Jesse Walker พนักงานอินเทลผู้คิดอัลกอริทึม Skein ที่เข้าแข่งขันเป็น SHA-3 เตือนว่าอัลกอริทึม SHA-1 ที่ได้รับความนิยมอย่างสูงในตอนนี้อาจจะตกเป็นเป้าหมายของการโจมตีได้ในเร็วๆ นี้
การโจมตีอัลกอลิทึมแฮชที่สำคัญคือการสร้างเอกสารที่ค่าแฮชเหมือนเอกสารอี่น ทำให้สามารถปลอมเอกสารว่ามาจากต้นทางได้อย่างแนบเนียน เช่น มัลแวร์ Flame ที่ปลอมตัวเองว่ามาจากไมโครซอฟท์ในฐานะ Windows Update ได้ ขณะที่ SHA-1 มีความทนทานเพียง 2^60 เท่านั้น (หมายถึงต้องสร้างเอกสารขึ้นมา 2^60 ชุด เพื่อจะมีสักชุดหนึ่งที่ค่าแฮชเหมือนกัน) และการคำนวณค่า SHA-1 ใช้รอบซีพียูประมาณ 2^14 รอบ ทำให้การหาค่าที่มี SHA-1 ซ้ำกันจะใช้ซีพียูประมาณ 2^74 รอบการทำงานซีพียู
การคำนวณนี้ประมาณค่าการใช้ซีพียูแต่ละตัวว่ามีราคาประมาณ 350 ดอลลาร์ต่อปี ทำให้การหาเอกสารที่มีค่า SHA-1 ซ้ำกันจะใช้เงินทุนประมาณ 2.77 ล้านดอลลาร์ในตอนนี้ แต่ค่าใช้จ่ายนี้จะลดลงอย่างรวดเร็วตามราคาซีพียูที่ลดลง เหลือเพียง 700,000 ดอลลาร์ในปี 2015 เหลือเพียง 173,000 ดอลลาร์ในปี 2018 และเหลือเพียง 43,000 ดอลลาร์ในปี 2021 โดยยังไม่คิดว่าซีพียูรุ่นใหม่ๆ จะมีคำสั่งพิเศษสำหรับ SHA-1 ใส่เข้ามา เช่น ARMv8 ที่มีคำสั่งนี้แล้ว (แบบเดียวกับ BitCoin ที่มีการสร้างเครื่องแฮชประสิทธิภาพสูง)
ทางแก้ของปัญหานี้คือการย้ายไปยังอัลกอริทึมอื่นที่ทนทานกว่านี้มากๆ เช่น SHA-2 หรือ SHA-3 ตั้งแต่วันนี้ เพื่อลดความเสี่ยงที่จะมีเอกสารที่รับรองความถูกต้องด้วย SHA-1 ในอนาคตที่เริ่มมีการโจมตีจริงๆ
ที่มา - Schneier on Security
Comments
ชื่อหัวข้อข่าว เป็น"ผู้คิด"รึเปล่าครับ
หัวข้อ ต้องเป็น ผู้"คิด" Algorithm หรือเปล่าครับ?
"ARMv8 นี่น มีคำ"
MD5 ก็โดนไปไม่นาน เลยฝากผีฝากไข้ให้ SHA-1 เฮ้อ
ที่ไม่เข้าใจฝรั่งคือทำไมวางใจ SHA-1 กันนัก บอกว่าแค่นี้ก็ปลอดภัย เหลือกินแล้ว ฯลฯ
ปลอดภัยในตอนนี้ไงครับ
ค่าปลอมตอนนี้ == 2.77 ล้านดอลลาร์ประมาณ 100 ล้านบาท
อย่าเอาอะไรมูลค่าเกินนั้นไปฝากไว้กับมันก็โอเคครับ
lewcpe.com , @wasonliw
ปลอดภัยในตอนนี้ แต่ไม่ปลอดภัยในอนาคต
ถึงจะปี 2021 ก็ยังต้องไช้เงินถึง 43,000 ดอลลาร์ในการปลดลอค น่าจะไม่มีใครปลดลอค SHA-1 โดยไม่มีเหตุจำเป็นแน่นอน
samsung ใหญ่แค่ใหน ?https://youtu.be/6Afpey7Eldo
เช่นว่าทำ MITM กับเว็บธนาคาร
ดักสักร้อยคนน่าจะเกินได้หลายล้านอยู่นะครับ
lewcpe.com , @wasonliw
ดีน่ะ ที่ใช้ tripple des