ผู้พิพากษา James Donato แห่งศาลรัฐแคลิฟอร์เนีย ออกคำตัดสินสุดท้ายในคดีที่ Epic Games ชนะการฟ้องกูเกิล เรื่องผูกขาดแอปสโตร์ ซึ่งก่อนหน้านี้ศาลให้ Epic Games ระบุข้อเรียกร้อง แล้วให้กูเกิล คำนวณค่าใช้จ่าย ที่เกิดขึ้นหากทำตามข้อเรียกร้องนั้น ซึ่งท่าทีของศาลก่อนหน้านี้บอกว่าต้องการ ทลายกำแพงการผูกขาด
คำตัดสินของศาลกำหนดให้กูเกิลต้องเปิดให้สโตร์ Google Play รองรับแอปสโตร์ของคู่แข่ง (3rd Party) เป็นเวลา 3 ปี มีผลตั้งแต่ 1 พฤศจิกายน 2024 ถึงวันที่ 1 พฤศจิกายน 2027, สโตร์นี้สามารถทำงานบนระบบ Google Play ได้ และสโตร์สามารถเข้าถึงแคตาลอกของแอปใน Google Play ได้
รายละเอียดของคำสั่งกำหนดให้กูเกิล ต้อง
- หยุดบังคับใช้ Google Pay Billing สำหรับการจ่ายผ่าน Google Play Store
- เปิดให้นักพัฒนาแอป Android แจ้งผู้ใช้งานถึงวิธีจ่ายเงินแบบอื่นภายใน Play Store
- เปิดให้นักพัฒนาแทรกลิงก์ดาวน์โหลดแอปนอก Play Store
- เปิดให้นักพัฒนากำหนดราคาแอป ที่ไม่ต้องเป็นไปตามระบบราคา Play Store
และกูเกิล ห้าม
- คิดส่วนแบ่งกับผู้ให้บริการแอปสโตร์สำหรับ Android
- จ่ายเงินหรือให้ข้อเสนอนักพัฒนาแอป เพื่อให้แอปลง Play Store เป็นเอ็กคลูซีฟหรือลงก่อนที่อื่น
- จ่ายเงินหรือให้ข้อเสนอนักพัฒนาแอป ไม่ให้นำแอปไปลงสโตร์คู่แข่ง
- จ่ายเงินหรือให้ข้อเสนอนักพัฒนาแอป เพื่อติดตั้งในอุปกรณ์ก่อน (Pre-install)
- จ่ายเงินหรือให้ข้อเสนอนักพัฒนาแอป เพื่อไม่ให้ติดตั้งในอุปกรณ์คู่แข่งก่อน
ศาลระบุว่า กูเกิลสามารถเพิ่มมาตรการเสริมได้ หากเป็นไปเพื่อความปลอดภัยในการใช้งานสโตร์ และสามารถคิดค่าธรรมเนียมส่วนที่เกี่ยวข้องกับการจัดการเพื่อมาตรการนี้ได้ โดยให้กูเกิลและ Epic Games ตั้งคณะกรรมการร่วมกันเพื่อประเมินรายละเอียดทางเทคนิคภายใน 8 เดือนจากนี้
คำตัดสินในคดีนี้ไม่ได้เป็นไปตามทุกข้อเรียกร้องของ Epic Games เช่น ระยะเวลาที่มีผล Epic เสนอไป 6 ปี แต่ศาลให้ 3 ปี ด้วยเหตุผลว่าเพื่อไม่ให้กูเกิลเสียเปรียบเกินไป, Epic ขอให้ระบบดาวน์โหลดแอปทำได้โดยตรงจากการคลิกลิงก์เดียว หรือการขอให้กูเกิลปิดการใช้ Android API กับ Google Play เป็นต้น
ที่มา: The Verge
Comments
หลังจากบรรทัด "และกูเกิลห้าม" แหมมมมมมม่ epic
เปิดให้มีส่วนกลางดาวน์โหลดสโตร์นอกตั้งแต่แรกก็จบแล้ว เล่นเลี้ยงมะเร็งไว้จนกัดกินตัวเองหมด
ส่วนตัวในเมื่อห้าม Exclusive 3RD ก็ต้องห้ามเหมือนกันทั้งหมด ไม่งั้นถ้าบอก Google ห้าม Exclusive แต่่ที่อื่นทำได้ ก็ไม่เป็นผลดีเหมือนกันเพราะจะไปสร้างมะเร็งร้ายที่ใหม่แทน ยุติธรรมที่สุดอะไรที่ห้ามที่อื่นก็ต้องทำตามด้วย
คิวต่อไป Apple Sony
ฝาก Steam ฟ้อง Epic ใน PC ที
ถ้าคิดค่า Dev License แทนละกัน...ไม่ก็ ให้เพิ่มลิงก์ Store Repo ไปงั้นเหรอ
-จ่ายเงินหรือให้ข้อเสนอนักพัฒนาแอป เพื่อติดตั้งในอุปกรณ์ก่อน (Pre-install)
คือแบบไหน ถ้าซื้อมือถือมาแล้วให้เลือกสโตกเริ่มต้นแบบนี้ไหม หรือให้มาโล่งๆ เป็นโทรออกรับสาย
SSH โหลดสโตกมาลงเอาเอง
EPIC = ขยะระดับโลก
นี่พี่เป็นแบ็คของแก๊งค์มิจฉาชีพเหรอ
Google โดนบอกว่าผูกขาดต้องทำขนาดนี้แล้ว ดูทาง Apple แทบไม่ต้องทำอะไรเลย แถมเรียกว่าชนะคดี Epic ด้วยซ้ำทั้งที่เป็นบริการ Application Store เหมือนกัน
สภาพ Google บน Mobile OS เหมือน Microsoft ในตลาด Desktop OS ที่ตอนนี้กระดิกตัวก็เข้าสภาพผูกขาดได้ง่ายๆ ผิดกับฝั่ง Apple ที่ทั้ง 2 ตลาดไม่ได้เป็นผู้นำส่วนแบ่งตลาด
ใน USA iOS 57%, Android 42% ครับ 1 , 2
Russia is just nazi who accuse the others for being nazi.someone once said : ผมก็ด่าของผมอยู่นะ :)
OK ถ้าเอาตัวเลข US ก็ตามนั้นครับ
ความแตกต่างคือ Apple ให้บริการ Application Store เหมือนกันก็จริง แต่ไม่ได้ทำธุรกิจ Application Store ครับ แค่ทำธุรกิจขายโทรศัพท์ที่ให้บริการ Application Store เฉยๆ ไม่ได้เอา Store ตัวเองไปลงเครื่องอื่นๆเหมือน Google/Epic ซึ่งถ้ามองแบบนี้ก็จะกลายเป็นว่า Apple ไม่ใช่ผู้เล่นในตลาด Application Store แนวทางตัดสินก็เลยแตกต่างกันครับ
เข้าใจว่าหลายๆประเทศก็พยายามแก้ไขเรื่องนี้อยู่ อย่าง EU ก็มี gatekeeper ออกมา ก็ไม่รู้เหมือนกันว่า US ได้ปรับตัวเรื่องพวกนี้หรือยัง