Elon Musk พูดถึงบริษัทรถยนต์ไฟฟ้าจากจีนว่ากำลังแข็งแกร่งอย่างมาก และบริษัทรถยนต์ไฟฟ้าอื่นๆ นอกจีนนั้นต้องอาศัยกำแพงทางการค้าเพื่อให้ต่อสู้ได้ ไม่เช่นนั้นแล้วก็จะหายไปแทบทุกบริษัท โดยเขาพูด ระหว่างการรายงานผลประกอบการของ Tesla ประจำปีนี้
BYD เพิ่งทำยอดขายแซงหน้า Tesla กลายเป็นบริษัทรถยนต์ไฟฟ้าอันดับหนึ่งของโลก ขณะที่บริษัทอื่นๆ จากจีนก็ขยายตัวแข่งกันอย่างรุนแรงเช่นกัน
Musk ยังยืนยันข่าวลือที่ว่า Tesla กำลังเตรียมรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นต่อไป และเริ่มเดินสายการผลิตจริงครึ่งหลังของปี 2025 โดยคาดกันว่ารถรุ่นนี้จะเป็นรุ่นที่ราคาต่ำลง
ที่มา - The Strait Times
Comments
อ้าววันก่อนบอกไม่ใช่คู่แข่ง
วันก่อนนี่คือ Nov 2011 เลยนะครับ
lewcpe.com , @wasonliw
จุดแข็งของ Tesla คือระบบอัตโนมัติ ซึ่ง EV ของจีนยังไม่มีคันไหนทำได้เหมือน Tesla สักรายนะ ส่วน EV ยุโรป ไม่เข้าใจว่าทำไมเข้าไทยแล้วต้องถอดระบบช่วยขับออกซะเกลี้ยง เฮ่อ
ถึงเป็นจุดแข็ง แต่ก็เป็นจุดแข็งที่อ่อนมาก ๆ เลยนะครับ ใช้งานจริงนอกอเมริกาแล้วข้อจำกัดเยอะมาก ๆ ขนาดในอเมริกาก็ข้อจำกัดเยอะ ยังห่างไกลจากคำว่าขับอัตโนมัติมากเลยครับ จุดนี้ทำให้เทสล่าก็ไม่ได้ต่างกับรถจีนมากเท่าไรนะผมว่า
จุดแข็งแต่ไม่ใช่จุดขาย ทำความเข้าใจสะใหม่
แข่งขันดี
การแข่งขันอย่างเสรีไงจรั๊บพรี่
ปัญหาคือไม่มีใครไปแข่งแบบเสรีได้ในจีนงั้ย
ไม่ใช่ว่าเมกาก็ปิดกั้นจีนอยู่หรอกรึ ?
กรณี EV น่าจะเป็นเรื่องจีนมี supply chain ถูกกว่าที่อื่นจนทำราคาได้ชนิดคนอื่นสู้ไม่ไหวมากกว่าจีนกีดกัน EV ต่างชาตินะ 🤔
จีนลดราคามันซะทุกอย่าง
ไทยนี่แหละ หน่วยส่งออกรถไฟฟ้าพวงมาลัยขวา ไทยมี FTA หลายประเทศ ถ้าขุดคลองด้วย GDP ส่งออกโตเกิน 5% ต่อปีแน่นอน
คิดว่าคนทั่วไปก็ต้องการแค่ รถที่เปลี่ยนจากเติมน้ำมันเป็นเติมไป ก็เท่านั้น แต่เท่าที่ดูบ.อื่นกลับไปเน้นเรื่องออโต้ไพลอตตาม tesla หมดทั้งที่ถ้าจะมุ่งไปที่การเปลี่ยนระบบพลังงานก็ไม่น่าจะโดนจีนแซงได้หยับๆ แบบนี้นะ หรือว่าไม่สนใจตลาดนี้อยู่แล้ว
The Dream hacker..
ระบบอัตโนมัติ คิดว่าคนส่วนใหญ่ขอแค่ Auto Parking กับ Adaptive Cruise Control ก็พอแล้ว ที่เหลือก็ไม่ค่อยเห็นความจำเป็น
+1 ถ้ารถยนต์ส่วนบุคคลจะ Auto Pilot ขนาดแค่กำหนดเป้าหมายแล้วให้มันขับเองทุกอย่างตาม GPS และระบบระวังภัยรอบตัว ส่วนคนขับนั่งอย่างเดียว แบบนั้นไม่ไหว ถ้าจะมีรถแบบนั้นขอเป็นรถโดยสารสาธารณะที่มีเส้นทางประจำพอแล้ว
ความสะดวกมันต่างกันครับ คนต้องการอัตโนมัติหมดอะไรแบบนั้นก็เยอะ
ถ้าสำหรับในไทยทุกวันนี้มี Taxi ปกติ, Grab, LINE Man , Robinhood พอเจอฝนตก น้ำท่วม หรือวันสิ้นสุดสัปดาห์ หรือช่วง Prime Time / Rush Hour เรียกรถยากกกกก รอนาน จนไม่มีรถก็มีนะครับ แถมราคาก็ขึ้นโหด โหดกว่า Taxi เหมาก็มี บางเคสมีรถส่วนตัวก็ยังดีกว่าครับ
จีนจับตลาดทั่วโลก ก็ต้องแบบนั้นแหละ
..: เรื่อยไป
รถไฟฟ้าจีนโตแบบก้าวกระโดดตั้งแต่Teslaไปตั้งโรงงานที่จีน
อี้หลงหม่าบอกอั้วไม่ไหวเลี้ยว รบ.ช่วยที
ทำรถให้มันเป็นรถซะทีสิครับModel 3 ใหม่ ไฟเลี้ยวแบบปุ่มกดคืออิหยั่งมากๆสำหรับผม
อันนี้อีหยังวะจริงๆ เพราะแบบก้านมันใช้มือขวา ตบขึ้นคือเลี้ยวซ้าย ตบลงคือเลี้ยวขวา และไม่สนว่าจะหมุนพวงมาลัยไปกี่รอบ และหมุนไปทางไหนด้วย แต่ของ Model 3 ใหม่ แค่หมุนพวงมาลัย 180 องศาก็ต้องเปลี่ยนมือกด แถมกลับด้านด้วย และถ้าหมุน 90 องศานี่กดไม่ถนัดแน่ๆ ครับ
ตามหลักความเป็นจริง เราต้องกดไฟเลี้ยวก่อนหักพวงมาลัยหรือเปล่าครับ? โอกาสที่เราต้องกดไฟเลี้ยวในขณะที่กำลังหักเลี้ยวอยู่คงมีไม่มากนัก.
ในสถานการณ์ปกติก็ใช่แหละ แต่ในสถานการณ์ไม่ปกติมันจะกลายเป็นว่าเราจะเปิดไฟเลี้ยวไม่ได้ หรือเปิดผิดทางครับ
ลองยกตัวอย่างมาซักกรณีซิครับ ที่ต้องเปิดไฟเลี้ยวหลังจากหมุนพวงมาลัย
แยกแบบที่ 2 แยกห่างกันแค่นิดเดียว ซึ่งทางที่ต้องไปจะต้องเลี้ยวซ่ายแล้วเลี้ยวขวาทันที (หรือกลับกัน) ซึ่งหลายๆ ครั้งที่ผมเจอ พอเลี้ยวซ้าย พวงมาลัยยังไม่ทันตั้งตรงผมก็ตบไฟเลี้ยวขวาทันที แต่ถ้าเป็นปุ่มผมคงต้องรอให้พวงมาลัยตั้งตรงก่อน ซึ่งกว่าจะตั้งตรงผมก็ห่างจากแยกที่ต้องเลี้ยวขวาแค่ 7 เมตรเองครับ
การขับขี่รถยนต์ที่ถูกต้องตามกฎหมายคือ กฎหมายกำหนดให้เปิดไฟเลี้ยวและชะลอรถก่อนถึงทางเลี้ยว ไม่น้อยกว่า 30 เมตร
+1ต้องส่งสัญญาณก่อนเพื่อให้คันหลังรู้
ตอบรวมในนี้เลยนะครับ
คือรู้ว่าทุกท่านรู้แหละครับ ว่าขับรถต้องทำตัวแบบไหน อะไรถูกอะไรไม่ถูก
คือถ้าตอบเอารางวัลนางงาม ก็ต้องตอบแบบนี้ครับถูกแล้วครับ เราควรเปิดไฟให้คันหลังรู้ก่อน ถูกเลยไม่มีใครเถียง แล้วทุกวันนี้ก็ขับรถแบบนี้ปกติครับ
แต่ชีวิตจริง มันมีจังหวะปุบปับ ยิ่งใน กทม. จังหวะมุด จังวะฉับพลันไปทางนี้ดีกว่า จังหวะแบบนั้นเรามักจะหมุนพวงมาลัยเลย แล้วกางมือไปเกี่ยวปัดก้านไฟเลี้ยว
จังหวะแบบนี้มันไม่ต้องมานั่งนึกปุ่ม ปุ่มบนเลี้ยวซ้าย ปุ่มล่างเลี้ยวขวา ต่อให้จำได้ ถ้าเอื้อมนิ้วไปไม่ถึง กดผิดปุ่ม ส่งสัญญาณผิดทางอีก
ผมว่าใครเคยขับรถมา คงไม่สวยหรูเถรตรง กัน 100% ต้องแต่เริ่มขับรถมากันหรอกมั้งครับ
อย่ามุดสิครับ 😢
ความหมายมุด ของผม ไม่ได้เป็นเชิงซิ่งครับ
เช่น รถติดๆอยู่ เลนข้างๆ มีการเคลื่อนตัวได้ดี รถคันหลังอาจจะเผลอหรือออกตัวช้า พอเราสบช่องที่น่าจะไปได้ เราก็รีบออกตัว
สถานการณ์อะไรแบบนี้ครับ ขออภัยครับบางทีอยากพิมพ์ให้ได้อรรถรส
ส่วนตัว ถ้าจะแทรกตอนรถติด
ผมจะนับว่ากระพริบแล้วอย่างน้อย 3ครั้งครับถ้าเขาไม่ให้ไปก็รอคันต่อไป
ไม่ใช่เปิดปุ๊ปทิ่มเลย ผมเห็นชนกันมาเยอะแล้ว
รถน้ำมันก็ด้วยนะอย่างพี่โตที่ได้ฉายาจอมกั๊กสเปค หลังๆนี่คือสเปคจัดเต็มล้นคันเลย ต้องขอบคุณรถจีนที่ช่วยกระตุ้นบริษัทพวกนี้ เพราะพอเป็นเจ้าตลาดแล้วก็เริ่มจะไม่แยแสผู้บริโภค ดีที่มีคู่แข่ง ตัวเปรียบเทียบตัวจี๊ดๆ ช่วยให้เกิดการแข่งขันทางการค้าหน่อย