Mark Zuckerberg ซีอีโอ Meta ไปออกรายการพอดคาสต์ Joe Rogan Experience ซึ่งเนื้อหาการพูดคุยครอบคลุมหลายเรื่อง ทั้งการจัดการเนื้อหาบนแพลตฟอร์ม, การเข้าพบว่าที่ประธานาธิบดี Trump และหัวข้อที่เป็นประเด็นในข่าวนี้คือ แอปเปิล
Joe Rogan เปิดประเด็นว่าตอนนี้เขาย้ายจาก iPhone ไป Android เพราะไม่อยากยึดติดกับบริษัทใดบริษัทหนึ่ง และบอกว่าเขาไม่ชอบนโยบายหักค่าธรรมเนียม App Store ของแอปเปิล
Meta และซีอีโอ Mark Zuckerberg ประกาศการเปลี่ยนแปลงของเครื่องมือตรวจสอบความน่าเชื่อถือของข่าว (Fact-Checking) จากที่ใช้แหล่งข้อมูลจากองค์กรภายนอก 3rd Party มาเป็นระบบให้ชุมชนช่วยกันรายงานและตรวจสอบเนื้อหาที่ถูกต้องหรือ Community Notes แบบเดียวกับ X ซึ่งจะ มีผลในสหรัฐอเมริกาเป็นแห่งแรก
Meta บอกว่า Community Notes มีแผนเตรียมขยายไปยังผู้ใช้งานประเทศอื่นด้วย เมื่อเครื่องมือนี้มีการปรับปรุงมากขึ้น โดยปัจจุบันการตรวจสอบ Fact-Checking ของ Meta ใช้ข้อมูลผ่านเครือข่าย International Fact-Checking Network และ European Fact-Checking Standards Network สำหรับผู้ใช้งานในยุโรป มีผลทั้งบน Facebook, Instagram และ Threads
Fortune รายงานข้อมูลจากแหล่งข่าวใน Meta บอกว่าถึงแม้ Meta จะมีโมเดล AI แบบโอเพนซอร์ส Llama ที่พยายามผลักดันอยู่ แต่เครื่องมือช่วยเขียนโค้ดที่ใช้ภายในบริษัทชื่อ Metamate ก็เสริมการทำงานด้วยโมเดล AI จากหลายค่ายซึ่งรวมทั้ง GPT-4 ของ OpenAI และ Llama ของ Meta เอง
รายงานบอกว่า Metamate เป็นเครื่องมือช่วยเขียนโค้ดคล้าย GitHub CoPilot ที่สามารถส่งคำถามและใช้ AI ช่วยหาคำตอบ ซึ่ง Metamate จะเลือกจากทั้ง Llama หรือ GPT-4
ก่อนอื่นต้องบอกว่าอ่านข่าวถูกเว็บแล้ว ... เพราะเรื่องนี้เป็นของ Mark Zuckerberg ซีอีโอ Meta ที่กระโดดเข้าสู่พื้นที่ใหม่อีกครั้ง คราวนี้เขามาในบทบาทของศิลปินเพลงโดยคอลแลบกับศิลปินฮิปฮอปอย่าง T-Pain
เพลงที่ Zuckerberg ร้องร่วมกับ T-Pain โดยมีชื่อยูนิตเฉพาะกิจนี้ด้วยว่า Z-Pain เป็นการนำเพลงเก่า "Get Low"ปี 2002 ของ Lil Jon และ The East Side Boyz มาร้องและปรับเนื้อเพลงใหม่ในแบบอะคูสติก
Mark Zuckerberg ให้สัมภาษณ์กับเว็บไซต์ Pubity ถึงไลฟ์สไตล์ส่วนตัวของเขา โดยเขาบอกว่าเขาเป็นแฟนพันธุ์แท้ของเกม Civilization และใช้เวลาเล่นเกม Civilization 6 ไปแล้วมากกว่า 1 พันชั่วโมงแล้ว เมื่อภรรยามาเห็นตัวเลขในบัญชี Steam ของเขาก็ถึงกับตกใจว่าใช้เวลาไปขนาดนี้เลยเหรอ เขายังอยากเปิดไลฟ์ใน Twitch เล่นเกมแข่งกับคนอื่นๆ ให้ดูกัน เพราะเขามั่นใจในฝีมือการเล่นของตัวเองว่าเข้าใกล้ระดับ grandmaster แล้ว
นอกจากนี้ Zuckerberg ยังเป็นแฟนคลับตัวยงของนักการเมืองยุคโรมันอย่าง Julius Caesar และมีไอเดียอยากทำเสื้อผ้าลวดลายจักรวรรดิโรมัน ซึ่งมีต้นแบบเป็นเสื้อเขียนคำว่า "Zuck or Nothing" ด้วยอักษรสไตล์ละติน นำมาใส่โชว์ในงาน Meta Connect 2024 ด้วย
นอกจากภาพสตีฟ จอบส์ ในเสื้อคอเต่าสีดำ อีกหนึ่งภาพเราน่าจะเคยเห็นจนชินตาคือ มาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก ในลุคเสื้อยืดเทา กางเกงยีนส์ ที่ใส่มายาวนาน 13 ปี (ก่อนหน้านั้นเขาอินกับเสื้อฮู้ด) พร้อมผมสั้นที่เป็นดั่งลายเซ็นของเขาไปแล้ว
แต่ในปีที่ผ่านมา หลายคนอาจจะพอจับสังเกตได้บ้างแล้วว่าซัคเคอร์เบิร์กดูมีสไตล์มากขึ้น แต่น่าจะเห็นกันแค่คร่าว ๆ ไม่ได้คิดว่ามีอะไรพิเศษ หรือมีอะไรต้องสนใจขนาดนั้น
Mark Zuckerberg โชว์รีวิวการซื้อรถคันใหม่ให้ภรรยา Priscilla Chan ที่อยากได้รถมินิแวน แต่ มหาเศรษฐีอันดับสองของโลก เลือกซื้อรถใหม่ทั้งทีคงไม่ซื้อรถมินิแวนที่มีขายในท้องตลาดทั่วไป (รวมถึงคงไม่ซื้อรถยี่ห้อของมหาเศรษฐีอันดับหนึ่งด้วย จะต่อยกันกี่โมง)
สิ่งที่ Mark ทำคือสั่งซื้อรถแบบคัสตอมจาก Porsche โดยเป็น Porsche Cayenne Turbo GT เวอร์ชันยืดด้านหลังให้ยาวขึ้น (จนเรียกว่าเป็น "มินิแวน" ได้แล้ว) และปรับประตูหลังเป็นแบบสไลด์ให้ขึ้นลงง่ายขึ้น (คงเอาไว้รับส่งลูกไปโรงเรียน) แต่ซื้อรถให้ภรรยาคันเดียวก็อาจเสียเวลาเดินทางไปรับรถ เขาเลยสั่ง Porsche 911 GT3 Touring คัสตอมสีเดียวกันให้ตัวเองด้วยอีกคัน แล้วไปรับรถพร้อมกันเลย
เพียงไม่กี่วันจากที่ Mark Zuckerberg มีสินทรัพย์มูลค่า 2 แสนล้านดอลลาร์ เป็นมหาเศรษฐีอันดับ 4 ของโลก หุ้นของบริษัท Meta ก็ราคาพุ่งอย่างต่อเนื่อง ตัวเลขสินทรัพย์ของ Mark เพิ่มเป็น 2.06 แสนล้านดอลลาร์ และทำให้เขากลายเป็นมหาเศรษฐีอันดับ 2 ของโลก แซงหน้า Jeff Bezos และ Bernard Arnault เรียบร้อย
ตอนนี้สินทรัพย์ของ Mark มีมูลค่าเป็นรองแค่ Elon Musk คนเดียว (2.56 แสนล้านดอลลาร์) ส่วนคำถามเมื่อไร บุคคลที่รวยที่สุดในโลกสองคนจะต่อยกัน ก็คงสุดแล้วแต่ฟ้าจะทราบได้
ที่มา - Bloomberg
Mark Zuckerberg มีมูลค่าสินทรัพย์รวม (net worth) แตะหลัก 2 แสนล้านดอลลาร์ หลังจากมูลค่าหุ้นของ Meta พุ่งสูงขึ้นมากในปีนี้ ส่งผลให้สินทรัพย์ของเขามีมูลค่าเพิ่ม 7.34 หมื่นล้านดอลลาร์นับตั้งแต่ต้นปี (คิดจากอันดับมหาเศรษฐีโลกของ Bloomberg)
Mark Zuckerberg กลายเป็นเศรษฐีคนที่ 4 ในโลกที่มีมูลค่าสินทรัพย์เกิน 2 แสนล้านดอลลาร์ โดยบุคคลที่รวยที่สุดในโลกตอนนี้ยังเป็น Elon Musk (2.72 แสนล้านดอลลาร์) ตามด้วย Jeff Bezos (2.11 แสนล้านดอลลาร์) และ Bernard Arnault (2.07 แสนล้านดอลลาร์)
ไม่นานมานี้ Mark Zuckerberg ออกมาเผยว่า Meta โดนรัฐบาล กดดัน ให้ลบคอนเทนต์บางประเภทในช่วงโควิด และเสียใจที่พูดเรื่องนี้ช้าเกินไป แต่ล่าสุด Zuckerberg เผยในพ็อดแคสต์ Acquired โดย David Rosenthal และ Ben Gilbert ว่า วันคืนที่เขาจะต้องพร่ำขอโทษได้จบลงแล้ว
เขาเผยต่อว่าความผิดพลาดครั้งใหญ่ในช่วง 20 ปีของเขาคือการประเมินเรื่องการเมืองผิดไป แบกรับปัญหาที่อยู่นอกเหนือการควบคุมมากเกินไป (แต่ฝ่ายการเมืองมองว่าเป็นความรับผิดชอบของ Facebook) เช่น กรณี Cambridge Analytica ซึ่งตอนนี้เขาหาสมดุลเจอแล้ว
Mark Zuckerberg ซีอีโอ Meta เปิดเผยในจดหมายเปิดผนึกถึงคณะกรรมาธิการยุติธรรมของสภาผู้แทนราษฎร (Committee on the Judiciary of the US House of Representatives) ระบุว่ารัฐบาลไบเดน ในช่วงปี 2021 เคยกดดันให้บริษัทเซ็นเซอร์คอนเทนต์ COVID-19 บางประเภท เช่นคอนเทนต์เสียดสี
Mark บอกว่า การตัดสินใจลบหรือไม่ลบคอนเทนต์ สุดท้ายแล้วอยู่ที่ Meta ล้วนๆ แต่การกดดันแทรกแซงดังกล่าวของรัฐบาลก็ถือว่าผิด และเจ้าตัวก็เสียใจที่ไม่ออกมาเปิดเผยเร็วกว่านี้
ย้อนกลับไปช่วง COVID โซเชียลมีเดียทั้ง Meta และ Twitter (ตอนนั้น) ถูกโจมตีทั้ง 2 ด้าน ไม่ว่าจะเรื่องการเซ็นเซอร์เนื้อหา หรือกระทั่งเรื่องการปล่อยให้มีข่าวปลอมเกี่ยวกับไวรัสและวัคซีนถูกเผยแพร่อยู่บนแพลตฟอร์ม
Mark Zuckerberg ซีอีโอ Meta และ Susan Li ซีเอฟโอ ให้ข้อมูลเพิ่มเติมหลังจากบริษัทรายงาน ผลประกอบการไตรมาสล่าสุด ซึ่งเติบโตทั้งรายได้และกำไรสุทธิ แม้บริษัทจะมีค่าใช้จ่ายการลงทุน AI ที่มากขึ้น
Li บอกว่าในแง่การเงินนั้น ผลตอบแทนการลงทุน AI คาดว่าต้องใช้เวลานานมากขึ้นกว่าที่เคยประเมินไว้ ขณะที่ Zuckerberg บอกว่าตอนนี้ยังเป็นเรื่องยากที่จะคาดเดาว่าเทรนด์ AI จะเห็นผลตอบแทนเป็นรูปธรรมมากแค่ไหน แต่ในตอนนี้ Meta เลือกเสี่ยงสร้างทรัพยากรมารองรับไว้ก่อน เพื่อไม่ให้ช้าเกินไปหากเทรนด์นี้มาจริง ๆ
ถ้าจำกันได้ เมื่อปีที่แล้วมี ศึกวิวาทะ กันระหว่าง Elon Musk เจ้าของ X และ Mark Zuckerberg ซีอีโอ Meta จนถึงขั้นท้าต่อยกัน และสมาคมผู้จัดการ แข่งขันต่อสู้ UFC ก็เตรียมการรองรับ แต่จบลงที่ Mark Zuckerberg สรุปว่า Elon Musk ไม่ได้จริงจัง และทุกคนควรเลิกสนใจได้แล้ว เรื่องนี้จึงจบลงไป
เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา Donald Trump ได้โพสต์บน Truth Social ขู่ถึงเหล่าคนที่ทรัมป์เชื่อว่าสมรู้ร่วมคิดการโกงเลือกต้ังประธานาธิบดีสหรัฐครั้งที่แล้ว โดยมีชื่อ Mark Zuckerberg ซีอีโอของ Meta อยู่ในโพสต์นั้นด้วย
ในโพสต์ดังกล่าว Trump ระบุว่า เขาจะไล่จัดการพวกที่สมรู้ร่วมคิดในการโกงเลือกตั้งถ้าเขาได้รับเลือกเป็นประธานาธิบดี โดยคนพวกนั้นจะต้องโดนส่งคุกเป็นระยะเวลานาน และยังมีการพูดถึง Zuckerburg เป็นการปิดท้ายเชิงว่าให้ระวังตัวไว้ให้ดีอีกด้วย
Mark Zuckerberg ซีอีโอ Meta ให้สัมภาษณ์กับ Kane Sutter จากช่อง Kallaway ในหลายประเด็นทั้งเรื่อง AI และแผนการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ของ Meta
ในช่วงหนึ่งของการสัมภาษณ์ซึ่งถามมุมมอง Zuckerberg เกี่ยวกับ AI เขาบอกว่า AI ไม่น่าเป็นสิ่งที่รวมทุกสิ่งทุกอย่างครบในเครื่องมือชุดเดียว โดยพูดถึงบริษัทหนึ่งที่พยายามสร้าง AI ผลิตภัณฑ์เดียวแล้วทำได้ทุกอย่าง เรียกว่าเป็น AI ที่แท้จริง เหมือนกับการสร้างเทพเจ้าขึ้นมา ซึ่งนั่นไม่ใช่สิ่งที่ Meta กำลังทำ และไม่คิดว่าวิธีนั้นจะได้ผลที่ดีด้วย
Mark Zuckerberg ซีอีโอ Meta เปิดเผยข้อมูลในระหว่างช่วง แถลงผลประกอบการไตรมาส ล่าสุด โดย Threads แพลตฟอร์มโซเชียลเน้นตัวหนังสือ ที่พัฒนามาแข่งกับ X/Twitter ตอนนี้มีจำนวนผู้ใช้งานเป็นประจำทุกเดือน (MAUs) มากกว่า 150 ล้านบัญชีแล้ว
ตัวเลขที่ Meta เปิดเผยก่อนหน้านี้ ในเดือนกุมภาพันธ์ คือ 130 ล้านบัญชี สะท้อนว่าแนวโน้มของ Threads ยังคงเติบโตไปได้เรื่อย ๆ
- Read more about Threads มีจำนวนผู้ใช้งานแบบ MAUs มากกว่า 150 ล้านบัญชีแล้ว
- Log in or register to post comments
Elon Musk ในฐานะซีอีโอ Tesla และ xAI ประกาศว่า บริษัทได้ปรับขึ้นเงินเดือนและสิทธิประโยชน์ กับพนักงานในฝ่ายวิศวกรรรม AI ของ Tesla รวมทั้ง xAI บริษัทที่พัฒนาด้าน AI ของเขาด้วย
สาเหตุนั้น Musk บอกว่า เริ่มจาก Ethan Knight วิศวกรฝ่าย Computer Vision ของ Tesla มีแผนจะลาออกไปอยู่ OpenAI เขาจึงให้ข้อเสนอที่สูงกว่าและไปทำงานที่ xAI แทน เขายังบอกว่า OpenAI นั้นพยายามดึงตัววิศวกร AI จาก Tesla อยู่ตลอด โดยเสนอเงินเดือนที่สูง แต่ส่วนใหญ่ไม่ค่อยสำเร็จ
Mark Zuckerberg ซีอีโอ Meta ออกมาพูดถึงเฮดเซต Vision Pro ของแอปเปิลอีกครั้ง จากก่อนหน้านี้ เขาทำคลิปเล่าประสบการณ์ใช้งาน โดยบอกว่า Meta Quest เหนือกว่าแทบทุกอย่าง ด้วยราคาที่ถูกกว่ามาก
คราวนี้เขาตอบ ผู้ใช้งาน Threads ที่บอกว่าเขาไม่เห็นด้วยกับคำพูดคน Meta ที่ว่า Quest นั้นพื้นฐานแล้วเหมือนกับ Vision Pro เพราะความจริงคือแอปเปิลขายของบนสเป็กที่ Meta อยากไปให้ถึงใน 3-5 ปี ขณะที่ Quest ขายของราคาที่แอปเปิลอยากไปให้ถึงใน 3-5 ปี
Mark Zuckerberg ซีอีโอ Meta ยังคงอยู่ในโปรแกรมเดินทางในเอเชีย โดยเมื่อวานนี้เขาได้เข้าพบหารือกับประธานาธิบดีเกาหลีใต้ Yoon Suk Yeol เป็นเวลา 30 นาที ที่ทำเนียบฯ
เนื้อหาการพูดคุยที่มีรายงานออกมานั้น ประธานาธิบดี Yoon ได้แสดงความกังวลเรื่องการจัดการข่าวปลอมบนโซเชียลมีเดีย และต้องการให้ Meta ทำหน้าที่ร่วมพัฒนาให้โลกดิจิทัลมีความน่าเชื่อถือ ซึ่ง Zuckerberg ก็ตอบว่า Meta ยังคงเดินหน้าจัดการปัญหานี้ตลอด โดยเฉพาะสำหรับการเลือกตั้งใหญ่ในหลายประเทศที่กำลังมาถึง ซึ่งเกาหลีใต้ก็จะจัดการเลือกตั้งทั่วไปในเดือนเมษายนนี้
ยังคงเกาะติดการเดินสายในเอเชียของ Mark Zuckerberg ซีอีโอ Meta กันต่อ หลังจากเขาไป เล่นสกี ตีดาบ และกินแมคโดนัลด์ ก็ถึงเวลาเรื่องจริงจัง โดยเขาได้เข้าพบนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น Kishida Fumio ที่โตเกียว เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ซึ่งตัวแทนของสำนักนายกรัฐมนตรีบอกว่ามีการพูดคุยกันเป็นเวลา 30 นาที ในเรื่องความเสี่ยงของ Generative AI และ Zuckerberg ก็ให้สัมภาษณ์กับนักข่าวเพิ่มเติม ว่าเขายังมีความสนใจเพิ่มการลงทุนในญี่ปุ่นอีกด้วย
Mark Zuckerberg ซีอีโอ Meta ได้เดินทางตามโปรแกรมที่หลายประเทศในเอเชียตั้งแต่สัปดาห์ที่ผ่านมา โดยตัวแทน Meta บอกว่าเขาจะไปหารือเรื่องการพัฒนา AI รวมถึงพูดคุยกับภาคธุรกิจและหน่วยงานรัฐของแต่ละประเทศ
Zuckerberg เริ่มทริปด้วยการเดินทางไปเล่นสกีกับครอบครัวที่ญี่ปุ่นเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว และมีกำหนดพบกับพนักงาน Meta ที่สำนักงานญี่ปุ่น โดยมีหัวข้อหลักคือเฮดเซต Quest และโมเดล AI Llama ในสัปดาห์นี้ จากนั้นเขาจะเดินทางไปเกาหลีใต้ช่วงกลางสัปดาห์ โดยอาจพบกับประธานาธิบดี Yoon Suk Yeol และพาร์ตเนอร์ทางธุรกิจบางราย ซึ่งคาดว่าเป็นซัมซุงและแอลจี
Mark Zuckerberg เล่าชีวิตส่วนตัวในรายการ Morning Brew Daily (ตอนเดียวกับ ข่าวนี้ และ ข่าวนี้ ) หลังได้รับคำถามว่า เขามีสไตล์การบริหารบริษัทอย่างไร หลังเปิดบริษัท Facebook/Meta มานาน 20 ปีแล้ว (เริ่มก่อตั้งปี 2004)
Mark ตอบว่าในตอนแรกสุดนั้นเขาไม่ได้มีความตั้งใจเปิดบริษัทเลย เขาแค่ชอบสร้างสิ่งต่างๆ เท่านั้น (I like building stuffs) เขาไปเรียนมหาวิทยาลัยโดยตั้งเป้าว่าจบไปคงไปเป็นวิศวกรในไมโครซอฟท์ อย่างไรก็ตาม แม่ของเขาเคยดักคอเอาไว้ว่า เดี๋ยวลูกก็ไปเปิดบริษัท ซึ่งเขายืนกรานว่าไม่ทำแน่ๆ และแม่ของเขาก็เคยปรามาสว่าเขาต้องเรียนไม่จบมหาวิทยาลัยแน่นอน
Mark Zuckerberg ให้สัมภาษณ์กับรายการพ็อดแคสต์ Morning Brew Daily (ตอนเดียวกับข่าว ลูกสาวคิดว่าพ่อทำอาชีพเลี้ยงวัว เพราะไม่เข้าใจว่า Meta คืออะไร ) อธิบายเหตุผลที่ เขาในฐานะผู้นำอันดับ 1 ขององค์กรต้องออกมาทำคลิปรีวิวผลิตภัณฑ์ของคู่แข่ง จนเป็นที่โจษจัน
Mark Zuckerberg ไปออกรายการพ็อดแคสต์ Morning Brew Daily เล่าถึง งานอดิเรกล่าสุดของเขาที่กำลังไปทำฟาร์มวัว โดยบอกว่าลูกสาวของเขานั้นเข้าใจว่าพ่อของพวกเธอมีอาชีพเลี้ยงวัว (cattle rancher) อยู่พักใหญ่ๆ เลย เนื่องจากยังเด็กเกินไปกว่าที่จะเข้าใจว่าบริษัท Meta คืออะไร
Mark ยังบอกว่าเขาชอบงานนี้มาก และพูดกับภรรยาว่าหากเกษียณจาก Meta แล้วจะหันไปเปิดร้าน Mark's Meats อย่างจริงจัง แต่ก็บอกว่าคนเลี้ยงวัวทั่วไปมีข้อจำกัดเรื่องการเลี้ยงเพื่อเป็นธุรกิจ ในขณะที่เขาพยายามสร้างเนื้อวัวที่ดีที่สุดในโลก จึงไม่มีข้อจำกัดเรื่องต้นทุนค่าอาหาร สามารถให้วัวกินเบียร์เพื่อกระตุ้นความอยากอาหาร และปลูกต้นแมคาเดเมียเองเพื่อเป็นอาหารสัตว์
Mark Zuckerberg โพสต์คลิปใน Instagram เล่าว่าเขาได้ทดลองแว่น Apple Vision Pro แล้ว ความเห็นของเขาคือแว่น Meta Quest ยังเหนือกว่าในแทบทุกเรื่อง ในราคาที่ถูกกว่าหลายพันดอลลาร์
Mark บอกว่าก่อนทดลอง Vision Pro เขาคาดว่า Meta Quest จะเหนือกว่าในแง่ความคุ้มค่าต่อราคา (ราคาถูกกว่ากัน 7 เท่า) แต่หลังลองแล้ว เขาพบว่าเอาแค่ตัวผลิตภัณฑ์อย่างเดียว Quest ก็เหนือกว่าแบบไร้ข้อกังขา เพราะ Quest ทำได้ดีกว่าในงานด้าน Mixed Reality ที่คนส่วนใหญ่ใช้กัน