มาตามนัดสำหรับสมาร์ทโฟนตัวที่สองที่ออกแบบโดยกูเกิลเอง Pixel 2 และ Pixel 2 XL ที่ยังคงจุดขายไว้ที่กล้อง ด้วยคะแนนจาก DxOMark ที่ 98 คะแนน สูงกว่า iPhone 8 Plus และ Samsung Galaxy Note8 ที่กำลังฮือฮาในประเด็นนี้กัน
ตัวเครื่องยังคงใช้อะลูมิเนียมผสมกระจก มีลำโพงสเตอริโอคู่หน้า ใน Pixel 2 ใช้หน้าจอ AMOLED ขนาด 5 นิ้ว FullHD ในขณะที่ Pixel 2 XL ใช้หน้าจอ P-OLED (ของ LG) อัตราส่วน 18:9 ขนาด 6 นิ้ว ความละเอียด 2,880 x 1,440 แบบ Wide gamut (100% DCI-P3) และทั้งสองรุ่นมีฟีเจอร์ Always-on Display ที่สามารถแสดงข้อมูลของเพลงที่กำลังเล่นอยู่ใกล้ๆ ตัวเรา โดยที่ไม่ต้องส่งข้อมูลออกไปยังเซิฟเวอร์กูเกิลเลย
ตัวเครื่องกันน้ำที่มาตรฐาน IP67 และมาพร้อมฟีเจอร์ Active Edge ผู้ใช้สามารถบีบเครื่องแบบ HTC U11 เพื่อเรียกใช้งาน Google Assistant ได้ด้วย นอกจากนี้ยังตัดพอร์ตหูฟัง 3.5 มม. ออก ผู้ใช้ต้องเสียบอะแดปเตอร์แปลงจากพอร์ต USB Type C เอง
มาที่เรื่องสำคัญอย่างกล้องกันบ้าง Google Pixel 2 และ Pixel 2 XL ยังคงใช้กล้องตัวเดียวกัน ได้ประสบการณ์เหมือนกัน เซ็นเซอร์รับภาพขนาด 12 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/1.8 มีระบบกันสั่น OIS และโหมด Portrait แบบใหม่ที่ให้ตัวแบบโดดเด่นได้โดยไม่ต้องใช้เลนส์คู่ ทำงานได้ทั้งกล้องหน้าและกล้องหลัง (กูเกิลบอกว่าใช้ Machine Learning ร่วมด้วย)
เว็บไซต์ DxOMark ให้คะแนนกล้อง Pixel 2 ที่ 98 คะแนน มากกว่า iPhone 8 Plus และ Samsung Galaxy Note8 ที่ได้ 94 คะแนน โดยระบุว่าระบบโฟกัสดีที่สุดเท่าที่เคยทดสอบมา สามารถโฟกัสเข้าภายในเวลาเพียง 16ms นอกจากนี้ยังชมเรื่อง dynamic range ที่ดีในทุกสภาพแสง, ถ่ายภาพแบบเปิดแฟลชได้ดีมาก, ไฟล์ภาพให้รายละเอียดดี รวมถึงโหมด Portrait ที่ทำหลังเบลอได้ดี
ส่วนการถ่ายวิดีโอก็ได้คะแนนดีเช่นกัน Pixel 2 ถ่ายวิดีโอได้ความละเอียดสูงสุด 4K ที่ 30 FPS โดย DxOMark ชมเรื่องระบบกันสั่นและรายละเอียดที่ดี ซึ่งขณะถ่ายวิดีโอ Pixel 2 ใช้กันสั่นระบบ OIS และ EIS พร้อมกันได้ อีกทั้งยังคงบริการแบ็คอัพรูปและวิดีโอแบบไม่ลดความละเอียดถึงปี 2020 (เข้าใจว่าหลังจากนั้นรูปที่เคยเก็บมาก่อนก็ยังอยู่เหมือนเดิม แต่รูปที่อัพเข้าไปใหม่จะถูกลดความละเอียดลง)
Pixel 2 ราคาเริ่มที่ 649 เหรียญสหรัฐในรุ่น 64GB (21,600 บาท) มีให้เลือกสามสีคือ Kinda Blue (มันก็จะฟ้าหน่อยๆ), Just Black (ก็แค่ดำ) และ Clearly White (เห็นๆ อยู่ว่าขาว) และ Pixel 2 XL ราคาเริ่มที่ 849 เหรียญสหรัฐในรุ่น 64GB (28,300 บาท) มีให้เลือกสองสีคือ Just Black และ Black & White วางขายใน 9 ประเทศคือ ออสเตรเลีย, แคนาดา, เยอรมนี, อินเดีย, สหราชอาณาจักร, สหรัฐอเมริกา, อิตาลี, สิงคโปร์ และสเปน
Comments
ข่มกันแบบสุดๆ กล้องหลังตัวเดียวคะแนนสูงกว่ากล้องคู่เนี่ย แต่เอาจริงๆก็เสียเปรียบเรื่องซูมอยู่พอสมควร แต่รายละเอียดด้านคุณภาพอย่างอื่นนี่จัดอยู่ในระดับเทพจริง
ไปดูรีวิวมาละ ผมว่าถ่ายภาพนิ่งยังไม่ขัดเจนว่าชนะ แต่วิดีโอนี่ทิ้งคู่แข่งขาดลอย แต่ฮาตรงที่ DxO บอกว่าคะแนนสามารถเกินร้อยได้ถ้าถึงเวลา (iPhone X?) ที่ฮาไม่ออกคือขายแค่เก้าประเทศ เก้าประเทศ คุณพระ!
เป็นที่หนึ่งด้าน Machine learning จริงๆอยากได้ตัว black and white มากๆ
ฮา เมื่อเช้าแฟนบอยแอปเปิลกับซัมซุงยังตีกันอยู่เลย แค่เรื่องครองอันดับคู่กัน ข่มกันอยู่นั่น -.-
ฮาาา กำลังเดือดเถียงกันอยู่ว่าใครดีกว่าใคร พี่เล่นเปิดตัวมาเหมือนจะบอกว่า "จบนะ"
เทคโนโลยีไม่ผิด คนใช้มันในทางที่ผิดนั่นแหละที่ผิด!?!
จะมีสาวกผลไม้แหว่งออกมา ตบเองชงเองเล่นเองกินเองอีกใหม
-อดีต กล้องไอโฟนดีที่สุดในสามโลก
-DxO ผลออมมาว่ากล้อง ip คะแนนต่ำกว่าค่ายอื่น สาวกก็บอกว่าเวปไม่มีความน่าเชื่อถือ
-DxO ปีนี้ผลออกมาชนะรุ่นเก่าค่ายอื่นก็ออกมาแขวะว่าสาวกแอนดรอยเดียวคงออกมาบอกว่า DxO ไม่น่าเชื่อถือ ทั้งๆที่เป็นครั้งแรกที่ผลออกมาก่อนแต่ผลรุ่นใหม่ค่ายอื่นยังไม่ออกยังไม่มีอะไรเปลียบเทียบเลยจะเล่นซะแล้ว
-DxO สามวันถัดมาผลรุ่นแอนดรอยรุ่นอื่นในปีเดียวกันออกมาดีกว่า กลับบอกว่าสาวกแอนดรอยบอกว่า DxO ไม่น่าเชื่อถือคงกลับมาน่าเชื่อถืออีกครั้ง ทั้งๆที่ในกระทู้ไม่มีใครพูดเพราะสามวันที่แล้วคะแนนค่ายอื่นยังไม่ออกมาเปลียบเทียบ
ทำให้รู้เลยว่าเหล่าสาวกผลไม้แหว่งคลั่งไคล้ในแบรนมากแค่ใหน สุดยอดจริงๆ ทำได้ทุกอย่าง
ผมเข้าใจเลยว่าทำไม DxO ถึงออกคะแนน ip มาก่อน อาจเพราะอยากดูว่าเหล่าสาวกจะแสดงความคิดเห็นอย่างไร
แต่ก็หวังว่าสักวัน ip คะแนนจะออกมาดีกว่าจริงเพราะคนที่ชอบบอกว่ากล้องip ดีที่สุดในสามโลกจริงๆซะที
เท่าที่ไล่อ่านคอมเมนท์เห็นตอนนี้ ก็เห็นแต่ สาวกหุ่นเขียว เนี่ยแหล่ะครับตบเองชงเอง
ทุกข่าวเลย
ผมว่าคุณลองไปไล่อ่านข่าวเก่าๆดูดีๆนะครับ ไม่ต้องระบุก็น่าจะรู้ว่าที่เขาพิมมาหมายถึงไอดีไหนบ้าง
+1
ลองไปดูเม้นท์ล่างๆ สิครับ
เป็น comment ที่ Inception มากครับ (ต้องอ่านหลายรอบกว่าจะเข้าใจ) แต่ก็อ้างอิงจากการคิดไปเองของแฟนค่าย Apple จากข่าวเก่าจริง
ผมให้ +1
That is the way things are.
ผมว่าามันก็ทำกันทั้งสองฝ่ายนะ ติ่งดรอย โพตแนวนี้ก็เยอะแยะ เครียดกับชีวิตมากไปป่าวครับ
จากการอ่านคอมเม้นนี้ทำให้รู้เลยว่า การวิเคราะของคุณมันไม่น่าเชื่อถืออย่างมาก เพราะคุณใช้คำว่าสาวกแอปเปิล ซึ่งเป็นคำพูดแบบเหมารวม ทั้งๆที่กลุ่มจำนวนคนทึ่คุณพูดถึง มันกี่คนเอง แต่จำนวนสาวกจริงๆ มีตั้งกี่ล้านคนแล้ว อ่านแล้วน่ารำคาญตาเลยครับเหมือนพวก อตืและเหยียดความชอบคนอื่นแบบเหมารวม เช่นเดียวกับพวก เหยียดสีผิว ขอแค่ผืวสี ก็อคตืหมด พวกเหยีดศาสนา ถ้าไม่เหยีดไม่อคิ ก็ระบุมาเลยซิครับว่าที่เห็นๆมานี่กี่คน ถ้าจำไม่ได้ ก็ระบบว่าเป้นสาวกส่วนน้อยมากหรือว่าบางคน หรือว่ามันไม่สะใจเลยพูดเหมารวม . คำพูดคุณมัน อคิและเหยีด ความชอบของคนอืนครับผมก็เป็นสาวกแอปเปิล ที่พึ่งตัดสินใจว่าจะย้ายมาซี่รี่ note แบบระยะยาวไม่มีกำหนด ก่อนหน้าก็เคยแวปไปลอง ซัมซุงกับโซนี่ หลายรุ่นเหมือนกันแต่ใช้ได้ไม่นาน
ปล ไม่ต้องสงสัยว่าทำไมถึงต้องมาบ่นคอมเม้นนี้อย่างเดียว คำตอบคือ มีอารมพิมพอดี อยากจะพิมกับทุก การเหยีดความชอบของคนอื่นแบบเหมารวมทั้งหมดแต่ไม่มีอารมบ่อยขนาดนั้น
+1
สาวก =! ผู้ใช้นะครับ
อย่างคุณผมว่าเป็นผู้ใช้ครับ เลือกสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับตัวเอง ไม่ได้เลือกเพราะมันเป็นไอโฟน
ผมเคยสนับสนุนทุ่มเถียงประเด็นนี้มานานแล้วครับ
สุดท้ายพวกที่เรียกคนอื่นว่า "สาวก" ก็จะเข้ามาตอบแบบเดิม ๆ ว่าเขาเรียกแบบนี้กับเฉพาะคนบางกลุ่ม บางรูปแบบ ใครไม่เข้าข่ายก็ไม่ควรจะไปเดือดร้อน แต่พอโดนจี้ถามว่า "สาวก" ที่เขาใช้กันนี่มีนิยามว่าอะไร ณ ขณะนี้หรือในข่าวนั้น ๆ มี ID ไหนบ้างที่เข้าข่าย "สาวก" เขาจะไม่กล้าออกมาตอบครับ
That is the way things are.
คุ้นๆว่าเคยเจอคุณมาถามถึงประเด็นนี้ทีนึงตอนผมบอกว่าแอปเปิลมองผู้ใช้ว่าไม่รู้ความ(ซึ่งคุณก็ดันเข้าใจผิดว่า"ผม"มอง"คนใช้ไอโฟน"ซึ่งผิดบริบทไปไกล)ผมก็อธิบายไปซะยาว แต่คนที่หายคือคุณนะครับ
สาวกมันก็แปลตรงๆว่าผู้นับถือ/เชื่อถือถ้าในบริบทแขวะแบบนี้ก็มักจะหมายถึงพวกอวยไม่สนใจหลักฐาน หรือไปกดฝ่ายตรงข้ามแบบไม่มีเหตุผลมายืนยันประกอบ(ซึ่งเหมือนคุณก็ลงไปยืนยันตัวตนสาวกให้เองเรียบร้อยในกระทู้นี้) เพราะใช้ความเชื่อนำ
ซึ่งเอาจริงๆสาวกก็ไม่ได้มีมากหรอก แค่โชว์ตัวทีไรเรียกคนได้เยอะ แล้วก็ผู้ใจเจ็บเล่นคืนกันไปมาซึ่งผมก็เข้าใจนะว่าคนส่วนใหญ่ก็มีเหตุผลในการใช้งานของตัวเอง ไม่ได้เห่อแอปเปิลไม่ลืมหูลืมตาแบบทำอะไรก็ไม่ผิด โดนพวกแอนตีแบบเกรียนๆเหมารวมมันก็เซ็งอยู่
แต่ถ้าจะมาพูดว่าจี้ถามแล้วหานิยามไม่ได้ ผมว่าคุณพูดเข้าข้างตัวเองเกินไปหน่อยครับ
ผมชอบคำตอบนี้นะ มีทั้งคำตอบเชิงนิยามกับคำคอบเชิงบริบท ก็เหมือนเข้าใจตรงกันว่าที่เอาคำว่า "สาวก" มาใช้เนี่ย เจตนาไม่ได้ชื่นชมหรือเป็นคำกลาง ๆ แต่เป็นคำที่ใช้สื่อความหมายในทางลบชัดเจน สิ่งที่คนนำคำนี้มาใช้ชอบทำก็คือแฝงเจตนาดูถูกลงไป ถ้าให้ผมเขียนตรง ๆ ก็ประหนึ่งคิดว่าแฟนของผลิตภัณฑ์อีกค่ายไม่มีความคิดความอ่านที่เหมาะสมตามตรรกะหรือชุดความคิดที่ตัวเองยึดถือ
ในเมื่อรู้ว่าเป็นคำที่สื่อความหมายลบ ทำไมยังนำมาใช้แขวะแบบเหมารวมอยู่ดี อย่างที่คุณพูดคนที่เขาใช้ผลิตภัณฑ์ Apple (หรือ Android) เพราะเหตุผลส่วนตัวของเขา มาโดนเรียกแบบนี้มันก็ไม่แฟร์ แล้วทำไมยังจะชอบใช้คำนี้กัน ? ในเมื่อมีแฟน Apple (หรือแฟน Android) แค่ไม่กี่คนที่ชอบไปกดฝ่ายตรงข้ามก็ควรจะเรียกชื่อตรง ๆ ไปเลยไม่เหมารวมน่าจะดีกว่า พฤติกรรมเหยียดกราดเหมารวมแบบนี้ก็ควรจะเลิกเสีย
ขอบคุณที่คุณมาตอบ ในข่าวเก่าผมจำได้ว่าผมเคยถามแล้วก็ต้องถามหลายรอบมากกว่าจะได้คำตอบ ผมอาจจะไม่ได้ตามไปอ่านจนสุดเพราะผมรู้สึกว่ามันเลยจุดที่ผมต้องรอคำตอบไปแล้ว ถ้าจะตอบก็ควรจะตอบง่าย ๆ ตรง ๆ แบบนี้ตั้งแต่แรก ก็ต้องขออภัยด้วยครับ
สิ่งหนึ่งที่น่าสนใจคืออย่างที่ผมบอก มีคนที่มองคำว่า "สาวก" ไม่ได้เป็นคำเหยียดและก็มีคนที่มองว่า "สาวก" เป็นคำเหยียดแบบผม เวลาที่ผมอ่านประโยคที่แฟนค่ายหนึ่งเรียกแฟนอีกค่ายหนึ่งด้วยคำว่า "สาวก" แล้วผมรู้สึกและสามารถตีความได้ทันทีว่านั่นคือความหมายลบ การพูดเรียกเหมารวม ๆ มันอาจจะไม่กระทบบางกลุ่มที่ไม่คิดอะไรแต่ในขณะเดียวกันมันก็กระทบกับคนอีกกลุ่มที่คิดเช่นกัน ดังนั้นผมว่าก็ควรหาคำอื่นหรือวิธีการอื่นมาเรียกแทนคำนี้ไปเลยน่าจะเป็นการใช้คำที่ชาญฉลาดกว่า แทนที่จะใช้คำว่า "สาวก" ก็ใช้คำอื่นแทน อาทิเช่น พวกอวยไม่ลืมหูลืมตา (คนที่ใช้ผลิตภัณฑ์ Apple หรือ Android อย่างเหนียวแน่นแต่ไม่ได้อวยอะไรก็จะได้ไม่รู้สึกว่าตัวเองโดนเหมารวมไป) หรือเรียกด้วย ID ตรง ๆ ไปเลย เป็นต้น
อย่างที่ได้บอกไป สิ่งที่ผมว่าสำคัญที่สุดคือมันไม่ใช่หน้าที่ของเราที่จะไปตราหน้าคนนั้นคนนี้ว่าเป็น "สาวก" ถ้าใครอยากเป็น "สาวก" อะไรเขาก็จะบอกเอง ผมก็เห็นหลายคนบอกว่าตัวเองเป็นสาวก WP บ้าง สาวก Sony บ้าง ผมอ่านแล้วก็เฉย ๆ ปกติ แต่คนที่เขาถกเถียงเฉย ๆ ไม่ว่าจะเถียงอย่างมีเหตุผลหรืออย่างไม่มีเหตุผลก็ตาม (ด้วยสติปัญญาที่เขาพึงมี) โดยไม่ได้ประกาศหรือเรียกตัวเองว่าเป็น "สาวก" สังคมหรือตัวเรามีหน้าที่อะไรไปตีตราเขาเหรอครับว่าทำแบบนี้พูดแบบนี้ต้องเป็น "สาวก" นะ
ผมว่ามันไม่ใช่ ผมไม่เห็นด้วย
That is the way things are.
เอาจริงๆ ถ้าผมเลือกใช้คำว่าสาวกในบริบทลบ ผมก็ตั้งใจแขวะอยู่แล้วครับ อันนี้ไม่สร้างภาพ
ผมเริ่มเข้าใจคุณแล้ว เพราะคำว่าสาวกนี่ดันถูกใช้จากคนหลายประเภท จากที่พยายามนิยามว่าพวออวยไม่ลืมหูลืมตาก็กลายเป็นเหมารวมผู้ใช้มั้งเข่งก็มี คนอ่านก็พลอยรู้สึกไม่ดีเพราะไม่รู้คนเขียนเหมารวมขนาดไหน อันนี้ผมก็ขอโทษด้วย
แต่เอาจริงๆ......อวยไม่ลืมหูลืมตานี่ ยาวกว่าสาวกมากครับ 5555
ถ้าจะเลี่ยงคำนี้ อาจต้องเลือกคำใหม่ที่สั้นและสื่อ มันจะได้ออกไปในวงกว้างได้
ส่วนเรียกเป็นไอดีผมว่าได้แค่บางกรณี เพราะบ่อยครั้งมันคือการพูดรวมๆถึงพวกอวยไม่ได้เจาะจง
ขอบคุณที่มาตอบครับ ขอบคุณที่รับฟังด้วย
ยินดีครับที่เราทั้งคู่เข้าใจประเด็นนี้ตรงกัน
That is the way things are.
ไม่รู้สิครับเห็นกระทู้ข่าว DxO iphone ก็ทั้งด่าทั้งเหน็บทั้งแขวะทั้งตบเองชงเอง แต่มากินอีกกระทู้ note 8 มีเรียกสาวกแอนดรอย ในข่าวDxO iphone https://www.blognone.com/node/95690#cid-1009242
โฟสนี้ชงเองตบเองกันใหญ่ ไม่เห็นมีใครว่าอะไรเลยครับ แถมข้างล่างเล่นจนโดนแบนก็มีส่วนอีกขาว DxO Note8 https://www.blognone.com/node/95978#cid-1011321
ก็ออกมากินเอง แบบที่กล่าวมาข้างบน กระทู้นี้เลยออกมาบอกว่าเกิดอะไรขึ้น ไม่นึกว่า คำว่าสาวกจะเป็นการด่าซะนี่ แต่ด้วยแบรน appl เข้าใจครับ
ควรจะเลิก คห. แนวนี้ได้แล้วมั้ง ข่มกันไปมา ร้อยพ่อพันแม่จะคิดเหมือนกันได้ไง
เอาตรงๆ นะ ผมโครตสงสัยเลย พวกที่เข้ามาบอร์ดแล้วก็ไล่ด่าคนอื่นว่าสาวก นี่ สงสัยจะว่างมาก ชีวิตคงคิดหมกมุ่นแต่เรื่องนี้เหรอ
จะด่าคอนเท้น ด่าผลงาน อะไรก็ว่ากันไป
สาวกเป็นคำด่าหรอครับ? ผมเพิ่งรู้ งี้ถ้าผมบอกว่าพระเป็นสาวกของพระพุทธเจ้านี่คือผมด่าพระหรอครับ
ก็ขึ้นอยู่กับว่าเค้าเป็นสาวกพระพุทธเจ้าจริงมั๊ยถ้าพระองค์นั้นนับถือศาสดาองค์อื่น...เค้าก็อาจจะมีเคือง
ประเด็นไม่ใช่คำว่าสาวก...แต่เป็นการ"ยัดเยียด"คำว่าสาวก
คำว่า "สาวก" มันสื่อความหมายได้ทั้งด้านที่ดีและไม่ดีครับ คุณยกตัวอย่างคำว่า สาวกขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ก็เป็นการสื่อในด้านดี เพราะคนส่วนใหญ่ในสังคมเข้าใจว่าพระพุทธเจ้าท่านอยู่ฝ่ายดี เป็นตัวแทนของความดี เป็นศาสดาที่เผยแผ่ศาสนาโดยมุ่งหวังด้วยเจตนาที่ดีที่อยากให้สัตว์โลกพ้นทุกข์
ทีนี้เรามาลองดูบริบทนี้กันบ้าง สาวกลัทธิโอมชินริเคียว หรือ โทชิเป็นสาวกลัทธิล้างสมอง แบบนี้ถือว่าคำว่าสาวกคงสื่อไปในทางที่ไม่ดี ผู้นำลัทธิเป็นคนที่ไม่ดีแต่ก็ยังมีคนไปนับถือเชื่อฟังอยู่ คนในสังคมก็มักจะมองคนพวกนี้ในเชิงที่ว่า "ไม่เข้าใจ" ว่า "สาวก" พวกนี้คิดอะไร ทำไมไปหลงเชื่อเรื่องพวกนี้ได้
หวังว่าคงเห็นและเข้าใจตรงกันจากตัวอย่างด้านบนทั้งคู่
ทีนี้มาดูบริบท iPhone Apple กันบ้าง ส่วนมากคนที่เรียกแฟน Apple ว่าสาวกมักจะเป็นแฟนค่าย Android ซึ่งมองผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ของ Apple ในแง่ลบหรือไม่ดีมาโดยตลอด ไม่ว่าจะเป็นเรื่องราคาที่แพงเกินไป (ในสายตาแฟน Android) เทคโนโลยที่ล้าหลัง feature ที่ขาด ๆ เกิน ๆ ความเป็นระบบปิดที่ไม่อนุญาตให้ผู้ใช้ปรับเปลี่ยนวิธีการใช้งานได้ตามต้องการ และประเด็นอื่น ๆ ที่ผมอาจจะนึกไม่ออกตอนนี้ ทั้งหมดทั้งปวงจะสื่อได้ว่าในสายตาแฟน Android ผลิตภัณฑ์ของ Apple นั้น "ไม่ดี" "เอาเปรียบผู้ซื้อ" "ไม่คุ้มค่า" รวม ๆ ก็ถือว่าไม่ดีนั่นแหละ
ดังนั้นการไปเรียกแฟน Apple ด้วยคำว่า "สาวก" จากแฟน Android เนี่ย ความหมายหรือนัยยะมันก็เหมือนกับที่ยกตัวอย่างไปข้างต้น คือเหมือนมองหน้าแล้วไม่เข้าใจว่าคนพวกนี้ (แฟน Apple) ไปชอบ brand นี้ได้อย่างไร ทำไมต้องยกย่องชื่นชม Apple อะไรขนาดนั้น ไม่เข้าใจว่า "แฟน Apple" หรือ "สาวก" พวกนี้คิดอะไร ทำไมไปหลงเชื่อ keynote ของ Apple ได้ทุกปี ๆ ทั้ง ๆ ที่ Apple "ไม่ดี"
เห็นการเทียบเคียงความหมายในคำว่า "สาวก" Apple กับ "สาวก" ลัทธิโอมชินริเคียวไหมครับ ?
แน่นอนว่าไม่ใช่ทุกคนในสังคมจะรู้สึกหรือคิดอย่างที่ผมพิมพ์ไป ในสังคมย่อมมีความหลากหลาย แฟน Apple ที่ไม่รู้สึกอะไรกับคำว่า "สาวก" ก็มีอยู่อย่างแน่นอน For Some นี่มันเป็นจริงเสมอสำหรับบริบทสังคมที่หลากหลายแบบบนโลกมนุษย์เรา แต่ผมเชื่อว่าก็มีอีกหลายคนและเป็นจำนวนมากที่รู้สึกโดนดูถูกทุกครั้งที่ตัวเองถูกเรียกว่า "สาวก" ด้วยเหตุผลที่ผมอธิบายไปข้างต้น ดังนั้นเวลาแฟน Android เรียกแฟน Apple ด้วยคำว่า "สาวก" แบบเหมารวมไม่จำเพาะเจาะจง มันต้องกระทบความรู้สึกของคนจำนวนหนึ่งแน่นอน
คนพวกนี้อยู่เฉย ๆ อยู่ดี ๆ ก็มีคนกลุ่มหนึ่งที่ชอบผลิตภัณฑ์ของอีกฝ่ายมากกว่ามาตราหน้าเรียกพวกเขาว่าเป็น "สาวก" เพียงเพราะพวกเขาซื้อผลิตภัณฑ์ Apple ใช้เป็นประจำ คุณว่ามันแฟร์กับเขาไหม ??
ที่สำคัญการเป็นหรือไม่เป็น "สาวก" ของอะไรสักอย่างเนี่ย มันควรจะให้เจ้าตัวออกมาประกาศตัวตนเองไม่ใช่เหรอ ? มัน ไม่น่าจะใช่หน้าที่ของคนอื่นที่จะไปตีตรากำหนดกฎเกณฑ์ว่าคนนั้นคนนี้คนไหนเป็นสาวกอะไรนะ
ปล. การเรียกคนอื่นว่า "สาวก" เนี่ยผมไม่เห็นด้วยทั้งจากฝั่ง Android และ Apple ผมเองก็เคยติงทั้ง 2 ฝั่งแต่ส่วนมากผมจะติงฝั่ง Android มากกว่าเพราะฝั่ง Android มักใช้คำนี้บ่อยกว่า และน่าจะเป็นคนเริ่มใช้คำนี้กับอีกฝ่ายก่อนด้วยถ้าดูจาก timeline ผลิตภัณฑ์ iPhone ตัวแรกออกปี 2007 ส่วน Android ตัวแรกที่ขายในตลาดออกปี 2008 แต่เอาเข้าจริงหลัง ๆ ผมก็เลิกติงแล้วล่ะ พูดไปแค่ไหนคนไม่เข้าใจก็ยังคงไม่เข้าใจอยู่ดี
That is the way things are.
ผมว่าคำว่าสาวกมันไม่ได้เป็นคำที่นำมาเปรียบเทียบตามศาสดาว่าดีหรือเลวหรือครับ มันไม่ใช่คำด่าหรือคำยอ คำว่าสาวกถ้าแปลตามพจนานุกรมมักจะเกี่ยวข้องกับทางศาสนา แต่ถ้าลองแปลเป็นภาษาอังกฤษจะได้ความหมายประมาณผู้ติดตามหรือแฟนคลับ ในอดีตการบอกสาวกอาจจะหมายถึงผู้ที่ชื่นชอบติดตามศาสดา เช่น สาวกของพระพุทธเจ้า สาวกของพระเยซูคริสต์ กลุ่มนี้จะรักในศาสดาของตนและปกป้องศาสดารวมถึงเผยแพร่ศาสนาของศาสดาผมมองว่าเป็นเรื่องปกติครับ เพราะการเป็นสาวกที่ดีย่อมต้องเชิดชูศาสดาของตน ถ้ายึดตามหลักนี้การเรียกคนกลุ่มนึงว่าสาวกไม่น่าจะใช่คำด่าครับ ถ้าผมชอบ Apple เชียร์ให้คนใช้แล้วมีคนมาบอกว่าผมเป็นสาวกผมก็ถือว่าเค้าพูดจริง และผมก็เรียกเพื่อนที่ใช้ Android ว่าสาวก Android เรียกเพื่อนที่ใช้ Apple ว่าสาวก Apple ก็ไม่มีใครโกรธหรือไม่พอใจอะไร คำว่าสาวกจริงๆอาจจะสื่อความหมายง่ายด้วยซ้ำว่าใครชื่นชอบอะไรติดตามอะไร ถ้าเรากล่าวถึงคนๆนึงว่าเป็นสาวกพระพุทธเจ้า หรือสาวกลัทธิโอมชินริเคียว เราก็รู้ว่าเค้าอยู่กลุ่มไหนชื่นชอบอะไร แล้วแต่คนจะตัดสินเถอะครับว่าดีหรือไม่ดี คำด่าจริงๆคือติ่งมากกว่าที่สังคมใช้เหยียดกัน
สาวก ไม่ใช่คำด่าครับ แต่คำตามท้ายนั่นล่ะ
จะเป็นคำด่าหรือคำชม ขึ้นอยู่กับว่า บรรดา สาวก ของ xxx จะเป็นอย่างไร
และความรู้สึกต่อ สาวก xxx นั่นขึ้นอยู่กับพฤติกรรมที่ผ่านมา โดยมันจะฝังเข้าไปในความรู้สึก
เมื่อได้ยิน อาจทำให้รู้สึกในแง่ลบ หากสาวก xxx มีพฤติกรรมด้านลบอยู่บ่อยๆ
และมันจะรู้สึกเฉยๆ หรือด้านบวก หากสาวก xxx เหล่านั่นมีพฤติกรรมที่ดี
ยกตัวอย่าง สาวก sony .. เมื่อได้ยินให้ความรู้สึกว่าบรรดาสาวกเป็นพวกน่าสงสาร ถถถ
พวกงี้เจ็บปวดรวดร้าวครับ ผมก็เป็นสาวกโซนี่ แต่เชียร์อยู่ห่างๆ รอวันที่จะกลับมายิ่งใหญ่ครับ 5555
ส่วนสาวก windows mobile หรือ windows phone ก็เป็นพวกที่ถูกศาสดาทิ้งสินะ 55
มานั่งเถียงเรื่อง ความหมายของ คำ มันคงไม่มีประโยชน์หรอกครับเพราะ คำ ไม่ได้ทำอะไรผิด ทั้งหมดขึ้นอยู่กับเจตนาของ "ผู้ใช้คำ" ซึ่งบริบทนี้ผมเข้าใจว่า ผู้ใช้คำกล่าวถึงกลุ่มคนที่ชื่นชอบ apple อย่างมากถึงขั้นชอบแดกดันถากถาง ยี่ห้ออื่นอยู่เป็นประจำ ซึ่งผู้ใช้คำคงมองว่า คนกลุ่มนี้มีความลำเอียงและอคติต่อแบรนด์อื่น ผู้ใช้คำก็คงจะอคติและไม่ชื่นชอบพฤติกรรรมเช่นนี้ จึงใช้ถ้อยคำเชิงเสียดสีว่า "สาวก" มันก็ง่ายๆเท่านี้แหล่ะครับ ผมว่าคุณก็เข้าใจแหล่ะ แต่ดันไปเถียงเรื่องความหมายของคำซึ่งไม่มีประโยชน์ เพราะมันไม่บรรลุเป้าหมายและไม่เจ้าใจเจตนาที่แท้จริง เหมือนเวลาทำงานแล้วในทีมมานั่งเถียงกันเรื่องจะส่งงานตามสัญญา(ที่ลูกค้าอาจจะรู้สึกเฉยๆ) หรือ ส่งงานที่ลูกค้าประทับใจ(ซึ่งอาจจะเกินสัญญาไปนิดหน่อย) มันเป็นทัศนคติครับ
แค่ออกมาเล่าเหตุการณ์ที่สาวกบางคนกล่าวในกระทู้ข้างล่างนี้ โดนแบนยังมี ไม่เห็นออกมาเรียกร้องอะไรเลยท่าน https://www.blognone.com/node/95690#cid-1009242 <--เห็นมีตั้งหลายโพสเรียกสาวกไม่เห็นออกมาพูดเลย หรือเพราะ...
เว็บ Google บอกถึงปี 2020 เท่านั้นสำหรับภาพไม่ลดความละเอียด ไม่ใช่ตลอดชีพ
โลกแตกก่อน 2020 แน่นอน Google Comfirm
แก้ตามนั้นครับ
Pitawat's Blog :: บล็อกผมเองครับ
มีดีแค่ AI เพราะเป็น google นี่แหละ ถึงล้ำได้ขนาดนี้ แต่คิดว่าไม่จำเป็นต้องเป็น pixel ก็ได้
ก็ยังจะแขวะได้
แต่ตอนนี้กล้องคืออันดับ 1 นะครับ อิอิ
ถ้ามีพอร์ตหูฟังจะเยี่ยมแล้วแท้ ๆ นอกนั้นด้วย machine learning ทุกอย่างเยี่ยมหมด ขายจุดแข็งของตนเองได้ดีมาก
แต่เรื่อง hardware เหมือนถอยหลังลงคลอง
ไม่มี wireless charging ซะงั้น
มีคนเคยพูดขำๆ ไว้ว่า apple เปิดตัวไอโฟน 2 ชม. เขียนข่าวได้ 2-3 เดือนส่วน google เปิดตัว pixel 2 ชม. เขียนข่าวได้ 2 วัน เลิก จบ แยกย้าย แล้วก็ผ่านไป
ส่วนตัวคิดว่าไม่จริงเลย น่าจะน้อยกว่า 2 วัน มากกว่า
ตลกดี 55
หลักๆก็คือเขียนทุกอย่างแล้วจบ ทุกคนรับทราบและรู้กัน
คนที่ตาม Google ส่วนมากก็จะตามเทคโนโลยีทุกอย่างอยู่แล้ว ดังนั้นไม่จำเป็นต้องขยายความอะไรมาก เขียนมาทีเดียวจบไม่ต้องเล่าใหม่
แต่ถ้าบอกว่าฝั่ง apple ต้องเขียนสรุปถึง 3 เดือนนี่ ผมว่าคงเป็นเพราะผู้รับสารไม่ค่อยมีความรู้ก็เลยต้องมาเขียนอธิบายนวัตกรรมใหม่ๆของทาง apple ที่ในโลกมันมีอยู่แล้ว แต่กลุ่มผู้ใช้งานไม่รู้จัก ก็เลยต้องไปขุดคุ้ยมาเล่ากันใหม่อีกครั้ง เขียนวนไปมา เล่าแล้วเล่าอีก ซินะ ...
+1
อ่านเกมขาดจนต้องล็อกอินเข้ามา +1
+1
ข่าวแอปเปิ้ลที่เขียนต่อมา 2 เดือนนี่คืออะไร? วิธีประหยัดแบตงี้ วิธีเปิดปิดเมนูนู่นนี่นั่นงี้ การ import/export ข้อมูลงี้ มันคือวิธีการใช้เครื่องที่คนใช้มักไม่ค่อยรู้ หรือล่าสุดนี่ต้องมาอธิบายเรื่อง Wireless Charger งี้เหรอ? เค้าใช้กันไปถึงไหนแล้วเนี่ย
ปกติไม่ค่อยอยากตอบเม้นของหัวเม้นนี้นะ เพราะยังไงเค้าก็ไม่มาอ่านอยู่ดี พวกสักแต่จะหาเรื่องมาแขวะ ขนาดผมใช้ทั้งสองแบรนด์ยังรับไม่ได้ พอโดนคำเรียกว่า "สาวก" ก็มีคนอื่นมาร้อนรนแทนอีก
+1 หึ หึ เข้ามาตอบหน่อยเถอะครับ เอาให้หมดโควต้าวันนี้ไปเลย
+1
โอ้ อีกสิ่งนึงที่ต้องปรบมือคืออัพเดตโอเอสตัวนี้ประกันสามปีแล้ว เท่าระยะ security patch จากแต่ก่อนแค่สองปี สามารถลากไปถึง Android O>P>Q>R กันเลยทีเดียว
Pixel 2 ราคา 21,600 น่าสนใจมากสีฟ้าสวยดีแหะ
ถ้ารวมภาษีแล้ว ผมว่าราคาน่าจะอยู่ที่ 26,500
ห๊ะ พอรวมแล้วเพิ่มอีก 5000 เลยหรอ
ปีที่แล้วยังล้อเขาเรื่องพอร์ตหูฟังอยู่เลย แล้ว Adapter ที่ชาร์ตไปฟังไปได้ก็แพงกว่าของแอปเปิลด้วยนะ ผิดหวังเรื่องนี้มาก แต่ที่เหลือโอเคอยู่สำหรับ 2XL
DxOmark กลับมามีความน่าเชื่อถือละทีนี้
นี่ไงครับ ต้นเหตุของ comment Inception ด้านบน
That is the way things are.
หลงดีใจเห็น Pixel 2 จอ 5" นึกว่า 18:9 (T_T)
ขอไปรอเก็บ Sony Xperia XZ1 Compact เหมือนเดิม
กดสั่งสีฟ้า ... แต่ล็อกไว้ให้เฉพาะ Verizon เลยต้องใช้สีดำต่อไป
ปล. ชอบตรงที่เทรดเครื่องเก่าได้ราคาดีเนี่ยแหละครับ
อ่าว เอา Pixel เครื่องเก่าไปแลกได้ด้วยหรอ
ต้องทำยังไงบ้างครับ
แต่อยู่ไทยคงอดซินะ
เอาไปเทิร์นได้ครับ
Pitawat's Blog :: บล็อกผมเองครับ
Pixel XL น่าจะได้กล้องคู่ Tele + Wide กับ Rom 256 GB ชน iPhone ด้วยสิ
Note 8 ผมตกกระป๋องภายในวันเดียว 5555+
ไม่ค่อยเห็นด้วยกับการตัดช่องหูฟังออกไปเลย รุ่นจอเล็กขอบบนล่างจะใหญ่ไปไหน
ตัดช่องหูฟัง ความน่าใช้น้อยลงไปมาก
Wireless Charge
ช่องหูฟัง 3.5mm
4K 60FPS
อะไรยังไม่ครบอีกหว่า
อ่าว ดรอย อีกค่ายเขาได้ 100 ไม่ไช่เหรอ หรือผมอ่านข่าวผิด
ทำไมผมรู้สึกว่า ลุค ฟีล มันเหมือน iphone5C 55555555+
คงอ่านผิดหรือจำผิดจริง ๆ แหละครับ
ที่ได้เต็ม 100 มีแค่ Note 8 ส่วนของภาพนิ่งมั้งคับ คะแนนรวม 94
ส่วน iP8 กับ 8+ ได้ 92 และ 94 นะครับ
100 คือคะแนนภาพถ่าย แต่กูเกิลใช้ AI ช่วยรีทัช(วีดีโอด้วย) ทำให้คะแนนวีดีโอสูงกว่า สรุปเซนเซอร์อาจธรรมดาพอๆกัน แ่ซัมซุงปรับแต่งซอฟท์แวร์ถ่ายภาพได้ดีกว่า แต่กูเกิลมีระบบรีทัชด้วย AI ในตัว
เอ อันนี้แปลเองหรือว่าเอาคำแปลมาจากไหนครับเนี่ย ช่างโดนใจเหลือเกิน
แปลเองครับ
Pitawat's Blog :: บล็อกผมเองครับ
สรุปตัดรูหูฟังตาม iPhone กันหมดซะงั้น
ตัดช่องออกไม่ว่า แต่ช่วยแถมอแดปเตอร์ USB-C to USB-C (สำหรับชาร์จ) + 3.5mm ด้วยละกันครับ
ปกติ Google ออกจะใจป้ำนะครับ ปีที่แล้วยังแจก Daydream เลย ผมอยากได้มากกว่าอแดปเตอร์อีก lol
ปีที่แล้วยังล้อเขาเรื่องช่องเฮดโฟนอยู่เลย โธ่ว
AI ฝังใน รึว่า online ถ้าถ่ายตอนไม่ต่อเน็ตรูปที่ได้จะยังเทพอยู่รึป่าว
หรือว่ากระแสตัดช่องหูฟังกำลังมา ฮ่าๆ
ปีก่อนเคยบอกไว้ว่า 3.5mm headphones jack satisfyingly not new. แสดงว่าปีนี้บอกชัดเจนว่าเลิก satisfy กับช่องเสียบหูฟังอันนี้แล้วสินะ ถือว่าเป็นการบอกเจ้าอื่นนัยๆ ว่าเอาช่องนี้ออกได้แล้ว
"นอกจากนี้ยังตัดพอร์ตหูฟัง 3.5 มม. ออก" แซะเขาไว้เยอะ จนกระทั่งตัวเองก็ทำตามเขา เสียหมาเลยทีนี้ -,,,-
งงตรง 3.5 มม ทำไมเอาออกซะล่ะฮึ
เดี่ยวขาย หูฟัง ใหม่ไม่ได้ ฮ่าๆ
N5 ในกระเป๋ายังไม่งอแงเท่าไหร่ ลากต่อไป...
บางทีก็รู้สึก อยากแช่งให้ขายไม่ออก เพราะไปบ้าจี้ตัดช่องหูฟังออกนี่แหละ
ไม่ต้องแช่งหรอกครับเพราะปกติก็ไม่อยากขายอยู่แล้ว อินดี้แค่ออกมือถือมาเพื่อให้รู้ว่าฉันก็ทำมือถือได้ ส่วนจะหาซื้อได้ที่ไหนก็คนใช้ไปไขว่คว้ามาเอง
โดนทุกอย่างยกเว้นตัดรูหูฟัง ซึ่งสำหรับผมสำคัญมาก ถ้าแถมมาให้แล้วมี DAC ดีๆค่อยว่ากัน
เศร้าเรื่องช่องเสียบหูฟัง 3.5 เช่นกัน รู้สึกเริ่มหามือถือใหม่ ๆ แล้วตรงใจได้ยากขึ้นไปอีก จากที่ปกติก็ยากอยู่แล้ว
เพจตัวอย่างผลงานถ่ายภาพ / วีดีโอ
รีบขายเลย
มีสิงคโปร์ก็ยังดี พอจะมีปัญญาไปหิ้วเองได้อยู่
การที่เขาตัดช่องหูฟัง 3.5 เขาคงมั่นใจละว่าการส่งด้วยบลูธูทมันสามารถเทียบเท่ากับสายแล้วสินะ ถือว่าเรื่องดีแหะ
Mekokung's Story บล็อกส่วนตัวที่ย้ายไป Blogger แล้วนะ
เท่าที่ลองใช้หูบลูธูทมาผมไม่ปลื้มอย่างแรงครับ เรื่องตัดช่อง 3.5 นี่ทำผมสิ้นหวังจริงๆ เพราะเรือธงแต่ละยี่ห้อเริ่มตัดหมดละ เริ่มจะทำให้ตัวเลือกผมน้อยลงไปเรื่อยๆ
สุดท้ายก็ต้องยอมใจ USB-C to 3.5 ล่ะครับถ้าเป็นแบบนี้
หูฟังBluetoothที่คุณภาพเทียบเท่าสายนี่ราคามันเป็นกี่เท่าของแบบสายละครับ
อีกอย่างถ้าอยากผลักดันเทคโนโลยีไร้สายจริงๆ ก็น่าจะแถมหูฟังไร้สายมาในกล่องเลยสิครับ จะแถมอแดปเตอร์USB-C to 3.5mmมาทำไม และแถมแค่อแดปเตอร์ด้วยนะ ไม่มีหูฟังให้
ผมว่ามันก็แค่การลดต้นทุนโดยการตัดอุปกรณ์ออกแล้ว แล้วบังคับขายสินค้าชิ้นอื่นเฉยๆนี่แหละ
แต่เอาจริงๆ ถ้าให้เลือกว่าจะเอาอันไหน ผมเลือกอแดปเตอร์นะครับ เพราะมีหูฟังที่ใช้ประจำอยู่แล้ว จะเปลี่ยนก็กระไรอยู่
ตอนนี้เริ่มไปทาง DAC/AMP แบบ bluetooth กันแล้วครับ เช่น fiio BTR1 เพิ่งมาใหม่ ๆ เลย
คือบับว่า คะแนนจะ 99 กันแล้ว ต่อไปวัดกันแบบจุดทศนิยม กันเลยทีเดียว
ซื้อเพราะกล้องเลย เจ๋งอะ