ปัจจุบันรถยนต์มีการพัฒนาด้านเทคโนโลยีมากขึ้นเรื่อยๆ และก็หนีไม่พ้นที่อินเทอร์เฟสต่างๆ บนรถยนต์จะเยอะตามไปด้วย อย่างกรณีของ Tesla ที่มีหน้าตาขนาดใหญ่อยู่ตรงคอนโซลกลางควบคุมตัวรถทั้งหมด หรือยี่ห้ออื่นๆ ที่นำหน้าจอทัชสกรีนมาเป็นอินเทอร์เฟสกลางบริเวณคอนโซลกลางของรถ
อย่างไรก็ตาม Mazda มองว่าหน้าจอและอินเทอร์เฟสเหล่านั้นเบี่ยงความสนใจบนท้องถนนของคนขับ เลยเปิดตัวคอนเซป Mazda Vision Coupe แนวคิดการออกแบบรถยนต์แบบมินิมัล ไร้หน้าจอไร้คอนโซลกลาง ให้คนขับสนใจถนนที่อยู่ตรงหน้าเป็นหลัก โดยคอนโซลรถในคอนเซปนี้มีเพียงพวงมาลัยเท่านั้นที่อยู่บนคอนโซลหน้า ส่วนที่เป็นหน้าจอก็จะมีเฉพาะหลังพวงมาลัยและเยื้องๆ ข้างพวงมาลัยเล็กน้อย ที่เหลือเป็นแดชบอร์ดโล่งๆ ที่ Mazda บอกว่าจะเป็นหนังและไม้
Vision Coupe เป็นเพียงคอนเซปเบื้องต้นเท่านั้น และก็คาดว่าจะได้เห็นบนรถยนต์จริงๆ ก่อนปี 2020 เริ่มที่ Mazda 3 และ Mazda 6 ก่อน
ที่มา - The Verge
Comments
ปรับแอร์ยังไง
สงสัยมาพร้อม skyactiv-x แต่ผมกลัวคอนเซปต์นี้โดนตีตกก่อน กระแสต่อต้านน่าจะเยอะแน่นอน แต่ผมชอบนะ
ให้ความรู้สึกเหมือนรถยนต์ ที่ประกอบขายในประเทศคอมมิวนิสต์ ปี 1960
ถ้าชอบ option น้อยขนาดนี้ สั่ง Lada Riva made in Egypt
มาขับก็ได้นะครับ มีแค่ พวกมาลัย ,เกียร์กระปุก ส่วนวิทยุ มีช่องเว้นไว้ให้ไปหาติดกันเอาเอง
ออกแบบตามแนวคิดมินิมัลครับให้มันดูน้อยที่สุด ไม่ใช่ใส่ option น้อยๆ ทำอย่างนั้นแล้วใครจะมาซื้อละครับ
ไร้พื้นที่ใช้สอยด้วยป่าว
จริง ๆ คนเราก็ไม่ได้ interact กับ console กลางขนาดนั้นนะ
That is the way things are.
ผมว่า อาจจะมีเป็นแอพควบคุมระบบต่างๆ ลงในมือถือมั้งนิ
ละสายตากว่าเดิมอีก ฮา ๆเว้นแต่ว่าสั่งนู๋สิริ นู๋GG ทำให้
ไร้คอนโซลกลาง ??????
ดีที่เหลือคันเกียร์ไว้ ไม่ใช่เอาไปวางไว้หลังพวงมาลัยแบบเบนซ์แล้วส่องดูหน้าปัดว่าตัวเองเข้าเกียร์อะไรอยู่
เกียร์รถผมอยู่คอนโซลกลาง เวลาจะดูว่าเข้าเกียร์อะไรอยู่ ผมก็ดูที่หน้าปัทนะ จะก้มมาดูเกียร์มันลำบากไปหน่อย - -* ผมนึกว่าหลายคนเป็นแบบผมซะอีก
ผมก็ไม่เคยหันดูคันเกียร์ครับ แต่รถผมเกิยร์มันเป็นขั้นบันไดอยู่แล้วมันรู้ว่าเกียร์อะไรไม่ต้องดู หน้าปัดยังไม่ค่อยดูเลย
อคติทำให้คนรับเหตุผลด้านเดียว
ดูที่หน้าปัดเหมือนกัน แต่ฟีลลิ่งไม่เหมือนกันครับ ของเบนซ์ในที่นี้เอาเกียร์ออกไปจากคอนโซลเลย แล้วย้ายไปอยู่แบบก้านไฟเลี้ยวแทน เวลาจะเข้าเกียร์ต้องดันขึ้นดันลงแบบไฟเลี้ยว แต่ก้านเกียร์กลับไม่ค้างแบบไฟเลี้ยว กดแล้วเด้งคืน ทำให้การค็อนเฟิร์มสถานะเกียร์ ทำได้เพียงอย่างเดียวคือต้องดูที่ไฟหน้าปัดเอา ถ้าใช้ใหม่ๆไม่ชำนาญ แรกๆต้องคอยมองดูจอตลอด ประหนึ่งว่ากลัวเกียร์จะหายไปไหน 555
เห็นด้วยมาก ว่าจอทัชสกรีนทำลายสมาธิการขับสูงพอๆกับคุยโทรศัพท์เลยก็ว่าได้ เพราะแทบจะเป็นไปไม่ได้เลยกับการกดแบบอาศัยความคุ้นเคยโดยไม่มองตัวเครื่อง บางยี่ห้อนี่ก็โรคจิตทำเมนูซุกๆซ่อนๆซะกว่าจะหาอะไรเจอเล่นเอาเปลี่ยนไป 4 หน้า ยิ่งถ้ากดตอนรถกำลังวิ่งหรือสะเทือนนี่เข้าขั้นต้องเพ่งกระแสจิตกันเลยทีเดียว เพราะนิ้วเรามันส่ายไปส่ายมา ไม่เหมือนเวลานั่งกดสมาร์ทโฟน ทั้งหมดทั้งปวงเกิดขึ้นขณะที่รถกำลังวิ่งไปเรื่อยๆ สรุปจอทัชในรถเนี่ยเป็นอะไรที่ไม่เวิร์คด้วยประการทั้งปวง
งานนี้ผมสนับสนุนมาสด้าเต็มร้อย ถ้าทำได้จะไปถือป้ายไฟเชียร์
แล้วปรับอากาศยังไงอะครับ ฟังเพลง หรือแม้แต่เน???
ปล. ผมว่าขับรถแบบหลงๆแล้วงเงอะๆงะๆ มีสิทธิ์เกิดอุบัติเหตุเยอะเหมือนกันนะ เขาจะแก้เรื่องเนยังไง
ผมพูดถึงรถที่มีจอทัชสกรีนทั่วๆไปน่ะครับ ที่ต้องใช้นิ้วกดบนจอสัมผัสตรงๆแทนการกดบน Physical Buttons ว่ามันไม่ค่อยเวิร์ค เหมือนเป็นลูกเล่นแฟนซี แต่ใช้งานจริงไม่ค่อยดี อย่างไรก็ตามผมเคยลองใช้วิทยุมีจอ แต่สั่งการโดยใช้ Gesture แบบ Nokia Meego พบว่ามันกลับเวิร์คมากเลยทีเดียวสำหรับการใช้งานในรถ เสียดายมีแต่ยี่ห้อไต้หวันทำออกมา ยี่ห้อดีๆมองข้ามวิธีการนี้กันหมดเลย
แต่ถ้าถามถึงคันในข่าวนี้ ผมตามไปอ่านที่ต้นทางมา คือ มันมีสิ่งที่คุณต้องการอยู่นะครับ ไม่ใช่ตัดออกไปเลย เพียงแต่มันถูกซ่อนเอาไว้ถึงเวลาจะใช้จริงค่อยเปิดออกมา แต่เขาไม่มีรูปให้ดู ผมคิดว่าคงเหมือนหลายๆค็อนเซ็ปของรถยี่ห้ออื่นก็คือปุ่มควบคุมแอร์อาจจะเป็นเก๊ะเล็กๆดึงออกมาได้จากใต้แผงยาวๆตรงกลาง หรือจอเนวิเกเตอร์ ก็มีอยู่แต่มีฝาปิดไว้ให้ดูเรียบร้อย ซึ่งทั้งหมดนี่จะเปิดค้างไว้ตลอดก็ได้ถ้าต้องการจะใช้บ่อยๆ ส่วนเรื่องความลำบากของการใช้จอทัช ทุกวันนี้มาสด้าตัวที่ขายในปัจจุบันนี่ก็มีการแก้เกมส์ไว้อยู่บ้างแล้วโดยการใส่ Joystick มาให้ตรงคันเกียร์แทนการทัชตรงๆเพียงอย่างเดียว แต่ยังไม่ชัดเจนว่าคันในข่าวนี่เขาจะทำแบบนั้นอีกหรือเปล่า
ปรกติแล้วคนขับไม่สามารถปรับอะไรได้หลังจากรถวิ่งครับ เพราะผิดกฎหมายในบางประเทศ (บังคับว่ามือคนขับอยู่ได้แค่สองที่ คือพวงมาลัยกับคันเกียร์)
ผิดในบางประเทศ ก็แปลว่าบางประเทศก็ยังถูกอยู่หนิครับ ว่าแต่ที่นั่นเปลี่ยนช่องวิทยุก็ต้องจอดรถก่อนเหรอครับ รถไม่ติดแย่หรือ
อาจจะมีขายแต่รุ่นที่มีปุ่มปรับวิทยุบนพวงมาลัยก็ได้ครับ
ขับรถขึ้นเขาทางโค้งเยอะๆ ช่วงกลางคืน แสงไฟจากหน้าปัด วิทยุ จีพีเอสฯลฯ ทำให้การมองเห็นด้อยลงโดยเฉพาะตอนมืดไม่มีไฟทางและบ้านคนเลย
หรือว่าอาจจะรับคำสั่งด้วยเสียง !!!
ตรงกันข้ามกับยุค 80 โดยสิ้นเชิง...
@zumokik
ชอบระบบที่สามารถ สัมผัส และรู้ได้โดยไม่ต้องมอง แต่อันนี้อาจจะสั่งงานด้วยเสียงมากกว่า
Jusci - Google Plus - Twitter
มีระบบดีดตัวเวลาชนมั้ยคับเนี้ย !!
ผมว่านี่อาจจะเป็นการเปิดประตูสู่ยุค No UI อย่างเป็นทางการ