ศาลเมือง Oakland รัฐ California ได้อ่านคำตัดสินคดีกลุ่มผู้ใช้ iPod ที่รวมตัวกัน ฟ้องแอปเปิล ข้อหากีดกันทางการค้า จากการที่ iTunes เวอร์ชัน 7.0 ซึ่งเปิดตัวในปี 2006 ปิดกั้นไม่ให้ใช้แอพดาวน์โหลดเพลงอื่น รวมทั้งปิดการให้ซอฟต์แวร์เล่นเพลงอื่นเข้าถึง iPod โดยผลการตัดสินนั้นคณะลูกขุนมีมติให้แอปเปิลไม่มีความผิดในข้อกล่าวหาดังกล่าว โดยมองว่า iTunes 7.0 เป็นการปรับปรุงคุณภาพผลิตภัณฑ์ ไม่ใช่ทำเพื่อกีดกันทางการค้าอย่างที่กล่าวหา
แอปเปิลออกแถลงการณ์หลังอ่านคำตัดสิน โดยยืนยันว่าแอปเปิลได้สร้าง iPod และ iTunes เพื่อสร้างประสบการณ์การฟังเพลงที่ดีที่สุดสำหรับลูกค้า และดียิ่งขึ้นไปเรื่อยๆ
ด้านตัวแทนของโจทก์แสดงความผิดหวัง และยืนยันว่าคุณสมบัติใหม่ใน iTunes 7.0 เช่นรองรับการดูหนังหรือเล่นเกมเป็นเพียงลูกเล่น แต่สิ่งสำคัญคือการเพิ่มระบบตรวจสอบที่มาเพลง ซึ่งเป็นการกีดกันคู่แข่งในตลาด ทั้งนี้พวกเขาก็บอกว่าจะเตรียมยื่นอุทธรณ์คดีนี้ต่อไป
ที่มา: The Verge
Comments
สาวกอย่างผม อาย จัง
สาธุ เขา(apple) ย่อมมีสิทธิ์กำหนดขอบเขตการใช้งาน ชื่อก็บอกอยู่แล้วว่า iTunes ดังนั้นเพลงก็ควรมาจากiTunes
แต่ตังค์เราซื้อมานะครับ? ทำไมจะไม่ได้
เขาคงต้องการให้ดนตรีมโหรีต่างๆ มีความปลอดภัย ป้องกันปัญหาที่ไม่อาจคาดเดาได้
ปัญหานี้พูดยากครับเพราะมันเป็นแพลตฟอร์มการให้บริการด้วย มันก็เหมือนบอกว่าทำไมไมโครซอฟท์บังคับให้ใช้IEอย่างเดียวไม่ได้ ผมยังแปลกใจกับคำตัดสินครั้งนี้
สงสัยจุดเดียวกับผมเลย
มุมมองผมไม่เป็นธรรมนะครับ ผมมองว่าตอนนั้นศาลอาจเห็นว่าเพราะ windows ครองระบบคอมพิวเตอร์ไว่ทั่วโลกสำหรับผู้ใช้ตามบ้าน มันเลยดูรุ่นแรงกว่าหน่ะครับ เลยหาหาเหตุผลให้ Microsoft แพ้ไป เพราะคุณนึกดู ดีๆว่า Apple ผู้ขาดเพลงบนอุปกรณ์ของตัวเอง แต่เครื่องฟังเพลงแบบอื่นยังใช้ได้อยู่นะ แต่คอมที่บ้านใช้อุปกรณ์ของเจ้าต่างๆ แล้วลง OS ของ Microsoft เจ้าเดียว แล้วถ้าผูกขาด IE ได้มันยิ่งใหญ่มากเลยนะครับถ้าเทียบตามจำนวนผู้ใช้***สมัยก่อน*** คือ Browser มันต่อยอดธุรกิจได้หลายทางมาก เพราะมันเป็นประตูสู่ Web site ต่างๆถ้าจะเข้าต้องใช้มัน ไม่มี Browser ก็อย่าหวังว่าจะเข้า Web ได้ประมาณนี้
จำตอน IE6 กันได้มั้ยครับตอน Netscape พ่ายแพ้ไปในสงคราม Browser ครั้งที่ 1 ไป IE6 มันก็นิ่งเลยเป็นเวลา 6 ปีได้มั้ง แถมช่องโหว่เพียบ แล้วก็มี Active X นี่ตัวกีดกันเลย เว็บราชการเมื่อก่อนผมเจอบ่อย Browser อื่นๆใช้งานบางอย่างไม่ได้เพราะเจ้าตัวนี้เลย
ถ้าให้เทียบอุปกรณ์สำหรับฟังเพลงพกพาที่ไม่ใช่สมาร์ทโฟนในตอนนี้ก็ iPod กันซะส่วนใหญ่นิครับ ผมแทบหาคู่แข่งไม่เจอแล้ว
ปล.ตามอ่านเมนคนอื่น สรุปงงครับตกลงเรื่องมันเป็นยังไงกันแน่@.@
ถ้าเป็นแบบนั้นคงห้ามลงไฟล์อื่นไปเลยแต่แรกแหละครับ ผมว่าไม่ใช่นะ
อคติทำให้คนรับเหตุผลด้านเดียว
ไม่เข้าใจ
ขออีกนิด ผมเห็นด้วยนะที่จะอุทธรณ์ อยากรู้ว่าสุดทางของคดีนี้จะเป็นอย่างไร
ร้านผมต้องซื้อเหล้าจากร้านผมนะ
จะหิ้วมาเองต้องเสียค่าเปิด โอเคปะ!!
Ok ครับ
เสียค่าเปิดแล้วให้เอาเข้าก็ดีนะ ดีกว่าบอกให้เอาเข้า พอเผลอโดนขโมย #เปรียบเทียบ
ปล.ผมเปิดร้านเหล้านะ บางคนหิ้วมิกเซอร์มาด้วยเลย ไม่ช่วยออกค่าแรงพนักงานค่าตัวนักร้องซะหน่อยหรอ #ระบาย
ไม่เหมือนครับ กรณีร้านเหล้าเค้าให้คุณยืมหรือเช่าสถานที่ เพียงแต่เค้าอาจจะไม่เก็บค่ายืมหรือเช่าสถานที่ตรงๆ แต่เก็บเอาจากราคาอาหารและเครื่องดื่ม ส่วน iPod นี่ผู้ซื้อได้ซื้อขาดมาจาก Apple แล้ว สิทธิการใช้ไม่เหมือนกัน
จำกัดผู้ใช้ของตัวเองให้แคบลง
ถูกต้องแล้วครับ สำหรับคนที่ไม่เข้าใจคิดว่าต้องเป็นเพลงที่ซื้อมาจาก iTunes เท่านั้น นั่นเป็นการเข้าใจผิดนะครับ (ข่าวแรกแปลผิด) คืออันนี้เค้าจำกัดไม่ให้โปรแกรมอื่นซิ้งเพลงลง iPod ครับ แม้กระทั่งลากเพลงลงเองก็ไม่ได้
แต่ถ้าอยากฟังเพลงที่มาจากแหลงอื่นที่ไม่ใช่ iTunes store ฟังได้ครับโดยการลากเพลงมาไว้ใน iTunes library (ถ้าไม่ติดDRM ของแหล่งนั้นๆ) แล้วก็จะซิ้งลง iPod ได้ครับ ต่อให้เป็นเพลงเถื่อนยังซิ้งลงไปได้
งานนี้แอปเปิ้ลไม่ได้กีดกันทางการค้าครับ เพราะเพลงที่คุณซื้อมาจากที่อื่นก็สามารถฟังได้ไม่ต่างกับเพลงที่ซื้อมาจาก iTunes เพียงแต่ต้องใช้ iTunes ซิ้งเพลงเข้าไปเท่านั้นเอง เหตุผลก็เพื่อความปลอดภัยและเสถียรของระบบมากกว่า
ซึ่งเรื่องนี้คนใช้ iDevice ส่วนใหญ่จะรับได้เพราะ iTunes มันใช้งานง่ายครับ แต่ก็มีคนบางกลุ่มที่คิดว่ามันไม่สะดวกอยากใช้โปรแกรมอื่นซิ้งหรือลากลงไปตรงๆง่ายกว่า เลยเป็นปัญหาเรื่องนี้ครับ ตอนแรกผมก็หงุดหงิดเช่นกัน แต่พอใช้ iTunes มันก็ไม่ยากอะไรก็เลยยอมๆ
ผมก็ว่าอยู่ไม่เคยมีปัญหาพวกนี้นะ 555 ไม่เคยเห็นข่าวด้วย
ตามไปอ่านต้นทางก็ยังงงๆเข้าใจว่า RealNetworks ทำ DRM ของตัวเองชื่อ Harmony ที่ต้องทำเองเพราะเหมือนเคยติดต่อ apple แต่ไม่ได้รับการตอบรับเพื่อเลียนแบบ DRM apple ที่ชื่อ Fairplay
ซึ่งถ้ามันเข้าได้อยู่แล้วทาง RealNetworks ก็ไม่น่าจะต้องมีตัวนี้รึเปล่าครับ เพื่อให้สามารถเล่นใน ipod ได้?
พอ apple รู้ก็ออกอัพเดท ทำให้เพลงที่ไม่ได้มาจาก apple ถูกลบไป?
อ่านข่าวแรกผมก็ยังเข้าใจว่าแปลถูกอยู่ แอบงงๆ รอท่านต่อไป 55
แก้เพิ่ม
พึ่งเห็นในนี้ว่า sync ผ่าน realplayer
http://www.networkworld.com/article/2855592/microsoft-subnet/very-paranoid-apple-deleted-rivals-music-from-ipods-for-security-reasons.html
+1 ขอบคุณครับ
Russia is just nazi who accuse the others for being nazi.someone once said : ผมก็ด่าของผมอยู่นะ :)
เสริมครับ จุดเริ่มของเรื่องนี้คือสมัยก่อนคู่แข่ง iTunes ในการขายเพลงคือ Real Network เดิมก่อน iTunes 7.0 มันสามารถ sync เพลงจาก Real มาลงได้ แต่ต่อมาปิดกั้นส่วนนี้ แล้วผลคือ Real ก็แทบไม่มีที่ยืนจากนั้นมา เป็นที่มาประเด็นนี้นั่นเอง
ถ้าแบบนี้ผมว่า Apple ก็ไม่ผิดนะ เพราะคนใช้น่าจะรู้ก่อนแล้วว่าซื้อ iPod แล้วต้อง Sync ผ่าน iTunes
อคติทำให้คนรับเหตุผลด้านเดียว
ผมว่าข่าวเก่าก็แปลถูกแล้วนี่ครับ เว้นแต่ที่มาผิด
http://www.engadget.com/2014/12/04/apple-deleted-non-itunes-music/
ปล.เชียร์ให้อุทธรณ์
A smooth sea never made a skillful sailor.
จริงด้วยครับ ผมกลับไปอ่านที่มาทั้ง Engadget และ WSJ
ได้พบว่า แปลถูกแล้วครับ ผมเข้าใจผิดเองเนื่องจากไม่ได้อ่านอย่างละเอียดครับ ซึ่งตอนแรกผมเข้าใจว่าคำว่า Non-iTunes Music หมายถึงเพลงที่ไม่ได้อยู่ใน iTunes Library แต่จากต้นทางแล้ว คำว่า Non-iTunes music หมายความว่า เพลงที่ไม่ได้ซื้อมาจาก iTunes Store ต่างหาก
และผู้ใช้ที่นำเพลงที่ไม่ได้ซื้อจาก iTunes Store มา Sync ด้วย iTunes ลงไปใน iPod ก็จะเจอข้อความให้ Restore เครื่องใหม่ และพอ Restore กลับมากลับพบว่า เพลงจา DRM อื่นหายไปยกเว้นของ iTunes Store
เป็นตามนี้ครับ หลังจากที่อ่านมาสองสามรอบ จึงได้รู้ว่าผมเข้าใจผิดไปเอง ต้องขอโทษด้วยครับ
ป.ล. แต่ผมสงสัยว่า ในเมื่อเพลงมันอยู่ใน iTunes Library แล้ว ทำไมมันถึงหายไปได้ ถ้าแค่หายไปจาก iPod ก็แค่ Sync ใหม่หลัง Restore ก็น่าจะไม่มีปัญหาอะไร
อันนี้ปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้นมีอะไรบ้างเหรอครับ?
Russia is just nazi who accuse the others for being nazi.someone once said : ผมก็ด่าของผมอยู่นะ :)
อันนี้ผมต้องขอออกตัวก่อนนะครับว่า ผมก็คิดว่า แอปเปิ้ลพยายามที่จะกีดกันจริง ๆ และสิ่งที่แอปเปิ้ลบอกมาว่าเรื่องความปลอดภัยมันคือ "ข้ออ้าง" ส่วนนึง แต่ที่บนอธิบายข้างต้นทั้งหมด ผมหมายความว่า แอปเปิ้ลไม่ได้กีดกันจน "ล้ำเส้น" ครับ
ส่วน "เพื่อความปลอดภัยและเสถียรของระบบ" ถ้าจะอธิบายก็คงจะเป็นประมาณว่า ถ้าหากปล่อยให้เอาไฟล์อะไรมาลงใน iPod ก็ได้โดยที่ไม่ต้องผ่าน iTunes ไฟล์ที่นำมาลงอาจจะเป็นไวรัสหรือไฟล์อื่น ๆ ที่ไม่ใช่ไฟล์เพลงก็ได้ นึกถึง ไวรัส Flash drive ครับ คิดว่าคำอธิบายนี้น่าจะตรงนะครับ >.<
แต่ถ้าเป็นเพลงที่ Sync จาก iTunes ก็จะปลอดภัยในระดับนึงเพราะโดยข้อจำกัดของมันที่ Sync ได้แต่เพลงเท่านั้น ทั้งเพลงที่ซื้อมาจาก iTunes Store ทั้งที่ Rip มา และ DRM Free ทั้งหลายครับ
Edit เพิ่ม ผมเข้าใจผิดเรื่องข่าวนะครับ เพราะฉะนั้นเรื่องนี้มันคนละกรณีกันเลย และข้ออ้างเรื่องความปลอดภัยของแอปเปิ้ลที่บอกว่าเพลงที่มากจากแหล่งอื่นไม่ปลอดภัยนั้นไม่น่าใช่ครับ เพราะในเมื่อเพลงนั้นถูก Sync ลงด้วย iTunes ได้แล้ว ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร
มุมมองผมเข้าข้าง Apple นะครับ คือว่าถ้ายอมรับไม่ได้ ก็ซื้อเครื่องฟังเพลงของเจ้าอื่นก็ได้นิครับ มันไม่ผู้ขาดและ OS การทำงานมันซับซ้อนขนาด Windows นะ Device อันอื่นเอามาแทนได้สบาย
แล้วที่อดีตวิศวกร iPod ได้ขึ้นให้การไว้ละ
ไม่น่าเชื่อว่าเคสนี้ Apple จะรอดมาได้
คงโดนอีกฝั่งหักล้างด้วยเหตุผลที่รับฟังได้
Plaintiffs แปลว่า "โจทก์" นะครับ ไม่น่าใช่ชื่อกลุ่มครับ
ขอบคุณครับ (เอ่ะ วันนี้เบลอหลายรอบละ)
ตอนนี้ iTunes 12 แล้ว
ถ้า Real ทำ App ให้ใช้ ก็น่าจะโหลดเพลงผ่าน App ได้นะ เคยใช้ App Dtac DEEZER ก็โหลดได้ไม่ต้องผ่าน iTunes
ทุกวันนี้ผมฟัง FLAC โดยใช้ App FLAC Player+ ซึ่งโอนไฟล์ผ่าน iTunes หรือ WiFi ก็ใด้
แต่ถ้าเป็น iPod รุ่นที่ลง App ไม่ได้ ก็น่าคิด
" ความปลอดภัย " แค่คำอ้าง !!!
ทีมกม.ของพี่แอปเปิลเขาแข็งจริง การทำผลิตภัณฑ์ทั้งซอฟท์แวร์และฮาร์ดแวร์สมัยนี้ไม่มีทีมกม.เก่ง ๆ คงอยู่รอดยาก