สหภาพยุโรป เสนอร่างข้อกำหนดควบคุมการใช้ AI โดยจะเป็นนโยบายแรกของโลกในการกำกับดูแลและกำหนดขอบเขตของบริษัทว่าสามารถใช้ AI ได้ถึงระดับไหน เนื่องจาก AI ยังมีปัจจัยเสี่ยงหลายอย่าง ทั้งการคุกคามความเป็นส่วนตัว และความโน้มเอียง
ตัวร่างข้อกำหนดความยาว 108 หน้า แบ่งความเสี่ยง AI เป็น 4 ขั้น
เขตการศึกษา Lockport City School District ในนิวยอร์ก ซึ่งประกอบด้วยโรงเรียน 8 แห่ง กำลังจะใช้เทคโนโลยีตรวจจับใบหน้าเพื่อความปลอดภัยในโรงเรียน โดยเฉพาะเวลานี้ที่มีเหตุกราดยิงเพิ่มขึ้นในสหรัฐฯ
ระบบที่เขตการศึกษา Lockport มีชื่อเรียกว่า Aegis ของบริษัท SN Technologies ในแคนาดา โดยทางโรงเรียนลงทุนในระบบนี้ไป 4.2 ล้านดอลลาร์ ในวารสาร The Lockport Union-Sun and Journal ระบุว่า ระบบ Aegis จะสามารถตรวจจับบุคคลต้องสงสัย สามารถติดตามบุคคลที่เป็นผู้กระทำความผิดทางเพศระดับ 2 หรือ 3, นักเรียนที่ถูกสั่งพักการเรียน เจ้าหน้าที่ที่ถูกระงับการปฏิบัติหน้าที่ในโรงเรียน และยังสามารถตรวจจับปืนได้ 10 ประเภท ซึ่งตอนนี้กำลังอยุ่ระหว่างเริ่มต้นการใช้งาน
หนังสือพิมพ์ The Hill ของสหรัฐอเมริกา รายงานว่าเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา คณะมนตรีสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ (United Nations Human Rights Council: UNHRC) ลงมติประณามการปิดกั้นอินเทอร์เน็ตด้วยคะแนนเสียงเป็นเอกฉันท์ (consensus) ที่นครเจนีวา สมาพันธรัฐสวิส
มติดังกล่าวถือเป็นมติต่อเนื่องที่เกี่ยวกับสิทธิมนุษยชนบนอินเทอร์เน็ตที่ทางคณะมนตรีฯ ได้ออกมติมาแล้วเป็นฉบับที่สองตั้งแต่ปี 2012 โดยมตินี้ถือเป็นครั้งแรกที่มีการประณามการปิดกั้นการเข้าถึงอินเทอร์เน็ต รวมถึงยังประณามการคุกคามผู้ใช้อินเทอร์เน็ตที่ใช้เสรีภาพและสิทธิมนุษยชนบนอินเทอร์เน็ตด้วย และเรียกร้องให้ชาติสมาชิกต่างๆ ให้ความสำคัญกับประเด็นความปลอดภัยและสิทธิส่วนบุคคล รวมถึงลดช่องว่างในการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตด้วย
วันนี้ Facebook ได้เพิ่มคุณสมบัติสำหรับ Timeline ใหม่ทำให้คู่รักร่วมเพศสามารถที่จะแสดงสถานภาพสมรสของตนเองได้อย่างเต็มตัวด้วยการเพิ่มไอคอนใหม่ที่ตรงไปตรงมามากกว่าเดิม โดยไอคอนใหม่นี้จะเป็นรูปผู้ชายสองคนอยู่ข้างกัน แทนที่จะเป็นคู่สมรสชายหญิงตามปกติ
โดยครั้งแรกที่คุณสมบัตินี้ถูกเผยแพร่แก่สาธารณชนก็เมื่อหนึ่งในผู้ก่อตั้ง Facebook นาย Chris Hughes ได้แต่งงานกับคู่สมรสของเขา นาย Sean Eldridge โดยในอัพเดตบน Timeline ของเขามีการใช้ไอคอนนี้เป็นครั้งแรก และ Mark Zuckerberg ซีอีโอของ Facebook เองก็ได้มากด Like อัพเดตนี้ด้วย (กดอ่านต่อเข้ามาดูภาพ)