่าจะแพงขนาดนั้นนะครับ โซนี่เคยเจ็บตัวจาก PS3 ($599) มาแล้ว เต็มที่ก็คง $499 ที่ยังกั๊กราคาเพราะไม่รู้ฝั่ง MS จะยอมตั้งราคาขาดทุนแค่ไหน
สงครามนี้เคยเห็น Microsoft หรือน่าจะ ฟิว บอกจะตั้งราคาเท่ากันเลย ตอนนี้เลยกั๊กราคากันทั้งคู่ (หาข่าวไม่เจอจะเอามาให้ดู)
อยากรู้ที่สุดคือ ราคา ครับ ช่วงเศรษฐกิจซบหนังด้วย จะเห็นผลใน 2 เดือนข้างหน้า คนจะเริ่มไม่ใช้เงินกับสื่อบันเทิงเท่าไหร่แล้ว เอาของกินของใช้ก่อน