Linus Torvalds ประกาศขอเลื่อนกรอบเวลาในการรวมโค้ดเคอร์เนลลินุกซ์เวอร์ชันหน้า 6.8 ออกไปอย่างไม่มีกำหนด ด้วยเหตุผลว่าพายุหิมะเข้า จนทำให้ไฟฟ้าและอินเทอร์เน็ตของเขาถูกตัด
ปัจจุบัน Linus อาศัยอยู่ที่เมือง Portland รัฐ Oregon ซึ่งตอนนี้มีคนประมาณ 1 แสนคนไม่มีไฟฟ้าใช้งาน เขาเล่าว่าเมื่อหลายปีก่อนเคยเกิดเหตุการณ์แบบเดียวกันนี้แล้ว และต้องใช้เวลานานกว่า 1 สัปดาห์ กว่าที่ทางเมืองจะสามารถปรับให้การจ่ายไฟกลับมาเป็นปกติ ช่วงนี้เขาจึงขอเลื่อนเวลาการทำงานไปก่อน
ที่มา - LKML via The Register
ภาพจาก @NWS Portland
Current radar shows a band of freezing rain, sleet, & snow lifting northward over the area. The winter storm is still on track with mainly snow/sleet for the Portland metro, mainly snow north of Vancouver, a mix of everything in Salem, & mainly freezing rain in Eugene. Stay safe! pic.twitter.com/Rxq77BgTpa
— NWS Portland (@NWSPortland) January 13, 2024
Comments
ระบบการทำงานแบบนี้จะไหวหรือครับ ขึ้นอยู่กับคนคนเดียว
น่าจะไม่มีวิศวกรคนไหนกล้ามาทำด้วยมั้งครับ ด้วยความยากของการพัฒนาkernel linux หรือป่าว?หรือตอนpush codeขึ้นไป วิศวกรคนนั้นก็ต้อง อธิบายกับ Linus ให้ได้ว่าทำไมเขียนแบบนี้ๆๆ ถ้าโดนcommentแรงๆไปอาจ ตรอมใจซึมเศร้าไปเลย
มันเป็นแบบนี้จริงเหรอครับ ผมพึ่งรู้เลยนะเนี่ยแล้วเวลาที่เค้าไม่อยู่แล้วการพัฒนาจะเป็นในทางไหน เค้าเคยบอกในส่วนนี้ไว้รึเปล่าครับ?
ผมก็ไม่ค่อยรู้รายละเอียดมากครับ รอผู้รู้ทั่นอื่นมาcomment
แต่ที่blognoneมี tag ของLinus ให้เฉพาะเลยครับ ไปส่องได้ครับ
https://www.blognone.com/topics/linus-torvalds
ถ้าให้แฟร์ Linus เองก็ใช่ว่าจะเกรี้ยวกราดกับทุกคนที่เข้ามา เคสปากจัดส่วนมากเกิดกับวิศวกรที่จัดการกับ Linux เป็นงานอยู่แล้ว แต่ถ้าเข้ามาใหม่และอ่าน Guideline เข้าใจก็ไม่มีปัญหา ผิดส่วนไหนแกก็จะแนะนำให้ ส่วนมากที่ออกมาบ่นถึงพฤติกรรมสุดทนของแกก็มีแต่คนเก่า ๆ
แล้วที่แกบวกจริง ๆ นั่นคือไม่ไหวแล้วจริง ๆ เหมือนกัน (เช่น Nvidia)
นั่นล่ะครับ พัฒนาการของ Linux ใน 30 ปีที่ผ่านมาถึงได้แค่นี้
That is the way things are.
???
Linux มาได้แค่นี้ เพราะอยู่ที่ตัว DE มากกว่า
เพราะผู้พัฒนาส่วนใหญ่เน้นยูนีคเฉยๆ ไม่เน้น UI/UX
ขยันสร้าง DE OS package ใหม่ไปเรื่อย
ไม่ยอมคิดจะทำให้ผู้ใช้จะตั้งค่าอะไรไม่ต้องเปิด terminal. ไม่ทำกัน
สนองความคลั่งของคนเขียนโค้ดเฉยๆ
Linux kernel ไม่ใช่ปัญหา เพราะ android chrome os ยังทำให้ดีได้
เพราะน่าจะมี distro กับ de หลายตัว แต่ผมใช้อยู่ก็พัฒนามาเยอะนะ ที่คนใช้น้อยเพราะภาพจำด้วยมั้ง
เหมือนถามว่า "บริษัทมี CEO คนเดียวจะไหวเหรอ?"
ในจุดที่เค้าอยู่เหมือนเป็น CEO ที่จะตัดสินใจ ยอมรับ/ไม่ยอมรับ สิ่งที่เสนอเข้ามา(Pull request)
คนทำหลายคน แต่คนที่จะตัดสินชะตามี 1
ต้องยอมรับว่าทุกคนเลือกที่จะใช้ Linux เพราะสิ่งที่มันเป็นอยู่ด้วยล่ะครับผมว่า มีแค่คนกลุ่มเล็กๆ+บิ๊กบอสที่ควบคุมทิศทางการพัฒนาได้ค่อนข้างอิสระ ทำให้มั่นใจได้ว่า จะไม่โดนบริษัทใหญ่ๆเข้ามาแทรกแซงได้ง่ายๆ
เท่าที่ผมเข้าใจ จริงๆแล้วก็น่าจะมีนักพัฒนา Kernel ที่ Linus เค้าไว้ใจอยู่หลายคนที่พร้อมจะเข้ามาทำงานเป็นทีมที่ใหญ่กว่านี้ได้ แต่ในขณะที่ Linus ยังทำหน้าที่ตรงนี้ได้อยู่ เดาว่าทีมเองก็คงพอใจที่จะคงระบบไว้แบบนี้นะผมว่า
ผมไม่มีความรู้ยุคที่ Unix ยังพอแข่งกับ Linux ได้ เลยไม่รู้ว่าที่ Linux กินรวบแบบนี้ มาจากฟีเจอร์หรือเพราะเรื่องราคา สมมุติว่าราคา Unix ไม่แพงมาก แอบอยากรู้เหมือนกันว่าองค์กรใหญ่ๆ จะยังเลือก Red Hat หรือ Suse ที่รับซัพพอร์ต Linux หรือเลือกที่จะซื้อ Unix แทน
..: เรื่อยไป
เป็นแบบนี้ดีแล้วครับ ถ้าเป็น cooperate มันจะเละ เอาจริง พี่เค้าก็ไม่ได้ Code นานแล้วนะครับเน้น Merge (หรืออาจจะไม่ได้ทำแล้ว แต่ต้องดูเอกสารอ่ะ ว่าส่งอะไรมา) เพราะงั้น ส่ง Doc เข้าไป ต้องอธิบายให้รู้เรื่องเข้าใจจริง ๆ ไม่งั้นโดนเม้งแล้วไม่เม้งธรรมดาด้วย รู้กันทั้งโลก ดังข้ามคืน เหมือนคนที่ส่ง Patch ก่อนทำ Ver RC แป๊บนึงแล้วไปเร่งพี่เค้าให้ทันอ่ะ สมควร
ตอบตามนี้ครับ
จริง ๆ ก็ ถ้าไม่ชอบใจก็ fork กันออกไปได้ครับ
อย่าง Android นี่ตอนนี้เค้า mainline หมดหรือยังนะ ผมไม่แน่ใจ 55
เอาจริง ๆ Linux ที่เราใช้ ๆ กัน บางตัวก็เป็น fork อยู่แล้ว ถ้าผมเข้าใจไม่ผิดนะครับ
ปล. แต่ license เป็น GPL นี่ ใครจะ fork ไปก็ต้องคิดหนักนิดนึง
ออกมาถี่เกิ้น ไม่รู้พัฒนาอะไรบ้าง ข่าวที่ได้ก็ตอบไม่เคลียร์
จังหวะนี้ starlink ต้องเข้าแล้ว lol
เทคโนโลยีไม่ผิด คนใช้มันในทางที่ผิดนั่นแหละที่ผิด!?!
ส่งแผง Solar Cell ไปด้วยนะครับ ขาดไฟฟ้าอยู่ด้วย
เกือบลืมหาไม้กวาดหิมะด้วย ตกหนัก แว่บๆ หิมะก็ท่วมแผง
ตัวแบก(?)ของแท้
อันนี้ความรู้ใหม่จริงๆไม่เคยรู้มาก่อนผมเคยเข้าใจว่ามันเป็นการระดมพลจำนวนมากมายในการที่จะพัฒนาออกมา แต่หลังจากอ่านข่าวนี้ถือเป็นการเปิดโลกครั้งใหม่ของผมเลย
ในกรณีที่เขาตัดสินใจไม่ทำต่อด้วยเหตุผลใดๆก็ตาม linux จะเป็นยังไงต่อไปครับ
ความที่มันเป็น open source คือมันมีคนทำต่ออยู่แล้วครับ แค่คนตัดสินใจในเรื่องทิศทางการพัฒนาจะเปลี่ยนไปเท่านั้นเอง
จริง ๆ ระบบการพัฒนามันก็เป็นอย่างที่ว่า เพียงแต่ว่าการเอาโค้ดเข้าก็ยังต้องใช้เจ้าของโปรเจกต์รีวิวและเปิดให้ดึงเข้า Repo อยู่ดี เป็นกับแทบทุกโปรเจกต์อยู่แล้วไม่ใช่แค่กับ Linux
ส่วนเรื่องถ้า Linus วางมือก็คือแต่งตั้ง Engineer คนใหม่ขึ้นมา ช่วงที่แกพักเพราะสกิลปากช่วงหนึ่งก็มีคนมาดูแลแทนอยู่
Linux Kernel ตั้งต้นเป็นโค๊ดของแกครับ แล้วก็คือ ใครที่อยากเพิ่มอะไรก็ส่งแพทช์เข้าไป (ผ่านอีเมล์หรืออะไรก็แล้วแต่)
แต่จริง ๆ ก็มีทีมของ maintainer มาช่วยกันดูแลด้วยครับ แกไม่ได้ทำอยู่คนเดียวหรอก ถ้าผมจำไม่ผิดนอกจากแยกโมดูลกันแล้ว แต่ละเวอร์ชั่นเองก็มีคนดูแลแตกต่างกัน เวียน ๆ กันทำครับ
ขอบคุณทุกท่านสำหรับข้อมูลครับ
ผมว่าน่าปล่อยวางได้แล้ว ปล่อยวางให้เขาเล่าเป็นตำนานดีกว่า เหมือนกับบิล เกตส์ กับ สตีฟ จ็อบส์แต่แก่คงจะเหงามั้ง
คือ Linus แกเป็น Engineer จนถึงทุกวันนี้ ในขณะที่ Bill Gates น่าจะได้ไม่ได้โค๊ดเลยตั้งแต่ Windows 95 มั้ง (ไม่ก็ก่อนหน้าอีก) ก็เป็นนักธุรกิจเต็มตัวมานานละ ดังนั้นต่อให้แกเกษียณไป ผมว่าแกก็นั่งเขียนโค๊ดอยู่ดี (ฮา)
ส่วน Steve Jobs ผมว่ารายนั้นเป็นสายวิสัยทัศน์มากกว่า ถ้าไม่มีคนทำอะไรให้แกก็ทำอะไรไม่ได้
จริง ๆ ถ้าไม่นับ Linux โปรเจคอื่นแกทำสักพัก แกก็ปล่อยให้คนอื่นดูแลต่อครับ (เช่น Git)
จะว่าไปแกยังเขียนโปรแกรมสำหรับนักดำน้ำอยู่ไหมนะ ลืมละ