แม้ข่าวนี้จะมาช้าไปหน่อย (ราว 2 สัปดาห์) แต่ก็ถือว่าควรค่าแก่การติดตาม กับผลงานการวิจัยจาก MIT เกี่ยวกับเทคนิคที่เรียกว่า Visual Microphone ซึ่งสามารถถอดรหัสเสียงจากคลิปวิดีโอที่ถ่ายภาพวัตถุในบริเวณที่มีเสียงนั้น
เราคงพอรู้จักเทคนิคการอ่านปากจากในหนังหรือตามข่าวต่างๆ ถึงความสามารถในการเข้าใจคำพูดของบุคคลได้โดยพิจารณาจากลักษณะริมฝีปากของผู้พูด และนั่นทำให้เรารู้ได้ว่าเขากำลังพูดว่าอะไรแม้ว่าในความจริงแล้วเราจะไม่ได้ยินเสียงพูดนั้น แต่ผลงานวิจัยของ MIT นั้นล้ำไปกว่านั้น เพราะอัลกอริธึมของงานวิจัยนี้สามารถรู้ถึงเสียงพูดได้โดยการวิเคราะห์การสั่นไหวของวัตถุซึ่งอยู่ในสถานที่นั้น
หนึ่งในการสาธิตผลงานวิจัยคือการติดตั้งกล้องถ่ายภาพความเร็วสูงไว้ภายนอก โดยกล้องดังกล่าวจับภาพถุงมันฝรั่งที่วางอยู่บนพื้นภายในห้อง ระหว่างกล้องและมันฝรั่งนั้นมีกระจกกันเสียงคั่นกลางไว้อยู่ ด้วยสภาพนี้กล้องถ่ายวิดีโอดังกล่าวจะไม่สามารถได้ยินเสียงในห้องได้เลย จากนั้นจึงให้คนพูดข้อความสั้นๆ ภายในห้อง ซึ่งคลื่นเสียงนั้นมีผลทำให้ถุงมันฝรั่งเกิดการสั่นสะเทือน และเมื่อนำภาพจากกล้องวิดีโอไปประมวลผล ก็สามารถถอดรหัสเสียงพูดได้โดยอาศัยจากการตรวจจับการสั่นสะเทือนของถุงมันฝรั่งในคลิปนั่นเอง
แม้คุณภาพของเสียงที่ถอดมาได้นั้นจะมิได้ชัดเจนเท่าเสียงจริงในเหตุการณ์จริง แต่มันก็เพียงพอที่จะทำให้เข้าใจถ้อยคำพูดของคนที่อยู่ในห้องได้ หรือในอีกตัวอย่างหนึ่ง ผลการถอดรหัสเสียงที่ได้เป็นเสียงเพลงที่ไม่เพียงมนุษย์จะรับรู้ได้ทันทีว่าคือเพลงอะไร แต่กระทั่งซอฟต์แวร์ค้นหาเพลงออนไลน์ก็ยังสามารถหาเพลงที่สัมพันธ์กับผลการถอดรหัสนั้นได้ถูกต้องเช่นกัน
ในด้านหนึ่งงานวิจัยนี้ชวนให้นึกถึงการพัฒนาเทคนิคการจารกรรมข้อมูล หรือการลอบดักฟัง แต่การใช้งานจริงยังคงมีข้อจำกัดจากปัจจัยภายนอกอีกหลายประการ เพราะการที่จะใช้อัลกอริธิม Visual Microphone นี้ได้ จำเป็นต้องมีการถ่ายภาพด้วยกล้องความเร็วสูง ทั้งยังต้องควบคุมให้กล้องและวัตถุที่ถูกถ่ายวิดีโอนิ่งให้มากที่สุด ซึ่งยังคงยากที่จะทำได้จริงในบริเวณทั่วไปนอกพื้นที่วิจัย
ที่มา - The Next Web
Comments
คลื่้นเสียง => คลื่นเสียง
Eagle Eye
นึกถึงเรื่องนี้เหมือนกันเลย
เป๊ะเลย นึกถึงหนังเรื่องนี้ทันที
สุดยอดเวลามันเข้าใกล้ความจริงเนี่ย
พัฒนาการของกล้องวงจรปิดซินะ
ส่วนที่ใช้กล้องความเร็วสูงผมไม่รู้สึกว่ามีอะไรใหม่ (ตอนเด็กๆ อ่านเจอว่าเค้ายิง laser ไปแล้ววัดความเปลี่ยนแปลงคลื่นสะท้อนเอา ซึ่งมันคือลักษณะเดียวกัน) แต่ตอนช่วงหลังเค้าใช้กล้อง DSLR ธรรมดาที่ถ่ายได้ 60 fps แต่อาศัยความที่มันใช้ rolling shutter (shutter ไม่ได้ทำงานพร้อมกันทั้งเฟรม แต่ว่าทำทีละเส้นแล้ววนไปเรื่อยๆ แบบที่ถ้าเราส่ายกล้องไปมาระหว่างถ่าย เราจะเห็นวัตถุที่ถ่ายโย้ไปเย้มาได้นั่นแหละ) นั่นถึงทำให้ผมทึ่ง
หมายความว่า frame per sec = sampling rate รึป่าว แสดงว่า ถ้า fps น้อยก็จะได้เสียงแบบตัวโน้ตเดี่ยวๆ เหมือนเครื่องเกม 8bit ผมเข้าใจถูกมั้ย / แต่ผมว่ามันว้าววแฮะ
Jusci
สุดยอดจริง ๆ...
ลมพัดใบไม้ แม่บ้านหยิบถุงไปทิ้ง
mission fail!!