หลังจากเมื่อวันก่อน Google ได้ออกนโยบายจ้างงานคนดำ ล่าสุด Sheryl Sandberg ประธานฝ่ายปฏิบัติการของ Facebook ก็ได้ออกนโยบายช่วยเหลือกลุ่มคน underrepresented (กลุ่มคนที่ไม่ได้รับโอกาสมากนักเมื่อเทียบกับสัดส่วนประชากร เช่น คนดำคนที่มีเชื้อสายละตินหรือแม้แต่ผู้หญิง) ออกมาแล้ว
Sandberg ระบุว่าจะเพิ่มบุคลากรให้มีความหลากหลายมากยิ่งขึ้น โดยเพิ่มสัดส่วนบุคลากรจากกลุ่ม underrepresented ให้ขึ้นมาอยู่ที่ 50% ภายในปี 2023 โดยเน้นว่ากลุ่มคนดำและคนละตินจะต้องเพิ่มขึ้น 2 เท่า
นอกจากนี้ภายในระยะเวลา 5 ปีก็จะเพิ่มสัดส่วนกลุ่มคนที่ไม่ใช่คนผิวขาว (people of colour) ในตำแหน่งระดับสูงและบริหารอีก 30% (สัดส่วนนี้จะเป็นคนดำ 30%) และพยายามเพิ่มความหลากหลายของบุคลากรในกระบวนการตัดสินใจและพัฒนาผลิตภัณฑ์ ไปจนถึงโครงการและนโยบายต่างๆ ของบริษัทให้มากขึ้น พร้อมทั้งยังคงยึดมั่นในเป้าหมายเดิมคือ ผลักดันให้มีผู้หญิงขึ้นมาเป็นผู้นำมากขึ้น
ภาพจาก Facebook
นอกจากเรื่องตำแหน่งงาน Facebook ได้บริจาคเงินกว่า 200 ล้านเหรียญเพื่อช่วยเหลือกิจการและองค์กรของคนดำ, มอบทุนการศึกษากว่า 100,000 ทุนให้กับนักศึกษาผิวดำในหลักสูตร Facebook Blueprint และ เพิ่มพื้นที่และกระบอกเสียงให้กับคนดำบน Facebook โดยออกแบบให้เป็นพื้นที่แบ่งปันเรื่องราวจากคนดำ (Lift Black Voices) รวมไปถึงผลักดัน #ShareBlackStories บน Instagram อีกด้วย
ก่อนหน้านี้ Facebook ออกมาแสดงจุดยืนสนับสนุนคนดำด้วยการ ลบบัญชีที่เชื่อมโยงกลุ่มนิยมคนขาว และปลุกระดมความรุนแรง
ภาพจาก Facebook
ที่มา - Facebook
Comments
แปลว่ามีการเหยียดสีผิวในองค์กรจริงสินะ
เพิ่มเอเชียด้วยได้มั้ยครับ อยากเนียนเข้าไปบ้างถ้ามีบุญ
อย่าเลยครับ คุณอยากเข้าไปเพราะมีความสามารถจริงๆ หรือเพราะโควต้าจากคะแนนสงสารล่ะ
แต่ผมเชื่อว่าต่อให้เป็นโควต้าจากคะแนนสงสาร เขาก็จะคัดคนที่ดีที่สุดมาอยู่ดีนะครับ ขอให้มีโอกาสยังไงก็ควรคว้าไว้ก่อน ถ้าคิดว่าตัวเองยังดีไม่พอก็อัพเกรดตัวเองสิครับ
ใช้ครับต่อให้คุณกระจอกกว่าคนขาวแค่ไหนคุณก็เป็นที่สุดของคนเหลืองอยู่ดีเพราะงั้นอย่าได้แคร์ครับ
เอ้า นี่เค้าใช้ระบบสงสาร เห็นว่าเป็นคนดำคนละตินก็ให้เข้าเลยโดยไม่ต้องคัดเหรอครับ?
ผมรู้ว่าคุณรู้ว่าผมไม่ได้หมายความอย่างนั้น
นั่นสิครับ เพราะมันไม่มีคะแนนสงสาร มีแค่โควตาที่กั๊กไว้เพื่อคัดเลือกคนดำกับคนละติน โดยใช้เกณฑ์การคัดแบบปกติ เพียงแค่กั๊กที่เอาไว้
ที่ผมงงคือคุณใช้คำว่าคะแนนสงสารเหมือนว่าแค่เป็นคนดำกับละตินก็ได้เข้าทันที
ถามว่า ถ้าเกิดมีการคัดเลือกแล้วให้เป็นคะแนน
คนขาว คนดำ คนละติน ที่ได้เข้าทำงานมากสุดถึงน้อยสุด (โควต้า 15 คน แต่ละสีผิว)
คนขาวได้ คนแรกคะแนนที่มากที่สุด 90 คนที่ 5 ได้ 86 ---- คนที่ 15 คะแนน 76
คนดำได้ คะแนนที่มากสุด 70 คนที่ 5 ได้ 60 ---- คนที่ 15 คะแนน 60
คนละติน คะแนนที่มากสุด 75 คนที่ 5 ได้ 60 ---- คนที่ 15 คะแนน 60
เขาจะเลือกใช้คะแนนแบบไหน?
ไม่ได้แบ่งเท่ากันทุกสีผิวครับ เม้นล่างๆ มีบอก
ถ้าไม่ใช้คำพูดอ้อมไปมาประชดประชันแล้วตอบดีๆ แบบนี้ตั้งแต่แรกก็ดีแล้วเชียว
ปกติอ่านเงียบๆ แต่เห็นเม้นนี้แล้วสะดุด ไม่น่ารักเลย
ผมก็สะดุดชื่อล็อกอินคุณเหมือนกัน ว่าตอนนี้ยังเขียน perl หรือ cgi อยู่มั้ยครับ (ถ้าคือ cgi เดียวกันอ้ะนะ)
งง อันเดียว เดี๋ยวนี้เราสามารถรับสมัครงานแบบเปิดเฉพาะเจาะจุผิวสีได้แล้วเหรอ
แบบว่า ตำแหน่งนี้เฉพาะผิวขาว ผิวดำ มันไม่ผิดกฏหมายเหรอ ???
ใครก็ได้ตอบที่ต่างประเทศเขารับคนกันยังไงครับเดี๋ยวนี้
รับเฉพาะผิวขาว = เหยียด
รับเฉพาะผิวดำ = ยุติธรรมโหวดรัวๆรับตามความสามารถ = ทำไมผิวดำรับน้อยล่ะ เหยียดผิวนี่นาประท้วง
รับเฉพาะผิวเหลือง = ทำไมไม่รับคนท้องถิ่นล่ะ ฟ้องร้องดีกว่า
ไม่ใช่ครับ ลุง เข้าใจผิดแล้วเอาใหม่
คนดำโดนกีดกันโอกาส โดนกดขี่ = ไม่รับรู้ ชีวิตตูสบายดี ไม่กระทบเปิดโควต้าให้คนดำ = อย่าเอาเปรียบดิว้า เก่งจริงก็ต้องไม่มีตัวช่วย
ปล. ในวงการเทคเอเชียไม่ได้โดนกีดกันอยู่แล้วครับ ในวงการอื่นอาจใช่่ นะจ๊ะ ทำความเข้าใจหัดเพิ่มความรู้ เปิดรับ
สำนวนการตอบไม่น่ารัก
ขอโทษตรงนี้แทนละกันฮะ มันแก้ไม่ได้ละ
เอ่อวงการเทคคนที่(ใช้งานได้) ที่ไหนๆ ก็หาคนลำบากครับ แต่กรณีตำแหน่งทั่วไปงาน routine ก็ว่าไปอย่าง
ส่วนเรื่องโดนกีดกัน ปัจจุบันนี้คนดำไม่โดนกีดกันนะ คือ ถึงจะประท้วงบอกว่าคนดำด้อยค่า โดนเอาเปรียบ แต่ในความจริงคือ นโยบายประชานิยมคนดำเยอะมากครับ ถึงขั้นบังคับตั้งแต่เรียน~ไปยันทำงานต้องมีโควต้าคนดำพิเศษเพิ่มขึ้นมา คือถึงคนดำมีความสามารถน้อยกว่าคนขาวหรือเอเซียก็สามารถเข้าได้โดยโควต้าพิเศษของคนดำอยู่นะ
หึๆ ฟังแล้วรู้เลยว่าเป็นคนแบบไหน มีความคิดยังไง อารมณ์ประมาณ "ข้อความที่มีเสียงออกมา"
ไม่ๆ จำได้แต่ก่อนเคยคุยกับฝรั่งเศส ว่าที่บ้านเขานี้ไม่สามารถ เฉพาะเจาะจงสีผิวได้ ต้องดูที่ความสามารถ แบบถ้ามาศาสนานี้ตรูไม่รับนี้ ไม่ได้เลย ไม่เหมือนบ้านเราที่ฝรั่งสามารถเลือกไม่รับได้ เลยอยากรู้ว่าทำไมกรณีนี้เขาถึงกล้าออกมาประกาศโต้งๆเลย ไม่กลัวกฏหมายกันบ้างเลยเหรอ ถ้ามันยังมีอยู่อะนะ
Affirmative Action มหาลัยก็มีอยู่แล้วทำอยู่แล้วครับ เอเชีย และรองลงมาก็ฝรั่งต้องได้คะแนนสูงกว่าถึงจะเข้ามหาลัยดีเท่ากันได้ สรุปคือระดับองค์กร/ร/ภาครัฐสามารถเหยียดคนขาวกับคนเอเชียได้นั่นแหละครับ เพราะถือว่าคนขาว/เอเชียที่คุณภาพชีวิตมักจะดีคงจะเหยียดๆกลุ่มอื่นบ้างอยู่แล้ว และคนสองกลุ่มนี้ไม่ค่อยประท้วงเรื่องกลุ่มตัวเอง
พนักงาน 50% คือของทั้งหมดจริง. จ้างมาตรวจ contenrt ก็นับ ไม่งั้นคงยากที่จะไปหา programmer เก่งๆ จำนวนมากได้.
แต่ผู้บริหาร จะมีคนดำเพิ่ม 30% คือ เดิม(2019) มีแค่ 3.1% จะเพิ่ม (+30%) เป็น 4.0% ครับ. คือเพิ่มนิดเดียว.
อีก 5ปีคงมีประกาศเพิ่มผู้บริหารเอสกีโม ผู้ป่วยโปลิโอ และคนข้ามเพศอีก 25%